คืบหน้าตำรวจ ปปส.สุราษฎร์ธานีปะทะแก๊งค้ายาเสพติด ตำรวจเสียชีวิต 1 ส่วนผู้ต้องหา 2 คนหลบหนีไปได้ ผู้การสุราษฎร์ฯ ส่งกำลังกว่า 300 นายกดดัน ญาติผู้ก่อเหตุหวั่นถูกวิสามัญติดต่อขอมอบตัวแต่ตำรวจจับกุมได้ก่อนทั้ง 2 คน
กรณี ช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีล่อซื้อยาเสพติดต่อนายสุเชษฐ์ หวานเหลือ อายุ 24 ปี กับพวกโดยนัดส่งของกันบนถนนทางขึ้นเขา ต.เต่า บ้านบางครก หมู่ 6 ต.พะแสง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อถึงเวลา นายสุเชษฐ์ ขับรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมายังจุดนัด ซึ่งภายในรถมีชาย 2 คน จากนั้น 1 ใน 2 เปิดประตูรถนำยาเสพติดมาส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ปรากฎว่าคนร้ายได้ไหวตัวจนเกิดการปะทะกันเป็นเหตุให้ ด.ต.ปุญกฤษ บัวแก้ว อายุ 46 ปี ถูกรถของคนร้ายทับบริเวณลำตัวเสียชีวิต
ต่อมาเช้าวันที่ 28 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์เที่ใช้ก่อเหตุขับชน ด.ต.ปุญกฤษ เสียหลักตกลงข้างทาง ริมถนนสายเขื่อนเก่า-บางครก ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจเก็บพยานหลักฐานพร้อมนำรถกลับเก็บไว้ที่ สภ.บ้านตาขุน
ขณะเดียวกันคนร้ายทั้ง 2 คนทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ไม่ไหวเตรียมจะมอบตัวแต่ถูกจับกุมก่อน โดยนายสุเชษฐ์ ให้การว่า ตนเป็นคนขับรถพานายหลีมาส่งยาตามที่นัดหมาย โดยนายหลีเป็นคนลงจากรถนำยาไปวาง จังหวะที่เจ้าหน้าที่จับกุมตนได้ขับรถหนีแต่ ด.ต.ปุญกฤษ กระโดดขวางรถจึงชนเข้าอย่างจังจนเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ขณะที่นายวันชัย ชัยณรงค์ อายุ 28 ปี หรือหลี ได้ให้ญาติที่เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านพาเข้ามอบตัว แต่ถูกจับก่อนเช่นกัน
ด้าน พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภาค 8 ได้เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 14.30 น. เพื่อสอบปากคำ นายสุรเชษฐ์ และนายวันชัย โดยรอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหา รวมกันฆ่าเจ้าพนักงาน, ครอบครองยาเสพติด และสั่งการให้เร่งการสอบสวนและแจ้งข้อหาเพิ่มขึ้นอีกหลายข้อหา
พร้อมกันนี้ได้ มอบเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ตำรวจภาค 8 จำนวน 300,000 บาทและเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ จำนวน 500,000 บาทในเบื้องต้นพร้อมสั่งให้ทาง พล.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ตร.สุราษฎรานีเร่งดำเนินเสนอเรื่องการช่วยตามระเบียบต่อสำนักงานตำรวจชาติอย่างเร่งด่วนต่อไป โดยจะได้เลื่อนชั้ยยศจากดาบตำรวจเป็นพันตำรวจตรี และบรรจุทายาทเข้ารับราชการ