สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ GPT-4 โมเดลล่าสุดของ ChatGPT ที่ Open AI ปล่อยเวอร์ชั่น 3.5 ให้ลองใช้งานกันจนถล่มทลายมาแล้ว เรามาดูกันว่า GPT-4 เก่งขึ้นยังไง ทำอะไรได้แตกต่างจากเวอร์ชั่นที่แล้วบ้าง
[ ตอบคำถามจากภาพได้ ]
ที่เด่นๆ เลยคือ เราสามารถถามคำถามด้วยการโยนรูปภาพเข้าไปได้ โดย GPT-4 จะตอบกลับมาเป็นข้อความ เช่น ป้อนภาพอาหารเข้าไป แล้วให้ GPT-4 ตอบกลับมาว่าในอาหารนี้มีส่วนประกอบอะไรบ้าง
[ ทำข้อสอบเก่งขึ้น ]
ต่อมาคือ ทำข้อสอบเก่งขึ้น Open AI เทสต์ให้ GPT-4 ทำข้อสอบทั่วไป ในสาขาวิชาต่างๆ เช่น การเขียน เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์อเมริกัน ผลลัพธ์คือได้คะแนนสูงกว่าเวอร์ชั่น 3.5 ในภาพรวม
เกณฑ์มาตรฐานของคำตอบปรนัยในสาขาวิชาต่างๆ ตัว ChatGPT เวอร์ชั่น 3.5 ทำได้ดีในภาษาอังกฤษ ทาง Open AI จึงได้แปลเกณฑ์มาตรฐาน MMLU (Measuring Massive Multitask Language Understanding) เรียกง่ายๆ ว่าการทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ ในภาษาต่างๆ เป็นชุดปัญหาแบบปรนัย 14,000 รายการ ซึ่งครอบคลุม 57 เรื่อง ซึ่งในการทดสอบ 24 ภาษาจากทั้งหมด 26 ภาษา GPT-4 มีประสิทธิภาพดีกว่าภาษาอังกฤษของ GPT-3.5
โดยภาษาไทยนั้น GPT-4 มีความถูกต้องแม่นยำที่ 71.8%
[ กำหนดพฤติกรรมได้ ]
ที่ผู้เขียนมองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของ GPT-4 คือ นักพัฒนาสามารถตั้งค่ากำหนดพฤติกรรมของ GPT-4 ที่จะส่งผลถึงคำตอบได้ เช่น กำหนดให้ GPT-4 ไม่ตอบคำถามตรงๆ แต่กระตุ้นให้คนถามได้คิดหาคำตอบด้วยตัวเองก่อน ซึ่งจะช่วยลดการตอบฟุ่มเฟือย นอกเรื่องอย่างที่เป็นในเวอร์ชั่น 3.5
GPT-4 ยังถูกเทรนจากมนุษย์เพิ่มเข้ามา (RLHF) เสริมการแทรนในเวอร์ชั่นก่อนๆ ที่เทรนโดยใช้ข้อมูลมหาศาลจากอินเทอร์เน็ต และข้อมูล public ต่างๆ ซึ่งรวมๆ แล้ว จะช่วยลดคำตอบเพี้ยนๆ ของ AI ที่บางทีคนจำโน้มน้างให้ AI พูดอะไรแย่ๆ ออกมา
[ ความจำดีขึ้น ]
GPT เรียนรู้ข้อมูลมหาศาลจากเว็บไซต์ หนังสือ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่เมื่อต้องสนทนากับผู้ใช้จริงๆ จะมีข้อจำกัดว่าพวกเขาสามารถ “จำ” สิ่งที่คุยมาทั้งหมดได้มากน้อยเพียงใด
GPT เวอร์ชั่น 3.5 จำได้ประมาณ 4,096 โทเค็น หรือประมาณ 8,000 คำ ซึ่ง GPT-4 จำได้สูงสุด 32,768 โทเค็น หรือประมาณ 64,000 คำ หรือข้อความประมาณ 50 หน้ากระดาษ ซึ่งเพียงพอสำหรับบทละครเรื่องหนึ่ง หรือเรื่องสั้นสักเรื่อง
Open AI บอกว่า “ในการสนทนาแบบสบายๆ ทั่วไป ความแตกต่างระหว่าง GPT-3.5 และ GPT-4 นั้นไม่มาก แต่ความแตกต่างเกิดขึ้นเมื่อถามคำถามที่ซับซ้อนมากพอ GPT-4 จะมีความน่าเชื่อถือ สร้างสรรค์ และสามารถจัดการกับคำสั่งที่เหมาะสมกว่า GPT-3.5 มาก”
GPT-4 เปิดใช้เฉพาะ ChatGPT Plus ที่ต้องเสียเงินเท่านั้น และจะเปิดให้นักพัฒนาเข้ามาลงทะเบียนรอใช้งาน API ได้
สำหรับบริษัทที่จะนำ GPT-4 ไปใช้งานคือ Stripe, Duolingo, Morgan Stanley, Microsoft ซึ่งจะใช้งานใน Bing, Be My Eyes แอปพลิเคชั่นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้จัก แชทบ็อท ChatGPT ตอบคำถามยากได้ อาจมาแทนแรงงานทักษะสูงในอนาคต https://workpointtoday.com/get-to-know-chatgpt-by-open-ai/
- Open AI ผู้สร้าง ChatGPT บริษัทที่ Microsoft วางเดิมพันเพื่อแข่งกับ Google https://workpointtoday.com/get-to-know-chatgpt-by-open-ai/