SHARE

คัดลอกแล้ว

explainer ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับคดียาเสพติดที่ออสเตรเลีย และประโยคอันลือลั่น “มันคือแป้ง” ทั้งหมดมีเรื่องราวอย่างไร ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินชี้ขาดว่าเขาจะหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ workpointTODAY จะพาทุกท่านไปย้อนดูแบ็กกราวน์ทั้งหมด แบบโพสต์เดียวจบ เข้าใจทุกอย่าง

1) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เกิดในวันที่ 18 สิงหาคม 2508 ปัจจุบันอายุ 55 ปี ชื่อแรกสุดคือ “มนัส” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ยุทธภูมิ” เปลี่ยนกลับเป็น “มนัส” อีกรอบ แล้วเปลี่ยนเป็น “พชร” ก่อนที่ล่าสุดจะเลือกใช้ชื่อธรรมนัส ขณะที่นามสกุล ในอดีตเคยใช้ โบกพรหม แต่เปลี่ยนเป็น “พรหมเผ่า”

2) ร.อ.ธรรมนัส เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 ก่อนไปเรียนจบ จปร.รุ่น 36 (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จบเตรียมทหารรุ่น 12 และ จปร.รุ่น 23) หลังเรียนจบเข้ารับราชการทหารอยู่หลายสังกัด ทั้งกรมมหาดเล็กรักษาพระองค์ ,กรมกำลังพลทหารเรือ และ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา

3) ร.อ.ธรรมนัส ถูกปลดออกจากราชการทหารถึง 2 รอบ ในปีพ.ศ.2534 และ 2536 แต่ก็ได้รับการล้างมลทินและกลับมารับราชการทั้งสองครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2541 เขาไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม นายพูลสวัสดิ์ จิราภรณ์ โดยคดีนี้ ธรรมนัสโดนออกหมายจับร่วมกับพวกอีก 3 คน รัฐบาลจึงมีคำสั่งให้ถอดยศ เนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามหลังจากธรรมนัส ติดคุกอยู่ระยะหนึ่ง การสืบคดีเสร็จสิ้น ปรากฎว่าศาลสั่งยกฟ้อง เขาจึงออกจากเรือนจำโดยไม่มีคดีติดตัว

4) หลังออกการเป็นทหาร ร.อ.ธรรมนัส หันมาทำธุรกิจเต็มตัว โดยเริ่มจากทำบริษัทรักษาความปลอดภัย และได้รับการประมูลให้บริหารตลาดคลองเตย รวมถึงเป็นยี่ปั๊วขายสลากกินแบ่งรายใหญ่อีกด้วย โดยชื่อเสียงของเขา ณ เวลานั้น ได้รับการพูดถึงในฐานะผู้กว้างขวางที่ควบคุมธุรกิจอยู่เบื้องหลัง เวลาไปไหนมาไหน จะมีลูกน้องมากมายเดินล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด
ร.อ.ธรรมนัสเคยตกเป็นข่าวว่าได้ใช้กำลังรื้อข้าวของ พ่อค้า-แม่ค้าในตลาดคลองเตยที่ไม่พอใจในนโยบายการบริหารของเขา รวมถึงเคยมีข่าวว่าเขาไปพัวพันกับคดีฉ้อโกงบิทคอยน์ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาทอีกด้วย

5) อย่างไรก็ตาม ตัว ร.อ.ธรรมนัสได้ปฏิเสธความผิดทั้งหมด และ ยืนยันเสมอว่า เขาไม่ใช่นักเลง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “เราเป็นคนที่พรรคพวกเยอะ เราเป็นคนใจนักเลง เรากล้าได้กล้าเสีย คนที่เป็นลูกผู้ชายใจนักเลง เป็นคนที่น่าคบนะ ผมว่าอย่างนั้น”

6) การทำธุรกิจของ ร.อ.ธรรมนัส ประสบความสำเร็จโดยดี ทำให้เขาเริ่มหันมาเล่นการเมือง โดยคอยสนับสนุนเบื้องหลังพรรคไทยรักไทย ทำหน้าที่เป็นทีมยุทธศาสตร์ในพื้นที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็ช่วยงานฝั่งไทยรักไทย มาโดยตลอด ซึ่งในปี พ.ศ.2557 เขาลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการรัฐประหารเกิดขึ้น ในปี 2557 คสช.เรียก ธรรมนัสไปรายงานตัว เนื่องจากมองว่าเป็น “มาเฟียกรุงเทพฯ” ส่งผลให้ในช่วงรัฐประหารแรกๆ เขาเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่พักใหญ่ทีเดียว

