SHARE

คัดลอกแล้ว

ทุกประเด็นของศึกยูโร 2020 ที่แข่งขันกัน 3 คู่เมื่อคืนนี้ สำหรับใครที่พลาดชมการแข่งขัน แล้วไม่อยากตกประเด็นสำคัญ workpointTODAY สรุปทุกอย่างมาให้แล้ว เข้าใจสถานการณ์ได้ในโพสต์เดียวเลย

[ เวลส์ 1-1 สวิตเซอร์แลนด์ ]
– หลังจากอิตาลีเอาชนะตุรกีไปได้ 3-0 ทำให้นัดนี้มีความสำคัญมาก เพราะทั้ง 2 ทีมต้องมีโปรแกรมเจออิตาลีต่อไป ดังนั้นเกมนี้ หากใครคว้าชัยชนะได้ อาจเป็นจุดชี้ขาดในการเข้ารอบ เกมนี้แข่งที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจัน ไม่มีใครได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้าน
– ในช่วงก่อนเกม จังหวะเคารพเพลงชาติ นักเตะเวลส์พร้อมใจกันหันหน้าไปหาแฟนบอลของตัวเอง ที่เข้ามาชมในสนามแข่งขัน
– ทั้งสองทีมเน้นการโจมตีด้วยลูกกลางอากาศ มีจังหวะใกล้เคียงทั้งสองทีม แต่ยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอ 0-0 ในครึ่งแรก โดยตัวแสบของสวิตเซอร์แลนด์คือบรีล เอ็มโบโล่ กองหน้าจากมึนเช่นกลัดบัค ที่วูบวาบตลอดเกม
– เข้าครึ่งหลังสวิสนำ 1-0 จากลูกเตะมุม เอ็มโบโล่โหม่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แต่เวลส์ก็มาตีเสมอได้ โดยเริ่มจากเตะมุมเช่นกัน เวลส์เล่นสั้น 3 จังหวะแล้วบอมบ์เข้ากลาง ก่อนจะเป็น คีฟเฟอร์ มัวร์ โหม่งตีเสมอเป็น 1-1
– ท้ายโค้ชโรเบิร์ต เพจ ของเวลส์ แก้เกมด้วยการเอาแดเนียล เจมส์ ปีกตัวจี๊ดของแมนฯ ยูไนเต็ดออก ซึ่งจากเกมที่บุกอยู่ดีๆ ก็ตื้อไปเลย กลายเป็นเปิดโอกาสให้สวิส หายใจหายคอได้มากขึ้น จบเกมเสมอกันไป 1-1 เพจโดนวิจารณ์เยอะว่าตัวเล่นดี กำลังป่วนคู่แข่ง จะเปลี่ยนออกทำไม ก็ไม่รู้
– เกมต่อไป ตุรกีจะเล่นกับเวลส์ ที่บากู ประเทศอาเซอร์ไบจัน ส่วน สวิตเซอร์แลนด์จะไปเยือนกรุงโรม ของอิตาลี กลุ่มนี้ ยังดูยากว่าใครจะเข้า ยังมีโอกาสครบทั้ง 4 ทีม

