แถลงจับ ‘ศรีสุวรรณ’ ตำรวจมั่นใจหลักฐาน เจ้าตัวรับมีคนยัดเงินให้ แต่ไม่ได้เรียกรับ

ตำรวจ-ป.ป.ช.-ป.ป.ท. ร่วมแถลง จับ ‘ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก’ รีดเงินอธิบดี รองผบช.ก. มั่นใจพยานหลักฐาน ชี้รอบนี้ “ศรีเหนื่อย” เตรียมค้านประกันตัว ขณะที่เจ้าตัวรับมีคนยัดเงินให้แต่ไม่ได้เรียกรับ

การแถลงข่าวปฏิบัติการ “หยุดเถอะครับ” นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในเวลา 19.30 น. วันที่ 26 ม.ค. 67

กรณีจับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก กรณีเรียกเงินจากอธิบดีกรมหนึ่งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแลกกับการไม่เข้าร้องเรียน

โดยนายนิวัติไชย เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของคดีนี้ว่า กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมต้นปีนี้ ได้มีอธิบดีกรมหนึ่งได้มอบหมายให้ทนายความมาร้องทุกข์กล่าวโทษ พฤติกรรมของ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ซึ่งได้รับแต่งเป็นคณะทำงาน เขตตรวจราชการที่ 11 ตามคำสั่งรองนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 ซึ่งคณะทำงานตรวจสอบราชการนี้ มีหน้าที่และอำนาจลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการภายในเขต ซึ่งอยู่ทางภาคอีสาน รวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้จากการตรวจสอบเสนอคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง

ปรากฏว่ามีการไปร่วมกับนายศรีสุวรรณ กับพวกรวม 3 คน โดยเบื้องต้นมีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนอธิบดีกรมการข้าว เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ภายในหน่วยงาน ในโครงการต่างๆ มูลค่าประมาณพันกว่าล้านบาท และมี 2-3 โครงการ ประมาณ 700-800 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานได้มีการตรวจสอบแล้ว นายยศวริศ ได้ร่วมกับนายศรีสุวรรณ ไปเปิดแถลงข่าวว่า มีการทุจริตเกี่ยวกับกรมนี้เรื่องการรับผลประโยชน์ เมื่อข่าวออกไป ก็มีผู้ประสานงานไปดำเนินการติดต่อ เพื่อให้นายศรีสุวรรณ ได้มีการพูดคุยกับทางอธิบดีและภรรยา มีการติดต่อเรียกรับผลประโยชน์เพื่อจะยุติเรื่องร้องเรียน โดยร่วมกับนายยศวริศ ขณะเป็นคณะทำงานฯ เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งเราถือว่านายยศวริศ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะทำงานฯ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 อยู่ในอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.ดำเนินการได้

หลังมีการติดต่อกับอธิบดีแล้ว ทีแรกมีการเรียกเงินกัน โดยนายศรีสุวรรณ เรียกเงิน 3,000,000 บาท แต่มีการต่อรอง เป็น 1,500,000 บาท เบื้องต้นมีการจ่ายเงินให้ไป งวดแรก 50,000 บาท และงวดที่ 2 จำนวน 10,000 บาท ในเดือนธันวาคม ปีพ.ศ. 2566 ผ่านตัวแทนคนหนึ่ง ผู้เสียหายอ้างกลัวว่าจะได้รับความเสียหาย อยากจะยุติเลยจ่ายไป แต่ดูแล้วเขาไม่ได้ทำผิดอะไร อยู่ๆ ทำไมเขาต้องจ่าย เขาถึงได้มีการมาร้องทุกข์กล่าวโทษ กับ บก.ปปป.

เมื่อ บก.ปปป. รวบรวมหลักฐานและเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงส่งเรื่องให้ทาง ป.ป.ช. โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเห็นว่า เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวน เพื่อเข้าดำเนินการวางแผนในการจับกุม จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เข้าไปดำเนินการต่อ ซึ่งได้มีการวางแผนกัน มีการติดต่อและนัดหมายว่า จะนำเงินที่เหลือไปให้นายศรีสุวรรณและภรรยาที่บ้านวันนี้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รองผบช.ก. กล่าวว่า อธิบดีผู้เสียหาย ยืนยันว่าเรื่องที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ไปร้องเรียนท่านไม่เป็นความจริง “มีพูดคุยเคลียร์เจรจานอกรอบ แต่ยังยืนยันให้ดูแล 3 โลมีการต่อรองเหลือโลครึ่ง” ผู้เสียหายไม่ยอม จึงเริ่มเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งวิดีโอ แชตไลน์ เราพบว่าข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายส่งมา มีหลักฐานน่าเชื่อว่ากลุ่มบุคคลกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่ส่อไปในการกระทำความผิด และมีพยานหลักฐานบ่งชี้ มีน้ำหนัก โดยใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และรวบรวมหลักฐาน 1 เดือน กับที่ผู้เสียหายรวบรวมหลักฐาน 3 เดือน รวมเป็น 4 เดือน น่าเชื่อว่ามีน้ำหนักพอ ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 คน ศาลได้อนุมัติหมายจับและหมายค้น 3 เป้าหมายในวันนี้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า กรณีนี้มีบัญชีม้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีการอ้างเป็นถึงผู้ใหญ่ ซึ่งเรายังไม่เชื่อ เรามองว่ากลุ่มนี้มีพฤติกรรมทำเป็นขบวนการ เบื้องต้นนายศรีสุวรรณ ยังปฏิเสธ แต่ระหว่างการเข้าจับกุม นายศรีสุวรรณ ยอมรับว่า มีคนนำเงินมาให้จริง แต่ยัดเยียดให้

