Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

“น้องบุญ – กัญณภัทร ชินวงศ์” คือผู้เข้าแข่งขันจากทางบ้าน ที่สมัครมาร่วมรายการ I Can See Your Voice และได้รับเลือกเป็นนักร้องเสียงเพราะ ความสวยบวกความสามารถอันโดดเด่น ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปนับจากวันนั้น

หากใครได้ชมรายการ I can see your voice ทางช่องเวิร์คพอยท์ ที่แขกรับเชิญเป็นวงมายด์ คงจำสาวน้อยหน้าสวยเสียงใสคนนี้ได้เป็นอย่างดี เธอคือ “น้องบุญ – กัญณภัทร ชินวงศ์” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 แห่งคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หลังจากเทปรายการวันนั้นออกอากาศ เชื่อว่าหลายคนคงตามหาวาร์ป สืบเสาะค้นหาว่าเธอเป็นใคร มาจากไหนกันไม่น้อย

“ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” มีโอกาสคุยกับเธอ ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” ซึ่งเป็นการเล่นหนังครั้งแรกของสาวน้อยคนนี้ จากการพูดคุยทำให้เรารู้ว่า “น้องบุญ” มีมิติทางความคิดที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะท่ามกลางยุคสมัยที่วัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการเข้าสู่วงการบันเทิง จนหลายคนละเลยการเรียน แต่สำหรับสาวน้อยคนนี้ ความฝันเดิมที่ทำให้เธอเลือกเรียนด้านกฎหมาย…ยังคงชัดเจน

ความฝันคงเดิม เพิ่มเติมคืองานบันเทิงที่เสมือนขนมหวาน

“น้องบุญ” เรียนจบ high school จากประเทศอังกฤษ และเดินทางกลับประเทศไทย โดยเลือกเรียนต่อในคณะนิติศาสตร์ เธอบอกว่าที่เลือกเรียนทางด้านกฎหมาย เพราะต้องการช่วยเหลือผู้คนไม่ให้ถูกเอาเปรียบ ในระหว่างที่เรียน “น้องบุญ” ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมของคณะ ที่ได้นำความรู้ทางด้านกฎหมายมาช่วยเหลือสังคมด้วย อาทิ การช่วยเหลือชาวบ้านชุมชนบ้านราไวย์ จ.ภูเก็ต กรณีพิพาทเรื่องที่ดิน เป็นต้น

สำหรับเส้นทางบันเทิง ก่อนหน้าที่จะมาออกรายการ I Can See Your Voice เธอเคยเข้าประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2015 และผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ต่อมาในปี 2017 ได้รางวัลชนะเลิศฝ่ายหญิงตัวแทนภาคกลาง GSB Campus Star ของธนาคารออมสิน นอกจากนี้ ยังเล่นดนตรีได้และชอบร้องเพลงด้วย เธอจึงสมัครเข้าแข่งขันในรายการ I Can See Your Voice

จากนักศึกษาสายกฎหมาย ชีวิตของเธอจึงเปลี่ยนไปไม่น้อย หลังจากมาออกรายการ I Can See Your Voice เธอกลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน เธอบอกว่ามีคนมาทักมากขึ้น และแน่นอนว่ามีงานบันเทิงติดต่อเข้ามามากขึ้น แต่แม้เส้นทางงานบันเทิงจะดูไปได้สวยเพียงใด ทว่าความใฝ่ฝันที่อยากเป็น “ผู้พิพากษา” ยังคงแข็งแกร่งดุจเดิม

“หนูอยากเป็นผู้พิพากษาค่ะ ถ้าหนูมีบุญวาสนาถึงนะ วันหนึ่งถ้าได้เป็นผู้พิพากษาแล้วต้องตัดสินคดี อย่างถ้าต้องตัดสินคดีเกี่ยวกับความรัก หนูคงตัดสินให้สมูธที่สุด เพราะคนทุกคน ต่อให้คนนั้นผิด คนนี้ถูก แต่ทุกคนก็มีความรู้สึก คือนอกจากตัดสินตามเหตุผลในฐานะที่เราเป็นผู้พิพากษาแล้ว ก็ต้องดูว่าสภาพความรู้สึก จิตใจของเขาเป็นยังไงด้วย ให้ผลออกมาได้รับการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด

