4 ปี เพจหมามะเร็ง ยอดเงินบริจาค 33 ล้านบาท

4 ปี เพจหมามะเร็ง รับเงินบริจาคกว่า 33 ล้านบาท ชาวเน็ตจี้ถามความโปรงใส นำเงินไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ ทำไมเงินไม่พอรักษาหมาป่วย ด้านเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบขีดเส้น 14 มิ.ย.นี้ นำเอกสารเข้าชี้แจงจ่อดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

กลายเป็นดราม่าในโลกโซเชียลเมื่อมีการจับโป๊ะเจ้าของเพจหมามะเร็ง Dogs Cancer เปิดขอรับเงินบริจาค เพื่อนำไปดูแลหมาจรจัดที่ทางเพจนำมาดูแล ขณะที่นักสืบโซเชียลพบภาพหญิงสาวคาดเป็นเจ้าของเพจถ่านรูปกับรถหรู จึงเกิดคำถามถึงความโปร่งใสในการรับเงินบริจาค เจ้าของเพจนำเงินไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ ทำไมเงินไม่พอรักษาหมา แต่มีเงินยิงโฆษณากับเฟซบุ๊ก

⚫ 4 ปี ยอดบริจาคกว่า 33 ล้านบาท เงินไม่พอรักษาหมา

เพจ หมามะเร็ง Dogs Cancer เปิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน โดยหญิงสาวคนหนึ่งลาออกจากงานประจำมาจัดตั้งเป็นสถานพักพิงดูแลหมาป่วยมะเร็ง และโรคต่างๆ มีหมาอยู่ในความดูแลราว 260 ตัว บนเนื้อที่ 2 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้ถนนสาย 332 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไม่มีการขออนุญาตตามระเบียบมาตรฐานที่กำหนด

เจ้าของเพจมีการโพสต์ภาพและคลิปหมาป่วยเพื่อขอรับบริจาคเงินเป็นค่าดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น เพจขอยุติ เดินต่อไม่ไหวแล้ว หมาป่วยโรคมะเร็งทั้ง 200 ชีวิต ยอดบริจาคไม่เพียงพอ วิงวอนหมอทวงค่ารักษายอด 217,000 บาท และข้อความอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการโฆษณาบนเฟซบุ๊กเพื่อให้คนเห็นโพสต์ขอรับบริจาคด้วย

กระทั่งมีการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสเรื่องการเปิดรับเงินบริจาคเงินช่วยเหลือหมาที่มีคนบริจาคเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำไมจึงไม่พอค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันนักสืบโซเชียลก็ได้มีการขุดภาพหญิงคนหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าของเพจถ่ายรูปคู่กับรถเบนซ์ ทำให้เกิดคำถามว่า เจ้าของเพจนำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัวหรือไม่พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าของเพจชี้แจงสเตทเม้นท์การเงินที่มีคนบริจาคมา

⚫ ทำไปเพราะไม่รู้ข้อกฎหมาย เบี้ยวนัด จนท.

นายดรัญซะ สติมั่น ทนายความเปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับเจ้าของเพจระบุว่า ตอนแรกเจ้าของเพจไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยเหลือใหญ่ขนาดนี้ แต่พอมีคนส่งมาให้ก็ต้องรับซึ่งเงินเข้าออก 4 ปีจนถึงปัจจุบันประมาณ 33 ล้านบาท เจ้าของเพจแจ้งว่า ทำทุกอย่างลงไปโดยไม่รู้ข้อกฎหมาย ส่วนเรื่องที่ทำผิดก็ยอมรับและอยากขอคำแนะนำเพื่อที่จะดำเนินกิจการต่อ และวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นัดเจ้าของเพจนำเอกสารเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง แต่เจ้าของเพจมีอาการเครียดต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทำให้ไม่สามารถเข้าพบเจ้าหน้าที่ได้

ขณะที่นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบมีความผิด คือ
1. เป็นกิจการที่เข้าข่ายเป็น “กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ”
2. เป็น “เหตุรำคาญ“ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
3. ปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในเทศบัญญัติเรื่อง การปล่อยสัตว์เลี้ยงสัตว์
5. การทารุณกรรมสัตว์ ตอนนี้ตั้งข้อสังเกตไว้และจะตรวจสอบอีกครั้ง

ส่วนเรื่องของการดำเนินกิจกรรมไม่ถูกสุขลักษณะ หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบและแนะนำต่อไปหากต้องการเปิดกิจการต่อ

⚫ ขีดเส้น 14 มิ.ย.นี้ จ่อดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

นายยศวัฒน์ กล่าวว่า เจ้าของกิจการมีการฝ่าฝืนในคำสั่งตั้งแต่ ปี 61 ขณะนั้นมีการร้องเรียนและตรวจสอบแล้วให้มีการระงับกิจการไป จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการรับสุนัขมาอยู่ซึ่งเป็นการทำให้ผิดขอบังคับดังกล่าวชัดเจน หลังจากนี้จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งแนวทางและข้อตกลงในเบื้องต้นจะต้องไม่รับสัตว์เข้ามาดูแลอีก, ต้องระงับความรำคาญ 1 เดือน ทั้งกลิ่น เสียง ให้ดำเนินการขอจัดตั้งมูลนิธิให้เร็วที่สุด, ให้ขนย้ายสุนัขภายใน 6 เดือน และหากเจ้าของเพจไม่มาอีกในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ จะมีการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมกับให้รื้อถอนอาคารโดยทันที