“ข้อเท็จจริงเป็นประมาณนั้น หลังจากส่งมอบเงินที่หน้าบ้านให้แขวนไว้และให้ผู้เสียหายกลับได้เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมอยู่หน้าบ้านเกือบ 1 ชั่วโมง จึงนำหมายค้นเข้า ช่วงที่เอาหมายค้นเข้า ก็พบว่าในบ้านเกิดเหตุผิดปกติ คือมีคนวิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ได้ล้อมบ้านไว้แล้วก็เลยไปไหนไม่ได้ จริงๆ ทีแรกยังไม่รู้ว่ามีการโยนสิ่งของทิ้งไว้ตรงไหนอย่างไร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นคนวิ่ง ก็เข้าไปในบ้านเพื่อที่จะจับกุม ก็พบนายศรีสุวรรณในบ้าน จากการสอบถามว่าเงินจำนวน 5 แสนที่แขวนที่ประตูอยู่ไหน แกรับสารภาพ พาไปหยิบเงิน แต่เงินที่โยนอยู่ใต้ริมรั้วใต้ต้นมะม่วง มีถุงกระดาษสีดำด้วย แต่ข้อเท็จจริงเงินใส่กระเป๋าไปเฉยๆ เขาหยิบแต่เงินไปแล้วไปใส่ถุงดำแล้วก็เอาไปโยน ข้อเท็จจริงคือเขายอมรับว่า มีคนเอาเงินมาให้ในวันนี้แต่ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เรียกรับ” รองผบช.ก. กล่าว

(ศรีสุวรรณ จรรยา ขณะถูกจับกุมวันนี้)

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุอีกว่า นอกจาก 3 คนวันนี้ ยังมีอีก 1 คนที่เจ้าหน้าที่จะเรียกมาสอบสวน แต่ขอเวลารวบรวมหลักฐานว่าจะมีการเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่อย่างไร ส่วนที่ผู้เสียหายโอนเงินให้จำนวนน้อยนั้น เป็นเจตนาของผู้เสียหาย ที่ไม่ยอมเสียเงิน แต่ต้องการเก็บพยานหลักฐานเป็นขั้นเป็นตอน กรณีนี้มีบัญชีม้าเข้ามาเกี่ยวข้องในการรับโอนเงินจำนวนน้อย ซึ่งพนักงานสอบสวน จะมีการขยายผลเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ผู้เสียหายให้เงินไปแล้วรวม 160,000 บาท นัดจ่ายวันนี้ 500,000 บาท รวม 660,000 บาท จากที่เรียกรับ 1,500,000 บาท

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า กรณีนี้กลุ่มพวกนี้สร้างความเสียหาย กดขี่ข่มเหง รังแกข้าราชการประจำ ขอตรวจสอบก่อนว่าจะให้ประกันหรือไม่ให้ประกัน ใจตนไม่อยากให้ประกัน แล้วถ้าให้ตนเซ็นตนจะไม่ให้ประกัน

ขณะที่ นายภูมิวิศาล เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า การร้องเรียนถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการแจ้งเบาะแส ที่ผ่านมาได้มีการนำเรื่องร้องเรียนไปขยายผลเข้าบังคับใช้กฎหมายด้วยดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ท. ป.ป.ช. บก.ปปป. แม้แต่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่กรุณาอย่านำเรื่องร้องเรียนมากลั่นแกล้งกัน อย่ามาแสวงหาความเสาะใจ และอย่ามาแสวงหาผลปรโยชน์จากการร้องเรียน ขอให้ยึดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ทั้ง 4 หน่วยงานพร้อมลงไปบังคับใช้กฎหมายด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม หากพบการกระทำเรียกรับผลประโยชน์ หรือการกระทำใดที่ทำให้รู้สึกว่าถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐขอให้แจ้งเข้ามา

ภาพปกจาก ตำรวจสอบสวนกลาง

ตำรวจ-ป.ป.ช. จับ ‘ศรีสุวรรณ’ กรณีเรียกรับเงิน จาก ‘อธิบดี’ แลกให้ยุติเรื่องร้องเรียน