7) เวลาผ่านไป 5 ปี ประเทศไทยมีการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 ธรรมนัส ประกาศ “เปลี่ยนฝั่ง” จากเดิมทำงานการเมืองอยู่กับเพื่อไทย ย้ายข้ามไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ และลงสมัครสส.เขต 1 จังหวัดพะเยา พร้อมทั้งดำรงตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งในโซนภาคเหนือ 16 จังหวัด ให้พรรคพลังประชารัฐด้วย
8 ) การเลือกตั้งทั่วไปเสร็จสิ้น ผลปรากฏว่า ธรรมนัสได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น คว้าตำแหน่ง สส.ไปครอง นอกจากนั้น ยังช่วยพลังประชารัฐคว้า สส.เขต ได้ถึง 25 ที่นั่ง ในโซนภาคเหนือ ทั้งๆที่เป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทยมาก่อน

9) โดยจุดเด่นของ ร.อ.ธรรมนัส นอกเหนือจากมีความสามารถในการทำธุรกิจ และมีเครือข่ายที่กว้างขวางแล้ว เขายังเป็นคน “เคลียร์ความขัดแย้ง” ได้ดีที่สุดคนหนึ่งในพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย

ย้อนกลับไปในช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐจะมีรอยร้าว เมื่อ 10 พรรคเล็ก แสดงท่าทีไม่พอใจ พยายามเรียกร้องขอตำแหน่งรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ ส.ส.อีสานตอนบน และ ส.ส.กลุ่มด้ามขวานไทย นั่นทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส ไปเคลียร์ปัญหารอยร้าวในพรรค และปรากฏว่า ทุกอย่างเคลียร์ได้จบหมด ทุกฝ่ายทุกกลุ่ม ไม่มีใครแข็งข้ออีกเลย พร้อมรับฟังนโยบายของพรรคโดยดี
หรืออย่างในกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เหมือนจะลังเลไม่สนับสนุนพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส ก็เดินทางไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อคุยกับ เจ๊ก้อย ล็อบบี้ยิสต์ชื่อดัง ข่าวระบุว่าเพื่อพยายามเกลี้ยกล่อมให้ ประชาธิปัตย์สนับสนุน พรรคพลังประชารัฐต่อไป ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ ประชาธิปัตย์ ยกมือโหวตให้พลังประชารัฐจริงๆ

10) ด้วยผลงานที่โดดเด่นต่อเนื่อง ทำให้สื่อมวลชนขนานนามว่า ร.อ.ธรรมนัสคือ “มือซ้าย” ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนที่ได้รับภารกิจอะไรมา ก็จะจัดการให้สำเร็จได้ทุกครั้ง นั่นทำให้วันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์

11) สื่อมวลชนตั้งคำถามถึงความเหมาะสมว่า ร.อ.ธรรมนัส สมควรเป็นรัฐมนตรีจริงหรือไม่ เนื่องจากในอดีตเขาเคยติดคุกข้อหาลักลอบขนเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม เข้าประเทศออสเตรเลียมาก่อน ซึ่งถ้ารัฐมนตรีเคยมีโทษอาญาขนาดนี้ แม้จะไม่ได้เกิดที่ในประเทศไทยก็ตาม ย่อมส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ที่ดีของแวดวงการเมืองแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ร.อ.ธรรมนัส ได้อธิบายว่า “ผมเดินทางเข้าออสเตรเลียอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน แต่มีความโชคร้าย เพราะคนที่โดนจับเรื่องนำเข้ายา ดันอยู่ในที่เดียวกับที่ผมอยู่พอดี ผมจึงโดนข้อหารู้ว่ามียาเสพติด แต่ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ไม่ได้โดนข้อหาผลิตและนำเข้ายาเสพติด ผมถูกคุมขังราว 8 เดือน ก่อนออกมาใช้ชีวิตปกติที่ซิดนีย์อีก 4 ปีเต็ม ก่อนถูกส่งตัวกลับมาไทย”

