Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สุดทนแล้ว ‘นพ.รังสฤษฎ์’ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขียนประกาศพื้นที่ประสบภัย-ดูแลตัวเอง หลัง “คุณภาพอากาศเลวร้าย” ขณะที่วันนี้ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ยอมรับห้ามเกษตรกรรายย่อยเผาไม่ได้ จึงใช้วิธีจัดเวลาเผา ยืนยัน ประเทศเพื่อนบ้านรับปากร่วมมือคุมการเผาตลอด

นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์กระดาษที่เขียนด้วยลายมือถึงสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และหลายจังหวัดในภาคเหนือ ซึ่งยังคงวิกฤตจากปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า Rungsrit Kanjanavanit  พร้อมระบุว่า “ทางการไม่ประกาศ ประกาศเองก็ได้”

ประกาศของนพ.รังสฤษฎ์ ระบุว่า “เนื่องด้วย สถานการณ์คุณภาพอากาศอันเลวร้าย กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างหนัก ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว อาศัยอำนาจประชาชน ผู้มีสิทธิพื้นฐานในการหายใจ ขอประกาศให้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงเป็นพื้นที่ประสบภัย เนื่องด้วยเราไม่อาจพึ่งพากลไกรัฐให้บรรเทาปัญหาดังกล่าวได้ ขอให้ทุกท่านปกป้องตนเอง และคนที่รักอย่างดีที่สุดตามกำลังให้รอดพ้นจากพิษภัยมลพิษทางอากาศ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ประกาศไว้ ณ วันที่ 29 มี.ค. 66”

โดยลงท้ายว่า “ประชาชนเต็มขั้นเสียภาษีครบถ้วน”

เวลาต่อมาก็ได้มีโพสต์ข้อความอีกว่า “เรียน รัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ หากคุณไม่มีปัญญาแก้ปัญหา การยอมรับความจริง แสดงความเห็นใจอย่างจริงใจ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ก็ยังดีครับ”

นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการประกาศหยุดทำการ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายด้วย “ตอนโควิดระบาด ยังสั่งหยุดทุกอย่างได้ อากาศเลวร้ายขนาดนี้ กลับปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ เสียสติกันแล้ว”

นายกฯ ระบุ แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ต้องแก้ที่ความคิดของคน 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา ฝุ่น PM 2.5 กล่าวว่า ในภูมิภาคทั้งอาเซียน พบจุด Hotspot จำนวนมาก พบในพื้นที่ภาคเหนือมากกว่าพื้นที่อื่น ปัญหาที่เกิดจากการเผาวัชพืช ก็ได้มีการแก้ปัญหาโดยจัดเวลาการเผา แต่จะไม่ให้มีการเผาเกิดขึ้นเลย คงจะยังไม่สามารถทำได้ เพราะเกษตรกรรายย่อยไม่มีเครื่องมือ จึงได้สั่งการให้มีการคำนวณว่า ควรจะเผาช่วงไหนเวลาใด แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเผาพร้อมกัน วันนี้จึงอยากขอร้องว่า อย่าเผาพร้อมกัน เพราะจะทำให้เกิดฝุ่นควันจำนวนมาก ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐได้ขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรแล้ว แต่มีบางส่วนที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ เมื่อมีการห้ามแต่ก็ยังเผา ซึ่งตนไม่โทษใคร เพราะการจะแก้ปัญหาได้ต้องแก้ที่ความคิดของคนและต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน

ส่วนปัญหาฝุ่นจากยานพาหนะ ในช่วงนี้อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราก็มีแผนอยู่แล้วว่าในปี 2030 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 30% แต่ทุกอย่างต้องใช้ระยะเวลาไม่ใช่สั่งวันนี้แล้วจะดำเนินการได้ในทันที ขณะที่ปัญหาการจราจรติดขัด ก็ยังมีรถที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเกินมาตรฐาน จึงได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการตรวจสอบ และให้หยุดวิ่ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนปัญหาฝุ่นควันที่เกิดจากไฟป่าจะเกิดขึ้นเป็นจุดๆ เท่านั้น และไม่ได้เกิดจากความร้อนที่จะทำให้ไฟสามารถลุกไหม้ขึ้นเองได้ แต่เกิดจากคนที่เข้าไปในป่า ทั้งหาของป่าและล่าสัตว์ เมื่อเข้าไปก็อาจจะทิ้งบุหรี่ ที่ยังไม่ดับ จนทำให้เกิดไฟไหม้ นี่คือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดไฟป่า

ส่วนที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านได้หารือมาโดยตลอด แต่ทุกประเทศก็มีปัญหาภายในประเทศเช่นเดียว ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เป็นเอกภาพทำได้ค่อนข้างยาก ซึ่งได้ให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือขอความร่วมมือไปหลายครั้งแล้ว ก็ได้รับปาก ว่าจะร่วมมือกัน แต่ก็ยังทำได้ไม่มากนัก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การบังคับใช้กฎหมายก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ตั้งแต่ต้นทาง กลางทางและปลายทาง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่ว่า ทุกคนจะให้ความร่วมมือหรือไม่

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า