SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวในแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่าจะส่งจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน ขอให้มีบทบาทร่วมช่วยเหลือประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน

วันที่ 18 เม.ย. นายบรรยง พงษ์พานิช ประธาน บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) และอดีตคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าว โดยมีใจความสำคัญว่า จะเป็นกระบวนการกลั่นกรองตัดตอนความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนที่กลับมาอีกครั้งหรือไม่ โดยยกตัวอย่างการช่วยเหลือฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งอันดามัน ภายหลังสึนามิ ซึ่งองค์กรที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จริงๆ ไม่สามารถขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชนได้ เพราะภาคเอกชนถูกเกณฑ์ให้นำเงินไปมอบให้กับนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยังโชคดีที่ยังมีบางแห่งยังให้เงินมาช่วยให้ทำงานต่อได้
.
ส่วนเงินที่ให้ไปรวมที่ทำเนียบรัฐบาลมีสูงถึง 1,100 ล้านบาท แต่ช่วง 2 ปีเบิกจ่ายได้จริงแค่ 200 ล้านบาท เพราะติดระเบียบราชการ นายบรรยง จึงเสนอว่า ควรปล่อยให้ มหาเศรษฐีต่างคนต่างทำไปจะได้ประโยชน์มากกว่า.ก่อนหน้านั้น ยังได้โพสต์ถึงอีกกรณี ใจความสำคัญ คือ เตือนเรื่องการเชิญมหาเศรษฐีเข้ามาปรึกษาเพื่อนำไปสร้างนโยบายและมาตรการที่จะรักษาระบบเศรษฐกิจ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เยียวยาภาคส่วนที่เดือดร้อนว่า ส่วนนี้จะต้องระวังอย่างมาก ควรเป็นไปในแนวทางที่รับฟังข้อมูล รับฟังปัญหา ถ้าจะมีข้อเสนอก็ควรเป็นแค่ข้อเสนอ การจะนำไปปฏิบัติจะต้องทบทวนพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และการขับเคลื่อน ถ้าจะใช้ทรัพยากรเอกชนก็น่าจะเป็นในลักษณะว่าจ้าง มีระยะห่างกันในฐานะคู่สัญญา อย่าถึงกับให้เอกชนออกนโยบาย คุมนโยบาย หรือออกเงินขับเคลื่อนนโยบาย โดยยกกรณี โครงการ”สานพลังประชารัฐ” ที่เริ่มต้นก็มีเจตนาดี จะเปลี่ยนประเทศให้เป็น 4.0 มีเอกชนรายใหญ่เข้าไปร่วมกันครบครัน หลังทำมา 5 ปี ก็ยังไม่ใกล้ 4.0ไปเลยแม้แต่นิดเดียว ความเหลื่อมล้ำ ความยากจนก็ยังแย่ลง คอร์รัปชั่นไม่ลด
.
“มีแค่เหล่ามหาทั้งหลายที่มีทรัพย์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว(ตามที่Forbes เขาว่านะครับ)”
.
อีกตอนหนึ่งยังได้กล่าวถึง เรื่องทฤษฎีคอร์รัปชั่น ว่า ” ในทฤษฎีคอร์รัปชั่นนั้น การคอร์รัปชั่นขั้นสูงที่น่ากลัวที่สุดก็คือ”การกุมรัฐ”(State Capture) ซึ่งก็คือ การที่เอกชนสามารถกุมนโยบายรัฐ หรือควบคุมรัฐให้ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองได้ …อีกครั้งนะครับ ผมกำลังไม่ได้กล่าวหาใคร แต่เรื่องอย่างนี้ต้องระวังอย่างที่สุด ไม่ให้มีแม้แต่โอกาสที่จะเกิด”
.
ทั้งนี้ นายบรรยง โพสต์ทิ้งท้ายเน้นย้ำว่า “ไม่ได้กล่าวหาใคร เพียงขออนุญาตส่งเสียงเตือนในฐานะประชาชนไว้เท่านั้นนะครับ”

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1375317202671575&set=a.115641418639166&type=3&theater

 

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1375329229337039&set=a.115641418639166&type=3&__cft__[0]=AZW_SeFYtKarqbSluxQm8YUODfZufZUAZ6kEDousDvik49KctyGE-q2G2Tt8NQKvwvxhBhJaGpA95nA9Gj1o6L_sM3_ujMaHwwhPrq-b7Gm4V5dhxnP5lZltQCWAA3ZpvgA&__tn__=EH-R

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า