กรณีที่กองทัพเรือเสนอจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำจากจีน มูลค่า 22,500 ล้านบาท ผ่อนจ่าย 7 ปี โดยเริ่มจากปีงบประมาณ 2564 ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณ นายกรัฐมนตรี บอกให้ กมธ.ตัดสินใจ แต่ต้องร่วมรับผิดชอบหากวันหน้าเกิดอะไรขึ้น

วันที่ 26 ส.ค. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าว โดยตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่า นึกอยู่แล้ว (ว่าจะถามเรื่อง) เรือดำน้ำ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ กมธ. กำลังพิจารณาอยู่
เมื่อถามถึงการที่ กมธ.ของพรรคประชาธิปัตย์ 7 คน จะลงมติไม่สนับสนุนการจัดซื้อเรือดำน้ำ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็เป็นเรื่องของพรรคเขาก็ว่ากันไป แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของ กมธ.ที่จะพิจารณาก็ไปดูว่าการพิจารณาเขาว่าอย่างไร ซึ่งมีอยู่หลายพรรคด้วยกัน

กองทัพเรือแถลงชี้แจงความจำเป็นในการซื้อเรือดำน้ำ เมื่อ 24 ส.ค.
กองทัพเรือก็ได้อธิบายไปหมดแล้วถึงเหตุผลและความจำเป็นทั้งหมด รวมถึงงบประมาณที่มาซึ่งเป็นของกองทัพเรือและที่ผ่านมาก็ได้มีการแก้ปัญหาในปี 2563 ไว้ให้แล้วส่วนหนึ่ง แต่โครงการอะไรก็ตามที่มีความต่อเนื่องและจำเป็นหรือไม่อย่างไรก็ต้องมีการพิจารณา ส่วนจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับ กมธ.พิจารณา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวของตนคิดว่าอะไรก็ตามที่เราต้องสร้างความมั่นคงปลอดภัยของพวกเรา ไม่ใช่เพื่อใครทั้งสิ้น ก็เพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย ทรัพยากรของชาติ ทรัพยากรของแผ่นดินจะทำอย่างไร โลกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด ความขัดแย้งอะไรต่างๆ มีเยอะหรือไม่

“(เรือดำน้ำ) ไม่ได้มีไว้ไปรบ ไม่ได้มีไว้ไปสู้กับใคร แต่เป็นสิ่งที่เขาเรียกว่าอาวุธทางยุทธศาสตร์ และข้อสำคัญเป็นงบประมาณของกองทัพเรือเขา เป็นงบประมาณในกระทรวง ซึ่งที่สุดแล้วแต่ว่าจะพิจารณากันอย่างไรก็แล้วกัน วันหน้าทุกคนก็ต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งหมด ถ้าเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า คงไม่ใช่แค่ผมคนเดียว เป็นเรื่องของมติของคนหลายคนและหลายๆ พรรคด้วยกันก็สุดแล้วแต่”
พล.อ.ประยุทธ์ ตอบเรื่องการตัดสินใจจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ว่า คิดว่าการทำงานระหว่างพรรคร่วมเป็นไปได้ด้วยดี ขออย่ายกมาเป็นประเด็น