Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อีกคดีที่ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมาก คือคดีการเสียชีวิตของ ‘ก้อย’ และอีกหลายศพ ที่ตอนนี้พุ่งเป้าไป ‘แอม’ หญิงวัย 36 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีวางยา ‘ไซยาไนด์’ โดยขณะนี้มีการรวบรวมข้อมูลคาดว่า มีเหยื่อมากกว่าสิบคน

วันนี้ (26 เม.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลัง สอบปากคำ กานติมา ซึ่งเป็นภรรยาของตำรวจในสังกัดตชด. นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยระบุว่า ทาง กานติมา บอกว่ารู้จักกับ แอม เพราะต่างเป็นภรรยาของรองผู้กำกับ สามีของกานติมา เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับอดีตสามีของแอม ซึ่งแอม เคยยืมเงินจำนวน 250,000 บาท

ช่วงเดือนกันยายน ปี 2565 กานติมาติดโควิด มีอาการไออย่างต่อเนื่อง ในวันเกิดเหตุ แอมได้โทรศัพท์มาชักชวน ให้ไปรับประทานอาหาร ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จังหวัดราชบุรี แล้ว แอม ได้ส่งยาอ้างว่า เป็นยาสมุนไพรต้านโควิดให้กิน ตอนนั้น รับยามากิน เพราะไว้ใจ เนื่องจากมองว่า แอมเป็นเพื่อน หลังจากกินยา ต่างคนก็ต่างแยกย้าย

กานติมา บอกด้วยว่า มีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออก มือชา จึงโทรศัพท์ไปหาแอมให้มาช่วย แต่แอม บอกว่า ตอนนั้นหลงทางอยู่ ไม่สามารถที่จะมาช่วยได้ กานติมาจึงโทรศัพท์ไปที่สายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือ รถฉุกเฉินมารับ จากนั้นสลบไปและหัวใจหยุดเต้น เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำ CPR  จนสามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้

โดย กานติมา ยอมรับว่า รู้สึกลังเล เพราะไม่คิดว่าแอมจะกล้าวางยา จึงคิดไปว่า น่าจะแพ้ตัวยาตัวใดตัวหนึ่งในยาแก้ไอ ซึ่งเป็นยาสมุนไพร ที่แอมให้รับประทาน แต่เมื่อคดีของก้อยเป็นข่าวดังขึ้นมา ประกอบกับพฤติการณ์เหมือนกับกรณีของตน จึงทำให้ค่อนข้างเชื่อมั่นว่า น่าจะถูกแอมวางยา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า จากการสอบประวัติ แอมมีพี่สาวเป็นเภสัชกร อยู่ในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ขณะนี้ได้สั่งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดราชบุรีเข้าค้นหาหลักฐานว่า พี่สาวของแอมจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ ส่วนการตรวจค้นบ้านพักของแอม ที่จังหวัดนครปฐมนั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล

ทำความรู้จัก ‘ไซยาไนด์’ พิษร้ายแรง

เพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ให้ข้อมูลถึงไซยาไนด์ ไว้ดังนี้

“โพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) เป็นเกล็ดของแข็งผลึกสีขาว ละลายน้ำได้ดีมาก มีกลิ่นจางๆคล้ายอัลมอนด์ มีพิษสูง แค่ได้รับ 200 – 300 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ก็ทำให้เสียชีวิตได้ เป็นวัตถุอันตรายที่ใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทอง การสังเคราะห์ทางอินทรีย์ และการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า

โพแทสเซียมไซยาไนด์ละลายน้ำได้ดีและไม่มีสี คนร้ายมันก็เลยเอาไปใส่ในเครื่องดื่มที่มีกลิ่นกลบสารตัวนี้ได้ เช่น ชา กาแฟ เหล้า สารตัวนี้เคยถูกใช้ในสงคราม และใช้ในการก่ออัตวินิบาตกรรมมาแล้วหลายรายครับ พอกินเข้าไป มันจะไปยับยั้งการหายใจระดับเซลล์ ถ้าเราเรียนชีววิทยามันก็จะไประงับการสร้าง ATP นั่นแหละครับ และมันยังไปยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดทีฟฟอสโฟรีเลชันทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างพลังงาน และเกิดภาวะเลือดเป็นกรดแล็กติก ผิวหนังเกิดผื่นแดง เนื่องจากเนื้อเยื่อไม่สามารถใช้ออกซิเจนจากเลือดได้ ต่อมาผู้ป่วยก็จะมีหมดสติ อาจมีอาการชัก และเสียชีวิต

อาการของคนที่ได้รับพิษไซยาไนด์จะอ่อนแรง สับสน พฤติกรรมผิดปกติ นอนมากเกินไป หายใจสั้น ปวดหัว เวียนหัว อาเจียน ปวดท้อง เราดูไม่ออกหรอกครับว่าใครเจอสารพิษตัวนี้ เพราะอาการมันคล้ายกับโรคอื่นๆ หลายๆเคสก็อาจจะได้กลิ่นอัลมอนด์ หรือกลิ่นถั่วไหม้ก็ได้ ถ้ากินสารพิษนี้เข้าไป ต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แล้วรีบล้างท้อง เพราะการออกฤทธิ์ของมันค่อนข้างเร็วมาก

ไซยาไนด์ จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535. บทลงโทษ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า