[ เดนมาร์ก 0-1 ฟินแลนด์ ]
– เดนมาร์ก เปิดบ้าน ปาร์กเคน สเตเดี้ยม พบฟินแลนด์ ก่อนเกมเดนมาร์กเป็นต่อเยอะ เพราะได้เล่นในบ้านตัวเอง มาเจอกับฟินแลนด์ที่อุ่นเครื่องไม่ชนะใคร 6 เกมรวด และไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์แม้แต่ครั้งเดียว นี่เป็นเกมแรกสุดของประเทศ
– ทรงเกมของเดนมาร์ก ก็เหนือกว่าฟินแลนด์จริงๆ แต่มีจุดสำคัญเกิดขึ้นในนาทีที่ 42 ของเกม และเป็นข่าวใหญ่ไปทั้งโลก เมื่อคริสเตียน อีริคเซ่น กองกลางจากอินเตอร์ มิลาน อยู่ๆก็วูบคาสนาม ร่วงลงไปกองกับพื้น สร้างความตกใจให้ทุกคนที่เห็นอย่างมาก
– ผู้ตัดสินแอนโธนี่ เทย์เลอร์เป่าหยุดเกมทันที และทีมแพทย์ที่พร้อมอยู่แล้ว ใช้เวลา 21 วินาที วิ่งมาถึงตัวอีริคเซ่น และทำการปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน มีการปั๊มหัวใจด้วยเครื่อง AED เป็นวินาทีที่ต่อสู้กับความเป็นความตาย
– ทีมงานถ่ายทอดสด โดนวิจารณ์อย่างหนักว่า จะซูมภาพเข้าไปตอนที่อีริคเซ่นตาเหลือกแบบนั้นทำไม ด้วยมารยาทที่ควรทำ ต้องตัดภาพไปเลยเข้าห้องส่ง หรือไม่ก็ซูมไปที่แฟนบอล แต่คนทั้งโลก เห็นจังหวะที่อีริคเซ่นโดนปั๊มหัวใจ แม้นักเตะเดนมาร์กจะยืนล้อมเป็นวงเพื่อไม่ให้ใครเห็นภาพ แต่กล้องก็ยังซูมเข้าไปเห็นบางส่วนได้อยู่ดี
– หลังการปั๊มหัวใจ อีริคเซ่น กลับมาได้สติอีกครั้ง แพทย์ในสนามนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลริกโชสปิตาเล็ต ที่อยู่ห่างจากสนามแค่ 500 เมตรเท่านั้น โดยยูฟ่า ยืนยันในเวลาต่อมาว่า อีริคเซ่นปลอดภัยแล้ว
– แฟนบอลในสนามทั้งเดนมาร์ก และฟินแลนด์ ตะโกนร้องเรียกชื่อ “คริสเตียน อีริคเซ่น” อย่างกึกก้อง เป็นกำลังใจให้กับนักเตะ ให้ผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้
– ตอนแรกเกมมีแววว่าจะเลื่อน แต่ปัญหาคือ ถ้าหากเลื่อนโปรแกรมจะวุ่นวายมาก เพราะหลังแข่งเกมนี้เสร็จ นักเตะฟินแลนด์ต้องบินไปเข้าแคมป์ที่รัสเซีย ที่จะแข่งในอีก 2 เกมต่อไป มันจะไม่มีช่วงเวลาให้กลับมาลงแข่งแล้ว สุดท้ายรายงานจากเยอรมันระบุว่า ตัวอีริคเซ่นเอง ที่ได้สติแล้วเปิดกล้องผ่าน FaceTime บอกย้ำกับเพื่อนๆ ว่าเขาไม่เป็นไร และขอให้แข่งต่อให้จบโปรแกรมดีกว่า
– เกมฟุตบอลกลับมาแข่งขันอีกครั้ง และกลายเป็นฟินแลนด์ที่ได้ประตูนำ 1-0 จากลูกโหม่งของโจเอล โปห์ยันปาโล นี่เป็นประตูแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศในรายการเมเจอร์ แต่พอยิงได้ นักเตะฟินแลนด์ก็ไม่ได้ดีใจอะไร แต่ล้อมวงกอดคอกันเป็นกำลังใจให้อีริคเซ่น
– เดนมาร์กได้จุดโทษ นาทีที่ 74 เมื่อยูซุฟ โพลเซ่น โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ยิงเบาเกินไป โดนเซฟได้ง่ายๆ พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย
– จบเกม 90 นาที ฟินแลนด์พลิกล็อกชนะ 1-0 โดยสถิติที่เหลือเชื่อในนัดนี้ เดนมาร์กมีโอกาสยิงทั้งหมด 22 ครั้ง ฟินแลนด์มีโอกาสยิง 1 ครั้ง แต่จบเกมฟินแลนด์ชนะ 1-0
– เกมต่อไปเดนมาร์ก จะได้เล่นในบ้านตัวเอง ปาร์กเคน สเตเดี้ยมต่อไป เจอกับเบลเยี่ยม ส่วนฟินแลนด์จะไปเยือนรัสเซีย ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

