‘ทนายด่าง’ ติดใจแถลงกรมราชทัณฑ์ กรณี ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต กังวลเอกสาร-วงจรปิด ถูกทำลาย

‘ทนายด่าง’ ติดใจแถลงกรมราชทัณฑ์ กรณี ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต พร้อมแสดงความกังวลหลักฐาน เอกสาร-วงจรปิด ถูกทำลาย

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือทนายด่าง ให้สัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในวันนี้ (15 พ.ค. 67) ระหว่างการมาเป็นพยานการผ่าชันสูตรพลิกศพ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ว่า เมื่อวานเป็นการชันสูตรตาม ป.วิอาญา ทั่วไป แต่วันนี้จะเป็นการผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต จากคำแถลงของกรมราชทัณฑ์ที่ระบุว่า หัวใจล้มเหลว ตอนนี้กำลังปรึกษาแพทย์ที่ทำการชันสูตรว่า สาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากอะไร ดูตั้งแต่กายภาพ เช่น มีบาดแผล มีการทำร้ายร่างกายหรือไม่ หรือมีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายทางร่างกายหรือมีเหตุอะไรที่ทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวหรือไม่ และตั้งข้อสังเกตว่า การรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในขั้นต้นทำถูกวิธีหรือไม่

“เมื่อวานเป็นเพียงการดูสภาพร่างกายภายนอกเท่านั้น ยังไม่ได้ผ่าพิสูจน์ คาดว่าจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง โดยผลการชันสูตรน่าจะออกมาภายในเย็นวันนี้ ส่วนผลเลือดและสารคัดหลั่งต้องรอผู้เชี่ยวชาญภายนอกตรวจสอบ ซึ่งจะใช้เวลาถึง 4 สัปดาห์ถึงจะทราบผล เบื้องต้นได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่นิติเวชว่าจะต้องเก็บร่างบุ้งไว้หรือไม่ ซึ่งแพทย์แจ้งว่า ไม่มีปัญหาหากมีรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรสามารถนำศพไปบำเพ็ญพิธีทางศาสนาได้”

ทนายกฤษฎางค์ กล่าวถึงประกาศแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์ว่า ส่วนตัวมีข้อติดใจ 2 ข้อ คือ ตั้งแต่บุ้งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ถอนประกันตัว และเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ต่อมาประกาศอดอาหาร แต่ญาติพี่น้องไม่รับรู้ กระทั่งเกิดอาการทรุดหนัก และถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ก่อนถูกส่งตัวกลับไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ อีกครั้งในวันที่ 4 เม.ย. 67 ซึ่งยังติดใจในอาการหมดสติของบุ้งเช้าเมื่อวานนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ดูแลรักษาดีหรือไม่

ทั้งนี้ ตนพยายามเรียกร้องมาตั้งแต่แรกว่าอย่าเพิ่งส่งตัวบุ้งกลับไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพราะหากดูศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้น มีข้อจำกัด ส่วนข้อที่ 2 กรณีที่มีประกาศแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า บุ้งสามารถทานอาหารและน้ำได้ปกตินั้น แต่ทำไมค่าเกลือแร่ต่ำ เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะตามปกติร่างกายจะมีค่าเกลือแร่ต่ำ ต่อเมื่อสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์

ทนายกฤษฎางค์ ย้ำว่า ประเด็นสำคัญคือ รัฐได้ดูแลผู้ต้องขังที่ยังไม่ถูกศาลตัดสินว่าผิด มีคุณภาพหรือไม่ หากวันหนึ่งศาลยกฟ้อง แต่ผู้ต้องขังได้เสียชีวิตในลักษณะนี้ ถือว่าไม่สมควร และตั้งคำถามถึงความล่าช้าของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กว่าจะส่งตัวบุ้งมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ หลังหมดสติและไม่พบชีพจร เรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ต้องเป็นผู้ตอบคำถาม

ทนายกฤษฎางค์ ยังเรียกร้อง ให้เจ้าหน้าที่ดูแลพยานหลักฐาน ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อวานให้ดี ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องที่สะท้อนอะไรหลายอย่าง สิ่งที่ตนกังวลใจที่สุดคือ เมื่อวานนี้ช่วงเช้าเกิดอะไรขึ้นกับบุ้งบ้าง ซึ่งพยานปากสำคัญในเหตุการณ์เมื่อวาน น่าจะเป็น น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ที่อยู่เตียงใกล้เคียงกัน ซึ่งจะต้องมีกล้องวงจรปิดตลอดเวลา และประวัติการรักษาของแพทย์ ที่จะระบุว่าก่อนหน้านี้ไปรักษาที่ไหนอาหารหรือยาที่ให้ก่อนเกิดเหตุใครเป็นผู้ให้และมีวิธีการรักษาอย่างไร รายละเอียดเหล่านี้จะอยู่ในกระดาษที่มีโอกาสทำลายหลักฐานได้

ทั้งนี้ ทนายกฤษฎางค์ เปิดเผยด้วยว่า พ.ต.อ.ทวี ได้โทรศัพท์มาหา แต่ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียด และเชิญให้ไปร่วมแถลงข่าวด้วยกันที่กรมราชทัณฑ์ แต่ตนไม่น่าได้ไป แต่จะคอยติดตาม คงต้องฝากถึงหน่วยงานยุติธรรมจะปล่อยให้เกิดเรื่องลักษณะเหล่านี้ขึ้นอีกไม่ได้ ขณะนี้ยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอยู่ในเรือนจำ ที่ศาลยังไม่ตัดสินกว่า 40 คน และมี 2 คนที่ประกาศอดอาหาร โดยตนมองว่า เรื่องนี้เลยเถิดจนฝ่ายการเมืองไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประมวลภาพ อาลัย ‘บุ้ง ทะลุวัง’

รมว.ยุติธรรม ยืนยัน ‘บุ้ง ทะลุวัง’ หัวใจหยุดเต้น เสียชีวิต หลังอดอาหารประท้วง 110 วัน

ศูนย์ทนายสิทธิฯ เผย ‘บุ้ง ทะลุวัง’ คดี ม.112 หัวใจหยุดเต้น กรมราชทัณฑ์ อยู่ระหว่างตรวจสอบ