“ตอนนี้เรียนหนักมากค่ะ เพราะต้องต่อเนฯ ด้วย แล้วก็คิดถึงเรื่องเรียนต่อ ป.โท ที่ต่างประเทศด้วย ต้องกวดภาษาอังกฤษ มีหลายอย่างที่คนอื่นไม่รู้ว่า เรียนนิติฯ นอกจากเรื่องท่องจำ มันยังมีองค์ประกอบเรื่องอื่นๆ ที่ต้องใช้อีกด้วย อย่างคนจะบอกว่านิติฯ นี่คือหนีภาษา หนีเลขมา แต่พอเรียนจริงๆ ต้องมี อย่างกฎหมายภาษี ก็ต้องมีการคำนวณเลข หรืออย่างพวก Eng Law พวกภาษาอังกฤษมันก็ต้องมีน่ะค่ะ ถ้าคนที่จะต้องมาสอบผู้พิพากษา สอบอัยการ แล้วไปเรียนต่างประเทศ ก็ต้องมีการใช้ภาษาให้คล่อง ถือว่าเรียนสายนี้ครบรสมากค่ะ เรียนจบแล้วอยากทำงานด้านนิติฯ ตามที่เรียนมาก่อน แต่งานในวงการบันเทิงก็เหมือนเป็นขนมหวานในชีวิต ให้เราผ่อนคลาย งานบันเทิงก็สนุกค่ะ ทำให้ได้เห็นมุมมองต่างๆ ที่กว้างขึ้น ได้เพื่อนด้วย ได้รุ่นพี่ ได้รู้จักพี่ๆ รู้สึกดี”

มิกซ์แอนด์แมตช์ สิ่งที่เรียน กับงานที่ทำ

อย่างที่ทราบกันดีว่า การเรียนด้านกฎหมายต้องอาศัยการท่องจำเยอะ แต่ที่นอกเหนือจากการท่องจำคือการทำความเข้าใจตัวบทกฎหมาย และเพียงเอ่ยคำว่า “นิติศาสตร์” หรือ “กฎหมาย” เชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกถึงความเป็นทางการ ความเครียด ซึ่งเป็นสิ่งที่สวนทางกับงานบันเทิงที่ “น้องบุญ” กำลังทำอยู่ แต่อย่างที่เธอกล่าวว่า งานบันเทิงเหมือนขนมหวาน อีกทั้งเธอยังนำเอาการท่องจำที่ใช้ในการเรียน มาปรับใช้กับงานด้านบันเทิงได้ด้วย

“สิ่งที่เรียนกับงานที่กำลังทำอยู่ตอนนี้แตกต่างกันมากค่ะ เพราะเราเรียนนิติศาสตร์อยู่ แล้วมาทำกิจกรรมเหมือนนิเทศฯ ก็สนุกดีค่ะ เรียนนิติศาสตร์ต้องอาศัยความจำเยอะ หนูก็เอาเรื่องความจำมาใช้กับการท่องบท จำบท แต่จะจำเลยก็คงไม่ใช่ ต้องทำความเข้าใจก่อน อย่างเล่นหนังก็ยากอยู่แล้ว เราต้องเข้าใจว่าคาแรกเตอร์นี้ต้องการอะไร ก่อนที่จะจำน่ะค่ะ”

“ความรัก” เหมือน “เกม”

ทั้งสวยทั้งเก่งขนาดนี้ เราเชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้เรื่อง “ความรัก” ของเธอ และเมื่อถาม “น้องบุญ” บอกว่าเธอยังไม่มีแฟน แต่มีคนที่กำลังศึกษากันอยู่คนหนึ่ง ซึ่งถ้าให้เธอนิยามความรัก เธอมองว่า “ความรัก” เหมือน “เกม”

