LGBTQ+ มีพลังใช้จ่าย-ท่องเที่ยวมากกว่าที่คิด ไม่อยากบ้ง! ธุรกิจต้องปรับตัว เรียนรู้ ‘วิธีไม่เลือกปฎิบัติ’

โลกในตอนนี้หมุนเร็วเกินกว่าจะมีใครมานั่งนับจำนวนแล้วว่า ณ ตอนนี้มีกลุ่มคนเพศหลากหลายมากน้อยขนาดไหน แล้ว LGBTQ+ แต่ละกลุ่มมีจำนวนมากเท่าใด เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่สิ่งที่ควรรู้คือ การปรับตัวและเข้าใจกลุ่มคนเหล่านี้ โดยไร้อคติ ไม่แบ่งแยก และไม่เลือกปฎิบัติ

แม้ว่าประเทศไทยจะเปิดกว้างในเรื่อง ‘สมรสเท่าเทียม’ ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ยังไม่ใช่สำหรับทุกประเทศทั่วโลกที่ทำแบบเดียวกัน

สิ่งเหล่านี้กำลังบอกอะไร? มันสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียม การไม่เปิดใจยอมรับว่าโลกเรามีมากกว่า ‘เพศหญิง-เพศชาย’ และที่สำคัญคือ ยังมีการเลือกปฎิบัติกับกลุ่มคนเหล่านี้ แม้แต่ในช่วงทริปท่องเที่ยวซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษสำหรับทุกคน

[ กลุ่มคนเพศทางเลือก (ยัง) โดนดูถูก เหยียดหยามระหว่างท่องเที่ยว ]

‘ฉัตรสุดา เลิศพิริยกมล’ Area Manager Partner Services Thailand and Indochina จาก Booking.com พูดถึงผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ว่ากลุ่มคนไทย LGBTQ+ มีประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่น่าจดจำ โดย 75% ของผู้เดินทางกลุ่มนี้ เคยถูกเลือกปฎิบัติในขณะที่เดินทาง เทียบกับผู้เดินทาง LGBTQ+ ทั่วโลก อยู่ที่ 59%

ประมาณ 80% ของคนไทยกลุ่มนี้คิดล่วงหน้าอยู่แล้วว่า ต้องเจอพฤติกรรมที่ไม่เคารพ และแบ่งแยกจากเพื่อนร่วมทาง โดย 81% คาดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากคนท้องถิ่นด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้เดินทาง LGBTQ+ คนไทย 59% ได้ยกเลิกทริปท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมา หลังจากที่พบว่า จุดหมายปลายทางที่พวกเขาวางแผนจะไปยังไม่มีนโยบายหรือแนวทางเพื่อสนับสนุนกลุ่มคน LGBTQ+ ที่อาศัยอยู่ในประเทศเหล่านั้น

ที่น่าเศร้าก็คือ ประมาณ 48% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ คนไทยเลือกที่จะปกปิดตัวตนในระหว่างท่องเที่ยว และสร้างตัวตนอีกแบบขึ้นมาเพื่อให้การเดินทางในทริปนั้นปลอดภัย และ 65% เพื่อไม่ต้องการให้พวกเขากลายเป็นจุดสนใจ

[ พลังของกลุ่มคน LGBTQ+ ยามใช้จ่าย และเดินทางท่องเที่ยว ]

‘ไจ๋ ซีร่า’ หรือ ศิรวิชญ์ กมลวรวุฒิ แดร็กควีนตัวแม่ผู้ได้ฉายา ‘มาดอนน่าเมืองไทย’ ได้พูดในฐานะที่เป็นตัวแทนกลุ่ม LGBTQ+ เมืองไทยว่า คนกลุ่มนี้มีกำลัีงซื้อมากกว่าที่หลายคนคิด พวกเขาชื่นชอบที่จะท่องเที่ยว ใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าจะราคาสูงแค่ไหน

