‘วิษณุ’ เผย ‘เศรษฐา’ ขอให้เป็น ‘รองนายกฯ’ แต่ไม่รับ ไม่ติดใจเคยถูกแซะ “ไม่มียางอาย”

‘วิษณุ’ เผย ‘เศรษฐา’ ขอให้เป็น ‘รองนายกฯ’ แต่ไม่รับ เล่าเหตุการณ์ถูกบุกชวนถึงบ้าน ยันไม่ติดใจเคยถูกแซะ “ไม่มียางอาย”

วันนี้ (30 พ.ค. 67) นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทาบทามให้มาเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยสรุปได้เล่าเหตุการณ์ว่า นายกฯ ได้มาพบตน เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา บอกให้ช่วยเป็น รองนายกรัฐมนตรี แต่ตนแจง 3 เหตุผลปฏิเสธไปคือ

1. เรื่องสุขภาพ ที่เป็นทั้งโรคไต และโรคตา

2. ในช่วงเวลา 10 เดือนที่พ้นจากตำแหน่งได้รับงานอื่นไว้จำนวนมาก หากต้องลาออก งานก็จะเสียงาน

3. มีปัญหาที่บ้านต้องจัดการหลายอย่าง

นายกฯ จึงเสนอให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตนจึงตอบว่า ไม่อยากจะวุ่นวายกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน จึงถูกชวนอีกว่าให้มาเป็น ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่ต้องเป็นข้าราชการการเมือง ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ไม่มีห้อง และรถประจำตำแหน่ง มีแค่เบี้ยประชุม เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาล

ตนจึงถามกลับว่า รัฐบาลมีปัญหาอะไร นายกฯ รับว่า ที่ผ่านมามีการถกเถียง หรือบางครั้งเป็น ครม. กับชาวบ้านนอก ครม. ดังนั้นเมื่อมีปัญหาอะไรจึงอยากปรึกษา ตนจึงตอบรับว่า เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค. จะได้โลว์โปรไฟล์มาหน่อย และอาจจะช่วยดูวาระ ครม. ที่สำคัญ นายกฯ จึงพูดว่า จากการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เห็นตรงกันว่า อยากให้นายวิษณุ ร่วมประชุม ครม. ด้วย เพื่อจะได้ทักท้วงได้ทันท่วงที ไม่ใช่มีมติไปแล้ว จึงมาแก้ไข

ตนก็ท้วงไปอีกว่า ในที่ประชุมครม. มีกฤษฎีกา และรัฐมนตรีหลายคนก็เป็นนักกฎหมาย เช่น นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน แต่ นายกฯ  ตอบกลับว่า ในบางเรื่องอยากจะได้ผู้ที่เป็นกลาง เพราะหากนายพีระพันธ์ พูดอะไร ก็มีหัวโขนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วย และหากทะเลาะข้ามกระทรวงแล้วใครจะฟัง ตนจึงบอกว่า แล้วแต่ท่านนายกรัฐมนตรีไปจัดการ แต่หากหาผู้ที่มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีได้แล้ว ตนขอบ๊ายบาย กลับไปทำงาน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง เป็นเพราะนายกรัฐมนตรี ถูก 40 สว. ยื่นร้องใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่นายกฯ จะมาปรึกษาเรื่องนี้ แต่ตนไม่ใช่เจ้าของเรื่อง นายพิชิต ชื่นบาน ต้องเป็นผู้ดำเนินการ รวมทั้งกฤษฎีกา ทีมกฎหมาย และอัยการ ที่ต้องเข้ามาดูเรื่องนี้ และอาจจะให้ตนเข้าไปช่วยดูได้

เมื่อถามว่า คดีนี้จะเป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่เห็นสำนวน และคำร้อง แต่ก็เข้าใจว่านายกฯ อยากให้ตนเข้าไปช่วยดู ซึ่งเมื่อครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกร้อง 5 คดี ตนก็เข้าไปช่วยดู แต่ไม่ได้เข้าไปดูในฐานะหัวหน้าทีม ส่วนคดีนี้ตนยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากยังไม่เห็นคำร้อง แต่หากจะตอบแบบมีความหวัง ก็คิดว่าพอมีหนทางในการสู้คดี แต่สู้แล้วชนะหรือไม่ ไม่รู้

ไม่ติดใจ “ไม่มียางอาย”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีในโซเชียลฯ ขุดว่านายเศรษฐา เคยรีทวีตของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. พร้อมข้อความระบุว่า “ไม่มียางอาย” ติดใจหรือไม่ นายวิษณุ ถามกลับว่า “ใครไม่มียางอาย” เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่านายเศรษฐาเคยทวีตดังกล่าว นายวิษณุ ตอบว่า “ผมไม่รู้ ไม่ติดใจ หรือที่ท่านนายกฯ ทักษิณ​ เคยโพสต์ว่าผม​ ในตอนนั้นผมก็แลกกันไปคนละหมัดแล้ว”