“ความรัก สำหรับหนูมันไม่เหมือนหนังสือน่ะ เป็นเกมแล้วกัน เหมือนเกมที่ต้อง control เหมือนเราเล่นไปกับมัน ถ้า control ดี เราตั้งใจ มันก็โอเค วูบแรกก็ต้องมองรูปลักษณ์ภายนอกก่อนอยู่แล้วค่ะ แต่พอรู้จักหรือเข้ามาจีบก็ต้องมองนิสัย ก็ไม่เอาเจ้าชู้นะ ไม่ชอบคนเจ้าชู้มากๆ ถ้าเจ้าชู้นี่เลิกเลย (เขาคงไม่บอกเรานะ) เดี๋ยวสักวันก็ต้องรู้เอง มันจะเผยมาเองค่ะ”

ความรู้สึกของการเล่นหนังครั้งแรกใน “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน”

แม้จะเคยผ่านการประกวดมาบ้าง แต่สำหรับงานในวงการบันเทิงอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโฆษณาหรือละคร “น้องบุญ” ยังไม่เคยมีประสบการณ์เหล่านั้นเลย

“เคยแค่มาออก I Can See แล้วก็มาเล่นหนังเลยค่ะ มีคนติดต่อให้ไปแคส เพื่อประสบการณ์ ซึ่งก็มีคนมาแคสเยอะมากและสวยด้วย แต่หนูก็อาศัยความเป็นธรรมชาติและทำเต็มที่ เลยได้โอกาสมาเล่นค่ะ ในเรื่องรัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน หนูรับบทเป็นคุณหมออิงค่ะ ซึ่งเป็นคนโลกสวย มีทัศนคติที่ดี เรียนเก่ง ซึ่งไม่ค่อยตรงกับเรา (หัวเราะ) ปกติหนูจะเป็นคนพูดเร็ว ซุ่มซ่าม เอ๋อๆ หน่อย แต่หมออิงเขาจะเป็นคนที่มีแพทเทิร์นของเขา พูดอะไรมีเหตุผล อย่างเรื่องนี้เกี่ยวกับความรัก หมอเองเขาก็จะมองความรักแบบว่า ถ้าอะไรที่มันไปไม่ได้ก็คือหยุดเลย ไม่มีอะไรทั้งนั้น อยู่กับเหตุและผล ของหนูก็เป็นนะ แต่จะไม่ได้พูดช้าเหมือนคุณหมออิง หรือแต่งตัวหวานเหมือนเขา สบายสุดของหนูก็คือรองเท้าผ้าใบ เสื้อยืด เก้าจุก ก็ไปได้แล้ว แต่ที่เหมือนกันก็คือในเรื่องของเหตุผลน่ะค่ะ ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่ถ้าได้ก็ไปต่อ

“หนังรัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน หนูว่ามันทำให้เห็นมุมมองความรักในหลายแบบ และให้ข้อคิด ไม่ว่าจะเป็นแฟนเก่า แฟนใหม่ แฟนปัจจุบัน หรืออาจจะเป็นแฟนในอนาคต รวมทั้งมีความรักของคนสูงอายุด้วย และถ้ามีกรมธรรม์เหมือนในหนัง คือคบกันครบ 2 ปี จะได้เงินคืน 100% แถมดอกเบี้ยอีก 30% แต่ถ้าไม่ครบตามกำหนด ได้เงินคืนแค่ครึ่งเดียว หนูก็จะซื้อค่ะ หนูว่าหนูได้เงินแน่ (หัวเราะ) หรือเปล่าไม่รู้นะ ถึงไม่รู้ว่าจะเลิกกันหรือเปล่า แต่หนูก็ซื้อนะ หนูว่ามันน่าสนใจ มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี ฉีกแนวดี ถ้าไม่ซื้อเองก็ชวนเพื่อนซื้อ แกลอง ถ้าเวิร์กแล้วมาบอกด้วย (หัวเราะ) ให้เพื่อนซื้อก่อนแล้วเราค่อยซื้อตาม สุดท้ายก็ไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้กันค่ะ”

ภาพ: นลิน อรุโรทยานนท์

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า