ออสเตรเลียอัดฉีดงบวิจัย 100 ล้านบาท ทดสอบประสิทธิภาพยาพ่นจมูกป้องกันโควิด-19 ด้วยการฉีดวันละ 3 ครั้ง มั่นใจป้องกันได้ทุกสายพันธุ์รวมทั้งโอไมครอน คาดทราบประสิทธิภาพกลางปีหน้า
วันที่ 24 ธ.ค. 2564 เว็บไซต์มหาวิทยาลัยโมนาช (Monash University) ของออสเตรเลีย เผยแพร่ความคืบหน้าการวิจัยยาพ่นจมูกป้องกันโควิด-19 โดยล่าสุดกำลังเตรียมทดสอบประสิทธิภาพกับมนุษย์แล้ว โดยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐวิกตอเรียจำนวน 4.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 100 ล้านบาท
Through $4.2 million in funding support from the Victorian Government we are thrilled to play a major role in a #COVID19 treatment trial involving intranasal heparin, a spray designed to coat the SARS Co-V-2 virus and render it ineffective. 🦠 https://t.co/Nx86syvCbN pic.twitter.com/VTA1x1s5oo
— Monash University (@MonashUni) December 22, 2021
การวิจัยยาพ่นจมูกป้องกันโควิด-19 นี้ เป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยโมนาช มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น และมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ร่วมกับ ‘Northern Health’ ซึ่งเป็นหน่วยงานสาธารณสุขในท้องถิ่น โดยพัฒนาจากยา ‘เฮพาริน’ (Heparin) ที่มีฤทธิ์ป้องกันการแข็งตัวของเลือด ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ปัจจุบัน
ศาสตราจารย์แกรี แอนเดอร์สัน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสาธารณสุขเกี่ยวกับปอด มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นอธิบายว่า กลไกการทำงานนี้คือการไปดักจับไวรัสโควิด-19 ที่อาจเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ไม่ให้ไวรัสไปจับตัวกับเซลล์ของมนุษย์ ซึ่งวิธีการดังกล่าวทำให้สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์โอไมครอนด้วย
เช่นเดียวกับศาสตราจารย์มิเชล แมคอินทอช ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมยา จากมหาวิทยาลัยโมนาชที่ระบุว่า ข้อดีของยาพ่นจมูกป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาตัวนี้ คือราคาถูกและใช้งานง่ายผ่านการพ่นจมูกวันละ 3 ครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ขณะเดียวกันผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วแต่มีความเสี่ยงใกล้ชิดผู้ติดเชื้อก็สามารถใช้งานได้
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพกับมนุษย์จะเริ่มในเดือน ก.พ. 2565 และใช้เวลาราว 6 เดือน ก็จะทราบผลว่ายาพ่นจมูกดังกล่าวมีประสิทธิภาพแค่ไหน










