พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018-19 ดำเนินมาถึงนัดสุดท้าย โดยใครจะเป็นแชมป์ยังต้องรอผลในนาทีสุดท้ายของการแข่งขันอยู่

ลุ้นกันยันนัดสุดท้าย
แต่สำหรับมุมมองของคอบอลทั่วไปแล้ว ต้องบอกว่าสองทีมที่ลุ้นแชมป์ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พาเอาแฟนบอลกลางๆ ได้สนุกกับการดูบอล
ผลงานอันยอดเยี่ยมของทั้งสองทีม ทำให้เกิดสถิติต่างๆ มากมายตามมา
- สองทีมลงสนามรวมกัน 74 นัดคว้าชัยชนะมาถึง 60 นัด พลาดไปแค่ 14 นัด
- จาก 74 นัด ทั้งสองทีมเก็บคลีนชีทไม่เสียประตูได้ถึง 40 นัด
- อลิสซอน และ เอเดอร์สัน สองผู้รักประตูทำคลีนชีตมากที่สุดคนละ 20 ลูก
- ประตูได้เสียรวมกันเป็นบวกถึง 134 ลูก เป็นของเรือใบ 69 และหงส์แดง 65 ประตู
- ยิงประตูได้รวมกันได้มากถึง 178 ประตู
- ทั้งสองทีมผ่านบอลรวมกันมากถึง 48,820 ครั้ง
- ถ้าคว้าแชมป์สำเร็จ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะครองสถิติเก็บชัยชนะ 14 นัดติด พวกเขาทำผลงานในครึ่งฤดูกาลหลังอย่างสุดยอด เอาชนะ 17 นัด แพ้ 1
- กองหน้าลุ้นดาวซัลโวทั้ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ 22 ประตู ซาดิโอ มาเน่ และ เซร์จิโอ อเกวโร่ 20 ประตูเท่ากัน มีเพียง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง คนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ 20 ประตูเช่นกันแล้วยังอยู่ในข่ายลุ้นรองเท้าทองคำ
- 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของฤดูกาล สองทีมนี้ครองไปถึง 10 คน เป็นแมนเชสเตอร์ซิตี้ 6 คน ลิเวอร์พูล 4 คน
- รองแชมป์คะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
- และอาจจะเป็นรองแชมป์ที่มีคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์บอลยุโรป 5 ถ้วยใหญ่ตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมา โดยทีมที่เป็นรองแชมป์และคะแนนสูงสุดก่อนหน้านี้คือ รีล มาดริด ที่ทำไป 96 คะแนนในฤดูกาล 2009-10 แต่พลาดแชมป์ให้บาร์เซโลน่า
เรียกว่าตลอด 8 เดือนของศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทั้งสองทีมต่างทำงานกันได้อย่างสุดยอด แบบที่เรียกว่า ต่อให้ใครพลาดแชมป์ ก็ถือว่าน่าเสียดาย แต่ก็สามารถมองทีมตนเองได้อย่างภาคภูมิใจจริงๆ

ฟิล โฟเด็น ดาวรุ่งที่โผล่มาทำประตูช่วงสำคัญ

แนวรุกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดาหน้าถล่มประตู

ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีมาก แต่จะดีพอเป็นแชมป์หรือไม่?

เกมรับเหนียว เติมเกมบุก ทำประตูได้เสมอ

ปราการหลังแข็งแกร่ง ทำให้ทีมเสียประตูไปแค่ 22 ลูก น้อยที่สุดในลีกร่วมกับเรือใบ