‘โปรพราว’ สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์ LPGA

ชเนตตี วรรณแสน หวด 9 อันเดอร์ฯ วันสุดท้าย คว้าแชมป์แอลพีจีเอ รายการพอร์ตแลนด์ คลาสสิค ที่สหรัฐฯ

‘โปรพราว’ ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟสาววัย 19 ปีจากเชียงใหม่ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟหญิงไทยคนที่ 7 ที่สามารถคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ ได้สำเร็จ จากรายการพอร์ตแลนด์ คลาสสิค พร้อมรับเงินรางวัล 225,000 เหรียญสหรัฐ (7.4 ล้านบาท) 

โดยในการแข่งขันที่สนาม โคลอมเบีย เอดจ์วอเตอร์ คันทรี คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,467 หลา ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา โปรพราวที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 3 วันแรก จบด้วยสกอร์ 4, 6 และ 7 อันเดอร์พาร์ ยังคงทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เก็บเพิ่มได้อีก 9 อันเดอร์พาร์ในวันสุดท้าย คว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 26 อันเดอร์พาร์ ชนะอันดับ 2 อย่าง หลิน ซีหยู จากจีน ไป 4 สโตรก

หลังจากการแข่งขันจบลงเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566 ตามเวลาประเทศไทย ในช่วงบ่าย โปรพราวได้ให้สัมภาษณ์สดทางออนไลน์กับผู้สื่อข่าว ผ่านแอปพลิเคชัน Microsoft Team ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ก่อนหน้านี้รู้สึกเครียด เพราะทำผลงานไม่ดีนัก แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้จนทำให้ตัวเองมีวันนี้ 

โปรพราวยืนยันว่า ที่ผ่านมาพยายามพัฒนาตัวเองมาตลอด หลังออกสตาร์ทในการเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ แบบไม่น่าประทับใจ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ โดยเฉพาะ ‘นายตุ่ม’ สันติ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และคุณรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ที่ส่งกำลังใจ และร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จ

โปรสาวชาวไทย เปิดเผยความรู้สึกหลังจบการแข่งขันว่า “ก่อนออกสตาร์ทวันนี้บอกกับตัวเองว่าต้องชนะให้ได้ เพื่อรักษาการ์ดทัวร์ ยอมรับว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะก่อนนี้ไม่ผ่านการตัดตัวถึง 9 รายการติด แต่ด้วยความทุ่มเท และไม่เคยย่อท้อที่จะพัฒนาตัวเองเสมอไว่าจะเป็นเรื่องเกมการเล่น สภาพร่างกาย และสภาพจิตใจ ที่ได้รับกำลังใจมากมายจากพี่ๆเพื่อนๆผู้สนับสนุน หรือครอบครัว จึงพาตัวเองมาถึงตรงจุดนี้ได้”

ก่อนเริ่มรายการนี้ ชเนตตี เพิ่งจะคว้าอันดับ 2 ใน แอปสัน ทัวร์ ซึ่งเป็นทัวร์รองของแอลพีจีเอ ในรายการเซอร์คลิ่ง ราเวน แชมเปี้ยนชิพ ที่อินเดียนา โดยเจ้าตัวเผยว่า “การคว้าอันดับ 2 ใน แอปสัน ทัวร์ ช่วยกระตุ้นความมั่นใจของตัวเองให้มีมากขึ้น และดีใจที่ได้รับโอกาส ซึ่งพอความมั่นใจมา ทำให้มีส่วนช่วยอย่างมากกับการเล่นในสัปดาห์นี้ รวมถึงประสบการณ์จากการแข่งขันระดับอาชีพในเมืองไทย”

นอกจากนี้ โปรพราว ยังเผยว่า “ก่อนเริ่มแข่ง (พอร์ตแลนด์ คลาสสิค) ได้รับข้อความจาก ‘นายตุ่ม’ สันติ ภิรมย์ภักดี ที่ส่งกำลังใจมาให้ รวมถึงส่งข้อความแสดงความยินดีหลังจบการแข่งขัน ทำให้รู้สึกอบอุ่น และอยากขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนพราวมาตลอด ตั้งแต่ยังเป็นนักกอล์ฟเยาวชน รวมถึงคุณรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟ ที่ให้คำปรึกษามาโดยตลอด” 

“นอกจากนี้ต้องขอบคุณ ‘พี่วิ่ง’ (ภรณีย์ ชุติชัย สวิงรุ่นพี่จากเชียงรายที่รับหน้าที่แคดดี้) ที่ช่วยพูดคุย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังใจจากคนรอบข้าง อีกอย่างความอบอุ่นของเหล่าบรรดานักกอล์ฟรุ่นพี่ๆ ชาวไทยที่แข่งขันที่ แอลพีจีเอ ทัวร์ ด้วยกัน ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกอบอุ่น และให้กำลังใจเสมอเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความกดดัน และปัญหา”

โปรพราว กล่าวต่อว่า “ชื่นชอบสนามนี้ ดูเข้าทางกับการเล่นของตัวเอง เพราะมีโอกาสทำเบอร์ดี้ได้เยอะ ที่ผ่านมาตัวเองมีปัญหาในการทำแต้ม อีกอย่างพอความมั่นใจมันมา เลยทำให้รู้สึกว่าไม่ว่าผลงานจะออกมาแบบไหนตัวเองรับได้หมด จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ หลุม 5 พาร์ 5 เป็นหลุมที่ประทับใจ เพราะทำอีเกิ้ลได้จากการพัตต์ไกล และเมื่อตอนถึงหลุม 14 พาร์ 3 ได้เห็นสกอร์บอร์ด ก็บอกกับตัวเองว่า “เราทำได้” โดยเฉพาะพัตต์สุดท้ายที่ทำออกมาได้อย่างที่ตั้งใจไว้”

แชมป์นี้ทำให้ โปรพราว การันตีโอกาสเล่นในทัวร์อีก 2 ซีซั่น ซึ่งเจ้าตัวทิ้งท้ายว่า “สำหรับตอนนี้อยากทำผลงานให้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกมลูกสั้นที่อยากทำให้ดีมากขึ้น หลังจากนี้จะแข่งขันต่อไป โดยในสัปดาห์หน้ามีโปรแกรม ที่จะลงเล่นในรายการ โครเกอร์ ควีน ซิตี้ แชมเปี้ยนชิพ ที่ โอไฮโอ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (66 ล้านบาท) ที่สนาม เคนวู้ด คันทรี คลับ, เคนเดล คอร์ส”