[ เบลเยี่ยม 3-0 รัสเซีย ]
– เบลเยี่ยม เต็ง 3 ของรายการ ไปเยือนรัสเซียที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก โดยแมตช์นี้ แข่งในเวลาเดียวกันกับคู่เดนมาร์ก-ฟินแลนด์ ที่กลับมาแข่งขันเช่นกัน ทำให้ช่อง NBT ตอนถ่ายทอดสด ตั้งคู่เบลเยี่ยมเอาไว้เป็นจอเล็กที่ด้านขวาล่างเท่านั้น
– เบลเยี่ยมไม่มีเควิน เดอ บรอยน์ ที่บาดเจ็บอยู่ และเอแด็น อาซาร์ ก็เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทรงเกมเหนือกว่ารัสเซียมากนัก โรเมลู ลูกากู ยิงนำให้เบลเยี่ยมก่อนตั้งแต่นาทีที่ 10 จากความผิดพลาดในแนวรับของรัสเซียเองที่สกัดบอลไม่ดี และเมื่อยิงได้ลูกากูวิ่งไปที่หน้ากล้องถ่ายทอดสด ก่อนพูดว่า “คริส คริส ไอเลิฟยู” ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการจะบอก คือการส่งกำลังใจให้คริสเตียน อีริคเซ่น เพื่อนร่วมทีมที่อินเตอร์ มิลานนั่นเอง
– เกมรับของรัสเซียไม่มีทรง ทั้งกองหลัง ทั้งผู้รักษาประตูมีข้อผิดพลาดให้เห็นเยอะมาก นาทีที่ 33 ตัวสำรองโทมัส มูนิเยร์ ที่เล่นแบ็กขวา เติมขึ้นมายิงโล่งๆเข้าไป เบลเยี่ยมนำ 2-0 จากนั้นเกมโดยรวมเป็นของเบลเยี่ยมตลอด นาทีที่ 88 ได้ประตูปิดกล่องจากลูกากู ยิงอีกลูกให้เบลเยี่ยมถล่มขาด 3-0
– ข่าวร้ายของเบลเยี่ยมคือ ทิโมธี กัสตาญ ฟูลแบ็กจากเลสเตอร์ ซิตี้ ได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นกระดูกหัก และต้องถอนตัวออกจากทัวร์นาเมนต์แล้วเรียบร้อย
– อย่างไรก็ตามในภาพรวมถือว่าเป็นผลงานที่ดีเลิศของหนึ่งในตัวเต็งแชมป์ ในบอลโลกปี 2018 เบลเยี่ยมจบอันดับ 3 และมาคราวนี้พวกเขาตั้งใจจะคว้าแชมป์เมเจอร์รายการแรกของประเทศให้ได้เสียที โดยปัจจุบันฟีฟ่า แรงค์กิ้งของเบลเยี่ยมอยู่อันดับ 1
– เฮดโค้ชของเบลเยี่ยมคือโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ขณะที่เธียร์รี่ อองรี มาช่วยเป็นสตาฟฟ์ให้คำปรึกษากับนักเตะในทีม ต่อเนื่องอีกทัวร์นาเมนต์ หลังจากที่มาช่วยแล้วหนึ่งรอบในฟุตบอลโลก 2018

นี่คือบทสรุปภาพรวมของยูโร 2020 ในวันที่ 2 โดย workpointTODAY จะสรุปสถานการณ์แบบรวดเดียว โพสต์เดียวจบให้อ่านทุกวันในช่วงเช้า หากใครพลาดชมถ่ายทอดสด ในช่วงกลางดึก จะได้เข้าใจสถานการณ์ของฟุตบอลทั้งหมดทันที
สำหรับ 3 เกมต่อไป ที่จะแข่งขันในค่ำคืนนี้ ประกอบไปด้วย
20.00 อังกฤษ vs โครเอเชีย
23.00 ออสเตรีย vs นอร์ธ มาซิโดเนีย
02.00 เนเธอร์แลนด์ vs ยูเครน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า