ส่วนที่นายเศรษฐา ออกมาชี้แจงว่า ที่พูดไปคือว่าที่ “ความ” ไม่ได้ว่าที่ “คน” นายวิษณุ รับว่า อันนี้จริง ท่านก็พูดกับตนเช่นนั้น ว่าเราเอาความเป็นใหญ่​ อย่าไปเอาคน​ และว่า ตนสนิทและรู้จักกับนายเศรษฐา​ อยู่ก่อนนานแล้ว ก่อนที่ท่านจะว่าอะไรที่ว่าด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่า เหตุผลอะไรที่ใจอ่อน เพราะขณะนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการตระบัดสัตย์ เพราะก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะไม่รับตำแหน่งและกลับไปเลี้ยงหลาน นายวิษณุ​ ระบุว่า ตนก็ปฏิเสธ​ ไม่รับตำแหน่ง ถ้าตระบัดสัตย์ก็รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไปแล้ว อุตส่าห์เขียนหนังสือเรื่องชีวิตที่เหมือนทรายกับทะเล วันหนึ่งทะเลก็คือการเมือง ก็ขึ้นมาซัดทรายอยู่เรื่อยๆ ที่หมอดูเคยทายเอาไว้ ซึ่งวันนี้ก็มาถึง แต่ว่า ให้เป็นรองนายกฯ ตนไม่เป็น และย้ำว่าถ้าใครมาชวนตนก็เปิดสะดือให้ดู ก็เปิดจริงๆ เมื่อเขาชวนเป็นรองนายกฯ แต่พอชวนเป็นที่ปรึกษา ซึ่งแสนที่จะธรรมดาอาทิตย์หนึ่งทำงานที่บ้าน 6 วัน ใครมีเรื่องอะไรก็เอาแฟ้มมาให้ตนดูที่บ้าน ไม่ได้ลำบากลำบนอะไร ทุกวันนี้สอนหนังสือเนติฯ เหนื่อยกว่าอีก

ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลทำให้หนักใจหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่หนักใจ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ระบอบประชาธิปไตย ใครจะว่ายังไงก็ว่ากันได้ ข้อสำคัญ “สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ใจย่อมรู้อยู่แก่ตัวเอง”

เมื่อถามอีกว่า หากนายกฯ หากหารองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ไม่ได้ ก็จะทำงานต่อไปหรือไม่ นายวิษณุ​ กล่าวว่า ไปถึงจังหวะพอสมควร ถ้านานเกินไป ตนก็มีเหตุผล 108 เช่น เจ็บป่วยลง ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวแซวนายวิษณุว่า อย่าแช่งตัวเอง

ปัดคัมแบ็กมาเตรียมช่วยปูทางให้ ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับไทย 

ส่วนที่มีการมองกันว่า มาเพื่อปูทางการกลับมาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ​ ยืนยันว่าไม่จริง เพราะการที่จะนำ น.ส.ยิ่ง​ลักษณ์​กลับมา ไม่ได้ยากเลย​ ซื้อตั๋วส่งไปให้ก็มาได้แล้ว สิงคโปร์-กรุงเทพฯ ลอนดอน-กรุงเทพฯ หรือ ดูไบ-กรุงเทพฯ ส่งไปก็มาแล้ว​ ปัญหาคือมาแล้วถูกจำคุก 5 ปี เป็นการจำคุกที่ศาลได้ตัดสินแล้ว จะไปช่วยอะไรตรงนี้ได้

นายวิษณุ ยังยืนยันว่า ไม่มีดีล อีกทั้งช่วงนี้ไม่ได้มีการติดต่อกับ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ องคมนตรี​ โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์​ ท่านไม่ได้ติดต่ออะไรกับใคร เพราะท่านไม่ยุ่งการเมืองอยู่แล้ว ส่วน พล.อ.ประวิตร​ ก็ไม่รู้​ แต่ได้ยินว่าท่านป่วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึง การโยงไปถึงบิ๊ก ฉ. อดีตปลัดกระทรวง นายวิษณุ ย้อนถามว่า “ปลัดฉิ่ง” ใช่หรือไม่ และว่า รู้จักแต่ไม่ได้มาดีลกับตน

สื่อมวลชนจึงย้อนถามว่าแล้วใครดีล นายวิษณุ​ จึงระบุว่า​ คนดีลคือ นายกฯ เศรษฐา​ โทรศัพท์มาจากเมืองนอก รู้สึกว่าจากประเทศอิตาลี แต่ใครไปแนะนำท่านผมไม่รู้

คำสั่งฯ แต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เศรษฐา’ บอกตั้ง ‘วิษณุ’ เป็นที่ปรึกษานายกฯ แจงอดีตเห็นต่างเป็นเรื่อง “ความ” ไม่ใช่เรื่อง “คน”

‘เศรษฐา’ ให้รอคำสั่งอย่างเป็นทางการ หลังสะพัดตั้ง ‘วิษณุ’ เป็นที่ปรึกษา สลค. แล้ว

‘เศรษฐา’ ยอมรับเข้าพบ ‘วิษณุ’ หารือข้อกม. แจงศาลรัฐธรรมนูญ กรณีตั้ง ‘พิชิต’ เป็นรัฐมนตรี