หน่วยงานของสหภาพยุโรปกำหนดให้แอสตร้าเซนเนก้าระบุในข้อมูลผลิตภัณฑ์ ว่ามีโอกาสที่จะเกิดโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ แต่ยังถือว่าเป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก
วันที่ 9 ก.ย. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่าองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ได้บรรจุอาการเกิดโรคกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain Barre syndrome) หรือโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ทำให้กล้ามเนื้ออัมพาตอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน เข้าไปในอาการผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)
หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลด้านยาของยุโรปเผยว่า โอกาสที่จะเกิดอาการ GBS ยังคงอยู่ในระดับต่ำมากๆ หากนับจนถึงวันที่ 31 ก.ค. มีรายงานการเกิดอาการดังกล่าว 833 ราย จากผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ทั้งหมด 592 ล้านรายทั่วโลก และยืนยันว่าประโยชน์ของวัคซีนยังมีมากกว่าความเสี่ยงที่กล่าวมา
กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร หรืออาการระบบประสาท เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และผลิตแอนติบอดีออกมาทำลายเซลล์ประสาทของระบบประสาทรอบนอก จนเกิดการอักเสบและสูญเสียการทำงาน ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนแรง มึนงง เกิดเหน็บชาตามร่างกายในระยะแรก และอาการอาจรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นอัมพาตในที่สุด
ข้อควรระวังคือ หากกล้ามเนื้อที่ควบคุมการหายใจเกิดอ่อนแรงขึ้นมา อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหากไม่ได้รับการใส่เครื่องช่วยหายใจได้ทันท่วงที
ก่อนหน้านี้ สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (FDA) ได้ใส่อาการ GBS ลงไปในผลข้างเคียงของวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson and Johnson) ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดไวรัลเวคเตอร์เหมือนกัน
นอกจากอาการ GBS แล้ว ทาง EMA ยังได้กำหนดให้ใส่ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่าอย่าง อาการปวดบริเวณแขน ขา และท้อง รวมถึงอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เข้าไปในข้อมูลผลิตภัณฑ์ของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอีกด้วย