SHARE

คัดลอกแล้ว

ป.ป.ช.ชี้มูล ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ ร่ำรวยผิดปกติกว่า 1,000 ล้าน เร่งขอศาลยึดบ้าน-รถหรู คืนแผ่นดิน

แม้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้ประหารชีวิต พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ และจำเลยอีก 5 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย (ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด) แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากมีการเยียวยาโดยจ่ายค่างานศพ และมอบค่าเสียหายให้พ่อแม่ผู้เสียชีวิตคนละ 300,000 บาท รวม 600,000 บาท

ล่าสุดวันนี้ (31 ต.ค. 2565) มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดคดีร่ำรวยผิดปกติอดีต ผกก.โจ้ – พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ เป็นจำนวนเงินกว่า 1,000 ล้านบาท และขอให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน พร้อมให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดินด้วย

สำหรับการตรวจสอบทรัพย์สินผู้กำกับโจ้ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2564 หลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 6 (ป.ป.ช.ภาค 6) เร่งรัดนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้มีมติมอบหมายให้ดำเนินการไต่สวนกรณีกล่าวหา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือผู้กำกับโจ้ ในการเรียกรับทรัพย์สินจากผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยได้มีการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทรัพย์สินของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ทั้งหมดตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งบ้านหรู รถยนต์หรู มูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท กรณีมีการอ้างถึงผู้ถือทรัพย์สินแทน (นอมินี) รวมถึงการถูกกล่าวหาเรียกรับทรัพย์สินด้วย เพื่อนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ สำนักงาน ป.ป.ช. จนกระทั่งมีการนำเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. และมีมติชี้มูลความผิดคดีร่ำรวยผิดปกติ นอกจากนี้ ป.ป.ช. จะส่งรายงานสำนวนไปให้ผู้บังคับบัญชาและต้นสังกัดพิจารณาลงโทษทางวินัย ซึ่งโทษสูงสุดคือ ไล่ออกราชการ ฐานทุจริตประพฤติมิชอบ

สรุป คดีผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหารีด 2 ล้าน จนศาลอนุมัติออกหมายจับ

สรุปไทม์ไลน์คดีผู้กำกับโจ้-พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ รีดไถเงินผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 2 ล้านบาท โดยใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนเสียชีวิต กระทั่งมีคลิปออกมา จนล่าสุดศาลอนุมัติออกหมายจับ

1.วันที่ 25 ส.ค. ศาลจังหวัดนครสวรรค์อนุมัติออกหมายจับผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังร่วมกันก่อเหตุรีดไถเงินผัวเมียผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย 2 ล้านบาท แต่ไม่ได้ จึงใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนเสียชีวิต กระทั่งมีคลิปออกมา  

2.ที่มาที่ไปคดีนี้เริ่มจาก วันที่ 5 ส.ค. ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ จับกุมผู้ต้องหา สองสามีภรรยาพร้อมกับยาเสพติด 1 แสนเม็ด บนถนนสายเลี่ยงเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นได้นำตัวมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

3.มีการเรียกเงินจากผู้ต้องหา 2 ล้านบาท ผู้ต้องหายอมจ่าย 1 ล้านบาท แต่ตำรวจบอกจะเอา 2 ล้านบาท หลังจากนั้น พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้นำถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนเสียชีวิต 

4.จากนั้นมีการนำศพส่งโรงพยาบาล และให้ลูกน้องบอกกับหมอว่า เสพยาเกินขนาดตาย พร้อมปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิงไป บอกว่า ไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดียาเสพติด

5.วันที่ 6 ส.ค. ผลชันสูตรที่ออกโดยโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ ระบุว่า เสียชีวิตจากพิษสารแอมเฟตามีน 

6.ชุดจับกุมเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยทนไม่ได้ จึงร้องเรียนมาที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ บอกว่าพร้อมให้ข้อมูล 

7.วันที่ 22 ส.ค. ทนายเดชา ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ระบุว่า มีตำรวจร้องเรียนมา ถึงเรื่องดังกล่าว 

8. หลังทนายเดชาออกมาเปิดเผยข้อมูล พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) บอกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ทราบเรื่องแล้วได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง 

9.มีคำสั่งให้ ผู้กำกับโจ้ ย้ายไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.6 ไว้ก่อน เพื่อไม่เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงจะต้องถูกดำเนินการทางวินัย และถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายต่อไป

10.ผู้กำกับโจ้ ยืนยันไม่ได้มีการซ้อมหรือทำร้ายใดๆ จนทำให้เกิดการเสียชีวิต และไม่มีการเรียกร้องเงิน

11.พ่อของผู้เสียชีวิต ไม่ติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย เชื่อว่ามาจากโรคประจำตัว พร้อมบอกว่าตำรวจจับยาเสพติดแล้วเรียกเงิน และทำให้ลูกชายเสียชีวิต ไม่เป็นความจริง  

12.วันที่ 24 ส.ค. 2564 ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก วินาทีผู้กำกับโจ้ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต

13.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต

14.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามให้ ผู้กำกับโจ้ ออกจากราชการแล้ว พร้อมสั่งกำชับอย่าปล่อยให้หลบหนี

15.จเรตำรวจแห่งชาติมีหนังสือด่วนที่สุด ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ผู้กำกับโจ้ ระบุมีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นข้าราชการตำรวจต้องหาว่ากระทำความผิดคดีอาญา และมีพฤติการณ์อันเป็นความร้ายแรง สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ มีรายงานว่าผู้กำกับโจ้ ไม่อยู่ในพื้นที่แล้ว กระทั่ง

16.สำหรับประวัติผู้กำกับโจ้ เรียนจบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 41 และเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 57  

17.เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับการ กองกำกับการ 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) มีผลงานในเรื่องของการสืบสวน – หาข่าว จนสามารถเลื่อนยศขึ้นเป็น พ.ต.อ. ได้อย่างรวดเร็ว 

18.ผู้กำกับโจ้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น ตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมัง มีการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง

19.ผู้กำกับโจ้ เป็นตำรวจที่มีชื่อในแวดวงไฮโซ มีเพื่อนพ้องอยู่แวดวงไฮโซตั้งแต่ตอนเป็นสารวัตร 

20.ผู้กำกับโจ้ มีฉายา ‘โจ้ เฟอร์รารี่’ เพราะ มีรถสปอร์ตหลายคัน รวมถึงแลมโบกินี Aventador LP 720-4 50 Anniversario ซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 50 ปี ของ Automobili Lamborghini ผลิตเพียง 100 คัน มูลค่าหลายสิบล้าน 

21.เคยเป็นข่าวกับดาราสาว ‘เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร’ ถึงขั้นขอแต่งงาน แต่ภายหลัง เมย์-พิชญ์นาฏ ทราบว่า สารวัตรโจ้ มีเมีย มีลูกแล้วจึงได้เลิกรากันไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า