จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย พุ่งทะลุ 16,000 คน ปฏิบัติการกู้ภัยเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตยังคงดำเนินอยู่ ท่ามกลางอุปสรรคจากสภาพอากาศหนาวเหน็บ และอาฟเตอร์ช็อกที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ความคืบหน้าล่าสุด เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกีและซีเรียช่วงเย็นวันนี้ (9 ก.พ.) พบผู้เสียชีวิตรวมกันในสองประเทศแล้วอย่างน้อย 16,035 คน ในตุรกี 12,873 คน และซีเรีย 3,162 คน โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า จำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะในซีเรีย ซึ่งขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องจักรหนักในการค้นหาผู้รอดชีวิต
ปฏิบัติการกู้ภัยในตุรกีและซีเรียยังคงทำงานแข่งกับเวลา เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของอาคารที่พังถล่มลงมาจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวให้มากที่สุด หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่วงเลยมานานกว่า 80 ชั่วโมงแล้ว
อุปสรรคสำคัญของปฏิบัติการกู้ภัยคือสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ ถึงขั้นอุณหภูมิติดลบ ซึ่งทำให้การดำเนินการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งยังสร้างปัญหาให้กับผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่ตามแคมป์พักพิงต่างๆ
ขณะเดียวกัน เริ่มมีความตึงเครียดเกิดขึ้นในพื้นที่ประสบภัยหลายแห่ง เนื่องจากประชาชนไม่พอใจที่ความช่วยเหลือจากภาครัฐเข้าถึงช้า หลายครอบครัวพยายามช่วยเหลือบุคคลอันเป็นที่รักแต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ และในบางพื้นที่ยังคงไม่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าให้ความช่วยเหลือ
จากการเปิดเผยของนายเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ขณะนี้มีประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างน้อย 70 ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ 14 แห่ง เสนอความช่วยเหลือให้กับตุรกี และเริ่มมีการส่งทีมกู้ภัยและอุปกรณ์จำเป็นมาให้ตุรกีแล้วอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่ซีเรีย ความช่วยเหลือจากนานาชาติยังไม่เป็นที่ชัดเจนนัก เนื่องจากซีเรียตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้งทางการเมืองมาเป็นเวลานาน ทำให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบากและมีข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า วันนี้ (9 ก.พ.) ขบวนรถช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติ (UN) ขบวนแรก ได้เดินทางถึงพื้นที่ประสบภัยในซีเรียแล้ว
ที่มา Al Jazeera, CNN