เรียกว่าเป็น FOMO (Fear of Missing Out) หรือกลัวตกกระแสก็คงไม่ผิดนัก สำหรับการที่บริษัทเทคโนโลยีแห่พัฒนาแชทบอทหลัง ChatGPT เข้ามาสะเทือนวงการ

ฝั่งอเมริกามีผู้นำคือ ไมโครซอฟท์ ได้พลัง ChatGPT จาก Open AI ไปครอง ฝั่งกูเกิลก็พัฒนา Bard เว็บบราวเซอร์ Opera ก็ซุ่มพัฒนาด้วย แม้แต่แอปหาคู่อย่าง OK Cupid ก็พัฒนาแชทบอทถามคำถาม ความต้องการของคนหาคู่อีกด้วย!

ข้ามมาฝั่งจีน อีกหนึ่งมหาอำนาจเทคโนโลยีโลก ก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้ หลายบริษัทใหญ่ออกมาให้ข่าวและกำลังพัฒนาแชทบอทสู้  ChatGPT ด้วย

เริ่มที่ Baidu หรือ ไป่ตู้ เป็นบริษัทรายแรกในจีนที่ออกมาประกาศพัฒนาแชทบอท โดยใช้ชื่อว่า Ernie Bot (ชื่อจีน Wenxin Yiyan) เป็นแชทบอทคุยภาษาจีน ใช้โมเดลภาษาที่พัฒนามาตั้งแต่ปี 2019

ทดสอบภายในแล้ว และจะเปิดใช้ มี.ค. นี้ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวใหญ่ เพราะ ไป่ตู้นั้น เทียบได้กับกูเกิลของจีน มีผู้ใช้รายเดือนถึง 634 ล้านราย ครองส่วนแบ่งตลาดเสิร์ชในจีนเกือบ 77%

ยักษ์อีกเจ้า Alibaba หรือ อาลีบาบา ก็ออกมาประกาศว่ากำลังพัฒนาเครื่องมือในรูปแบบ ChatGPT อยู่ระหว่างการทดสอบภายในแล้ว 

Tencent หรือ เทนเซนต์ ผู้จัดจำหน่าย แพลตฟอร์มเกมรายใหญ่ และยังเป็นเจ้าของ WeChat ก็กำลังพัฒนาแชทอทด้วย ซึ่งน่าสนใจว่าจะพัฒนาไปในทิศทางไหน เพราะมี WeChat ที่เป็นทั้งแอปแชทและซูเปอร์แอปในมือ เป็นโปรดักต์ที่คนจีนใช้งานกันอย่างทั่วถึง

JD.COM หรือ เจดีดอทคอม อีคอมเมิร์ซรายใหญ่อีกเจ้าก็อยู่ในแผนการพัฒนาแชทบอทในชื่อ ChatJD ก็ต้องคอยติดตามต่อว่า ChatJD จะถูกฝังอยู่ในบริการอะไรบ้าง

NetEase หรือ เน็ตอีส บริษัทเกม, บริการออนไลน์, สตรีมมิ่งเพลง ก็อยู่ในแผนพัฒนาแชทบอทมาใช้กับบริการเพื่อการศึกษา 

Kuaishou Technology บริษัทโซเชียลมีเดียในรูปแบบวิดีโอสั้น ก็อยู่ในแผนพัฒนาแชทบอทเช่นกัน โดยจะพัฒนามาใช้กับการบริการลูกค้า

ทำไมการพัฒนาแชทบอทในจีน จะไม่ราบรื่นเหมือนสหรัฐ 

อย่างไรก็ตาม กระแสพัฒนาแชทบอทตอนนี้ ในมุมหนึ่งถูกมองว่าเป็น FOMO (Fear of Missing Out) กลัวตกกระแส หรือเป็นการพัฒนา เพื่อให้นักลงทุนรับทราบว่า บริษัทกำลังอยู่ในเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาที่สุดตอนนี้ โดยที่ยังไม่มีแผนการระยะยาวว่า จะนำแชทบอทไปใช้ทำอะไร ใช้กับโปรดักต์อะไร และสร้างรายได้อย่างไร

อีกความท้าทายในตลาดจีนคือ การเซนเซอร์เข้มข้นจากภาครัฐ ที่ควบคุมเนื้อหาล่อแหลม และเนื้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงรัฐบาลตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจีน จนเป็นที่รู้กันว่า รัฐบาลจีนมองเห็นทุกอย่างบนโลกออนไลน์ และสามารถสั่งปิด สั่งลบได้ไม่ยากเลย

ดังนั้นการพัฒนาแชทบอทในจีน ก็คงจะสร้างคำตอบที่ไม่เป็นภัยกับรัฐบาล เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน  

ยังไม่รวมนโยบายควบคุมธุรกิจเทคโนโลยีจีน ที่ทำมาได้ระยะหนึ่งจน แจ็ค หม่า แห่งอาลีบาบายังนั่งไม่ติด ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ 

ตัวเทคโนโลยีแชทบอท ยังมีปัญหาในตัวของมันเองคือการสร้างคำตอบที่ไม่ถูกต้อง 100% ซึ่งไม่ใช่แค่ Bard ของกูเกิลที่ตอบผิดจนหุ้นดิ่ง แต่ ChatGPT ก็ใช่ว่าจะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• รู้จัก แชทบอท ChatGPT ตอบคำถามยากได้ อาจมาแทนแรงงานทักษะสูงในอนาคต https://workpointtoday.com/get-to-know-chatgpt-by-open-ai/ 
• Open AI ผู้สร้าง ChatGPT บริษัทที่ Microsoft วางเดิมพันเพื่อแข่งกับ Google https://workpointtoday.com/open-ai-creator-of-chatgpt-brand-story/ 
• เทียบฟอร์ม 3 แชทบอท จาก 3 ยักษ์เทคโนโลยี ไมโครซอฟท์, กูเกิล และไป่ตู้ https://workpointtoday.com/compare-the-form-of-3-chatbots-3-tech-giants-microsoft-google-and-baidu/ 

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Business/China-tech/Alibaba-Tencent-and-Baidu-join-the-ChatGPT-rush