Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กมธ. เตรียมชงนิรโทษกรรม คดีมีเหตุจูงใจทางการเมืองพ่วงคดีไม่รุนแรง นับเวลาตั้งแต่ปี 48 ถึงปัจจุบัน แยกคดี ม.112 พิจารณาต่างหาก

วันนี้ (2 พ.ค. 67) ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม เปิดเผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกันว่า จะมีการนิรโทษกรรมการกระทำและการแสดงออกทั้งหลาย ที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง โดยมีคำนิยามว่า มูลเหตุทางการเมือง หมายถึงการกระทำอะไรบ้าง โดยจะนิรโทษกรรมตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนจะนิรโทษกรรมการกระทำอะไรบ้าง ที่ประชุมมีความเห็นชอบร่วมกันว่า การกระทำที่มีโทษนั้น ควรจะเป็นการกระทำที่อยู่ในบทนิยามคำว่า “มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง” ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะไปสรุปประเภทคดีว่า มีการกระทำอะไร ตั้งแต่ 2548 จนถึงปัจจุบัน ที่อยู่ในข่ายมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ก็จะนำเข้ามาเป็นรายละเอียดพร้อมทั้งแยกแยะให้เห็น เนื่องจากการกระทำหลายอย่างดูแล้วไม่ใช่ และไม่อยู่ในข่ายที่เป็นมูลเหตุจูงใจทางการเมืองโดยตรง แต่การกระทำในทางกฎหมายที่เรียกว่า เป็นความผิดในหลายบท เช่น บางคนอาจจะโดนคดีหลักและมีคดีรอง เช่น คดีจราจรทางบก คดีนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ คดีเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นต้น

นายชูศักด์ กล่าวต่อว่า ทางกมธ.ฯ จะแยกแยะการกระทำประเภทนี้ว่า มีการกระทำอะไรบ้างที่จะสมควรได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ ซึ่งบางเรื่องจะมีขอมติให้ขอนิรโทษกรรมไปเลย เพราะบางคดีเป็นความผิดที่ไม่รุนแรงนัก เช่น ความผิดพ่วง เป็นต้น นอกจากนั้นที่ประชุมยังมีมติขอขยายพิจารณาออกไปอีก 60 วัน แต่กมธ.คงใช้ไม่เต็มทั้ง 60 วัน โดยกมธ.จะทำรายงานสรุปให้เสร็จก่อนเปิดสภาฯในครั้งหน้าในเดือนก.ค.

ส่วนมีคดีอะไรบ้างที่จะให้นิรโทษกรรม นายชูศักด์ กล่าวว่า เป็นคดีที่เราระบุเกิดตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันเกี่ยวกับเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ระบุถึงประเภทคดีแบบเป็นรายคดีว่า หมายถึงการกระทำหรือคดีอะไรบางที่อยู่ในข่ายควรที่จะได้รับนิรโทษกรรม ซึ่งจะทำเป็นรายละเอียดไปเสนอให้กับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ได้พิจารณาในชั้นรายละเอียด ส่วนจะเป็นคดีอะไรบ้างเราจะทำเป็นรายละเอียดแนบเป็นรายงานเพิ่มเติมเข้าไป

“เราก็คิดว่าถ้ามีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองแล้วส่วนใหญ่ก็ต้องได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด โดยไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไร”นายชูศักดิ์ กล่าว

ส่วนคดีเกี่ยวกับมาตรา 112 นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะแยกไปเป็นอีกกรณีหนึ่ง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีความเห็นที่อาจจะยังไม่ตรงกันมาก เราจึงคิดว่าหน้าจะแยกออกมาเป็นการเฉพาะเพื่อพิจารณาว่าเรามีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่โดยจะไม่พิจารณาร่วมไปในเรื่องที่เราพูดกันไปแล้ว

จากนั้นนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กมธ. ในซีกฝ่ายค้าน ได้แถลงว่า กมธ. จะใช้แนวทางตั้ง คณะกรรมการพิจารณาคดีที่เข้าข่ายการนิรโทษกรรม แทนการออกกฎหมายกำหนดฐานความผิด ซึ่งรูปแบบของคณะกรรมการฯ จะพิจารณาอีกครั้ง ทั้งที่มา และอำนาจหน้าที่ ซึ่งเคยมีตัวอย่างเกิดแล้ว ในช่วงปี พ.ศ. 2489 และ 2499

“กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการฯ นั้น พรรคก้าวไกลได้เสนอไว้ในร่างกฎหมาย เพราะมองว่า การนิรโทษกรรมใดๆ นั้นมีรายละเอียดที่พิจารณา อย่างไรก็ดีข้อเสนอเรื่องตั้งคณะกรรมการฯ นั้นไม่ใช่โยนเรื่องให้องค์กรนอกสภาฯ เพราะสามารถกำหนดที่มาของคณะกรรมการฯ โดยยึดโยงกับสภาฯ ได้ อีกทั้งกรณีดังกล่าวไม่ใช่เพื่อทำให้เข้าทางพรรคก้าวไกล แต่เป็นข้อเสนอที่พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกับสถานการณ์มากกว่า” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวถึงข้อเรียกร้องส่วนตัวของตนเห็นว่า ในระหว่างที่ไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรม ขอให้รัฐบาลใช้กลไกของฝ่ายบริหารเพื่อให้สถานการณ์ความขัดแย้งดีขึ้น เช่น มีนโยบายที่ชัดเจน ไปยังฝ่ายตำรวจไม่ให้ฟ้องคดีกับประชาชนที่แสดงออกทางกรเมือง และให้เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ใช่อำนาจนอกกฎหมายฟ้องร้อง หรือใช้กฎหมายที่เคร่งครัดจนตึงเกินไป รวมถึงใช้นโยบายคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองหรือในชั้นอัยการที่ยังไม่ส่งคดีขึ้นสู่ชั้นศาล คณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถมีมติส่งความเห็นไปยังอัยการได้ เพราะอัยการสามารถไม่สั่งฟ้องคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือเป็นคดีนโยบายได้ เป็นต้น

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า