โรงงานใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP ผลิตกระป๋องส่งเครื่อง ‘กระทิงแดง’ สู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก นวัตกรรมระดับโลก ตอบโจทย์ความยั่งยืน

หากพูดถึงกลุ่มธุรกิจ TCP เจ้าของแบรนด์สินค้าที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดี เช่น กระทิงแดง (เรด บูล), สปอนเซอร์, โสมพลัส, แมนซั่ม, เพียวริคุ, ซันสแนค นอกจากเรื่องของโปรดักต์ที่ตอบโจทย์และมีคุณภาพมาตรฐานแล้ว

อีกเรื่องที่โดดเด่นที่สุดของกลุ่มธุรกิจ TCP คือเรื่องของความยั่งยืน ที่บริษัทให้ความสำคัญกับแนวคิดนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่มุมด้านสิ่งแวดล้อม การดูแลชุมชนโดยรอบ การใส่ใจพนักงาน เป็นต้น

ยกตัวอย่าง ที่โรงงานผลิตปราจีนบุรีของกลุ่มธุรกิจ TCP มีการดูแลคุณภาพแหล่งน้ำ นำน้ำมาใช้โดยที่ไม่กระทบต่อการใช้น้ำของชุมชน มีการพัฒนากระบวนการผลิตให้ใช้น้ำน้อยลง และใช้ให้คุ้มค่าที่สุด อีกทั้งยังมีการบำบัดน้ำเสีย หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น

การให้ความสำคัญในความยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจ TCP ยังรวมอยู่ในการลงทุนใหม่ๆ ของบริษัทด้วย 

ซึ่งล่าสุดก็คือโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมแห่งใหม่ที่กลุ่มธุรกิจ TCP จัดตั้งขึ้นร่วมกับบริษัทซัพพลายเออร์ระดับโลกอย่าง ‘คราวน์ โฮลดิ้งส์’ ภายใต้งบลงทุนร่วมกันราว 1,500 ล้านบาท

โดยที่นี่จะเป็นโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมป้อนตลาดส่งออก ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และเน้นนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

สำหรับโรงงานแห่งนี้ใช้ชื่อว่า ‘โรงงาน Crown TCP’ ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 26,400 ตร.ม. ในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค จ.สระบุรี มีกำลังการผลิต 820 ล้านกระป๋อง/ปี รองรับความต้องการของตลาดส่งออกกระทิงแดง (Red Bull) และเพิ่มความมั่นใจในการส่งมอบบรรจุภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ด้วยความร่วมมือกับบริษัทระดับโลก ทำให้ที่นี่ยังพร้อมเป็นที่ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ มาตรฐานคุณภาพ และนำนวัตกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ระดับโลก มาสู่อุตสาหกรรมการผลิตและแรงงงานไทย ตอบรับกับยุค Thailand Industry 4.0

ที่บอกว่าโรงงาน Crown TCP เป็นนวัตกรรมระดับโลก ก็เพราะที่นี่ใช้ระบบ Smart Manufacturing โดยยกระดับกระบวนการผลิตและบริหารจัดการโรงงานด้วยโซลูชั่นอัจฉริยะอย่างครบวงจร

ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพการผลิต การจัดการพลังงานและทรัพยากรต่างๆ การจัดการหมุนเวียนขยะและน้ำเสีย และความปลอดภัย สร้างคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของทั้ง 2 องค์กร

โดยเฉพาะในเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่โรงงาน Crown TCP มีการดำเนินงานที่ดูแลสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น

1.น้ำ – โรงงาน Crown TCP ตั้งเป้าเป็นโรงงานที่ลดการใช้น้ำได้สูงสุดในเครือโรงงานของ CROWN ในเอเชีย โดยจะลดการใช้น้ำมากกว่าปีละ 2 ล้านลิตรจากกระบวนการผลิต

และนำน้ำจากกระบวนการผลิตหลังบำบัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างพาเลท ล้างถนน และใช้สำหรับห้องน้ำ

โดยสามารถประหยัดการใช้น้ำได้มากกว่า 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากว่า 3 tonCo2e ต่อปี 

2.ขยะ – ที่นี่มีการบริหารจัดการให้เป็นโรงงาน Zero Waste to Landfill และนำขยะที่เกิดจากกระบวนการผลิตอย่างไม้พาเลท และวัสดุห่อหุ้มต่างๆ มารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ตามแนวเศรษฐกิจหมุนเวียน

ยกตัวอย่างคือ กากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียนั้น จากเดิมจะนำไปฝังกลบ ก็เปลี่ยนเป็นการนำไปรีไซเคิลทำเป็นส่วนผสมอิฐ ทำให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 202 TonCo2e ต่อปี

3.อากาศ – มีการติดตั้ง RTO หรือเครื่องฟอกอากาศของเตาเผากลิ่น เพื่อลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ซึ่งคุณภาพของอากาศที่ปล่อยออกจากปล่องมีมาตราฐานที่ดีกว่าค่ามาตรฐานที่การนิคมอุตสาหกรรมกำหนด

4.พลังงาน – มีการติดตั้งระบบ Timer ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงงาน โดยสามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากว่า 75,000 kwh ต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากว่า 45 TonCo2e ต่อปี 

5.แผนการติดตั้ง Solar Roof ในปี 2023 ซึ่งจะสามารถลดลดการปล่อยคาร์บอนได้ประมาณ 650 TonCo2e ต่อปี

6.โรงงาน Crown TCP ยังลดการใช้ฟิล์มในการพันพาเลทกระป๋อง ทำให้สามารถลดขยะและลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 20 TonCo2e ต่อปี

และด้วยการดำเนินการมาตรการต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว คาดว่าโรงงาน Crown TCP จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2023 ลงได้เกือบ 1,000 TonCo2e ต่อปีเลยทีเดียว

‘สราวุฒิ อยู่วิทยา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP บอกว่า การร่วมทุนกับ Crown ในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นการส่งเสริมพันธมิตรธุรกิจยั่งยืนที่เป็นมากกว่าคู่ค้า ตามเป้าหมาย “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า”

โดยโรงงาน Crown TCP ไม่เพียงแต่จะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ แต่ยังส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะเป็นโรงงานที่เพื่อส่งออก 100% สร้างรายได้เข้าประเทศ ทั้งยังก่อให้เกิดการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านการผลิตที่มีมาตรฐานคุณภาพระดับโลก

“นอกจากนี้ การที่ TCP ร่วมลงทุนเปิดโรงงานเอง ทำให้เราสามารถกำหนดและควบคุมการผลิตบรรจุภัณฑ์ด้วยตัวเองได้ตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิต และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน”

ด้าน ‘มร. โก๊ะ ฮอก ฮ๊วด’ ประธาน บริษัท คราวน์ เอเซีย แปซิฟิก กล่าวว่า “บริษัทคราวน์ฯ เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดโลหะระดับโลก ที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืน 

“บริษัทฯ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มธุรกิจ TCP เราเชื่อมั่นว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความสำเร็จบทใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP นอกเหนือจากความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ Red Bull อันเป็นตำนานและเอกลักษณ์ที่โดดเด่น”