ซึ่งก็สอดคล้องกับการวิจัยล่าสุดของ Arival ว่ากลุ่ม LGBTQ+ ทั่วโลก เป็นกลุ่มที่กล้าจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์ที่ได้รับ มากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช่ LGBTQ+

โดยตลาดการท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ ทั่วโลก เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญมาก ซึ่ง World Travel & Tourism Council (WTTC) และ International Gay & Lesbian Travel Association (IGLTA) ได้ประเมินว่า ตลาดนี้มีมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านเหรียญต่อปี

ขณะเดียวกัน ‘สหรัฐอเมริกา’ เพียงประเทศเดียวคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 65,000 ล้านเหรียญ ถือว่าสูงมากๆ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องควรตระหนักคิดถึงเป้าหมายกลุ่มนี้มากกว่านี้ รวมไปถึงประโยชน์และสิ่งที่พวกเขากังวลระหว่างท่องเที่ยว เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่เท่าเทียมกัน ไม่มีการเลือกปฎิบัติ

ในมุมของธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง ‘โรงแรม’ ซึ่งในงานแถลงข่าว ‘แพทริค อเล็กซานเดอร์ โบท’ General Manager Kimpton Maa-Lai Bangkok Hotel, Regional General Manager Luxury & Lifestyle เป็นตัวแทนของโรงแรม และมาแชร์มุมมองที่น่าสนใจ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ของ Booking.com และอยู่ในโปรแกรม Travel Proud ด้วย

ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2021 เพื่อฝึกอบรมการต้อนรับผู้เข้าพักอย่างครอบคลุม และให้เข้าใจถึงปัญหาและความท้าทายของผู้ที่มาพัก LGBTQ+ เช่น พนักงานควรเรียกคำนำหน้า หรือเรียกแขกกลุ่มนี้อย่างไร? หรือวิธีการจัดการ หรือ นโยบายของโรงแรมที่ควรรองรับคนกลุ่มนี้ เป็นต้น

โดยการอบรม 75 นาทีนี้ Booking.com จัดให้ฟรี และเมื่อเดือนเมษายนเพิ่งเปิดตัว ‘ภาษาไทย’ เป็นที่เรียบร้อย เพระาก่อนหน้านี้มีเพียงภาษาอังกฤษ, อิตาลี, ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส, บราซิล, โครเอเชีย, ญี่ปุ่น, กรีก, โปรตุเกส และ เยอรมัน

ในปัจจุบันมีที่พักที่ได้รับการรับรอง Travel Proud มากกว่า 67,000 แห่งทั่วโลกบน Booking.com ครอบคลุม 133 ประเทศและดินแดน รวมถึง 12,645 เมืองและจุดหมายปลายทาง สำหรับไทยมีโรงแรมและที่พักที่ได้ Proud Certified แล้ว 1,700 แห่ง เพิ่มขึ้นจาก 81 แห่งก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ฉัตรสุดา เลิศพิริยกมล ได้พูดปิดท้ายว่า ในอนาคตคาดหวังที่จะเห็นโรงแรมและที่พักในไทย และทั่วโลกเพิ่มจำนวนป้าย Travel Proud มากขึ้นเพื่้อสะท้อนให้เห็นว่า โลกในเวลานี้ได้เปิดกว้างสำหรับคนกลุ่มนี้มากแค่ไหน

มองว่าความเคลื่อนไหวของ Booking.com และโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ รวมถึงโรงแรมอื่นในทั้งหมด 1,700 แห่งของไทยนั้น เห็นพ้องตรงกันว่า ความปลอดภัย, การต้อนรับอย่างอบอุ่น, การสร้างความรู้สึกที่เท่าเทียมให้กับลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะเพศอะไร

คือ หนึ่งใน mindset ที่ทันสมัย และเปิดกว้างมากๆ ของโลกธุรกิจ ลองคิดดูสิ หากโลกธุรกิจ การตลาด หรืออื่นๆ พยายามเข้าใจ และเปิดกว้างสำหรับคนทุกกลุ่มในทุกเรื่องเท่าๆ กัน มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะเคลื่อนไหวสดใสเพียงใด