12) อย่างไรก็ตาม หลังจาก ร.อ.ธรรมนัสแถลง หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ เฮรัลด์ มอร์นิ่ง จากออสเตรเลีย ได้ลงข่าวตอบโต้ โดยขึ้นเฮดไลน์ว่า “จากผู้ร้ายสู่รัฐมนตรี : เปิดโปงนักการเมืองเคยเป็นผู้ลักลอบขนยาเสพติด” โดยเล่าเหตุการณ์ว่า ใน พ.ศ.2536 ร.อ.ธรรมนัสไม่ได้อยู่ผิดที่ ผิดเวลา แต่มีการวางแผนลักลอบค้ายา อย่างเป็นระบบ และศาลก็ได้สั่งจำคุกร.อ.ธรรมนัสเป็นเวลา 4 ปี ที่ออสเตรเลีย และหลังถูกปล่อยตัว ในวันที่ 15 เมษายน 1993 ได้เนรเทศกลับไทยทันที

13) บทความของซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ มีตัวละครครบทุกคน และเล่าถึงขั้นตอนการจับกุมอย่างละเอียด โดยสื่อออสเตรเลีย ยืนยันในหลักฐานของตนเอง ซึ่งทำให้ข่าวของ ร.อ.ธรรมนัส กระจายออกไปทั่วโลก และมีการตั้งคำถามกับรัฐบาลว่าสมควรหรือไม่ ที่จะให้ร.อ.ธรรมนัสดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป

14) วันที่ 11 กรกฎาคม 2562 วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้กล่าวหลังจากตีความแล้วว่า “ข้อกฎหมาย กับเรื่องความเหมาะสม เป็นคนละเรื่อง ซึ่งการที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นหลักฐานตรวจสอบจริยธรรมถือเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน แต่หากไล่ดูจากลักษณะต้องห้ามการสมัคร ส.ส. และคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ถือว่า (ร.อ.ธรรมนัส) ไม่ขัดต่อกฎหมาย”

15) เมื่อวิษณุ เครืองาม ยืนยันว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ขาดคุณสมบัติ ฝ่ายค้านจึงออกมาวิจารณ์อย่างดุเดือด โดยอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้าน วิจารณ์ว่า “ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องอ่อนไหว ขอให้นายกรัฐมนตรี อย่าเอาคนเลี้ยงลิงแบบนี้มาอยู่ด้วย ให้ตัวเองลำบาก เพราะเรื่องนี้ กระทบต่อภาพลักษณ์แน่นอน”

16) ขณะที่ผู้สื่อข่าวก็พยายามสืบค้นว่า จริงๆแล้ว ร.อ.ธรรมนัส ติดคุก 8 เดือน หรือ 4 ปีกันแน่ โดยบีบีซีไทยติดต่อไปที่หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โดยสื่อออสเตรเลียได้ยืนยันว่าข้อมูลที่ลงไปทั้งหมด มีการตรวจสอบอย่างถูกต้องดีแล้ว ไมเคิล รัฟเฟิลส์ ผู้เขียนบทความกล่าวว่า “ร.อ.ธรรมนัสถูกจำคุกตั้งแต่เดือน เมษายน 2536 และพ้นโทษเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2540 ซึ่งเรามีเอกสารทางการที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ สิ่งหนึ่งที่เขาพูดถูกต้องตามความจริงจากการรายงานของศาลคือ เขาไม่ได้เป็นผู้ขาย ผลิต หรือนำเข้าเฮโรอีน แต่เขาเป็นผู้มีส่วนรู้เห็นและส่วนร่วมกับปฏิบัติการนี้จริง ๆ”

17) วันที่ 10 กันยายน 2562 ร.อ.ธรรมนัส ใช้เวลา 7 นาที ในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า เขาไม่ใช่ “ผู้บงการ” ในคดียาเสพติด และต่อไปหากใครมาพูดถึงอดีตอีก จะไม่ตอบโต้ แต่จะฟ้องดำเนินคดีทุกคน ขณะที่ประเด็นรายละเอียด ของคดีที่ออสเตรเลียนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องรายละเอียดที่เราตกลงกับศาลออสเตรเลียเอาไว้ และเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้” ก่อนที่จะลงท้ายว่า “ผมว่าหากใครข้องใจเปิดหน้ามาชกกันเลยดีกว่า ไม่ต้องเป็นอีแอบอย่างนี้ ที่พูดไม่ได้หมายถึงจะท้าชก เอาแต่เรื่องอดีตมาพูด เราอยากจะจมอยู่กับอดีต หรืออยู่กับอนาคตล่ะครับ”

18) วันที่ 11 กันยายน 2562 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยอมรับว่า ตัวเองเป็นคนให้สื่อออสเตรเลีย หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี และออกมาเปิดเผยเรื่องนี้เอง และประกาศว่า ไม่กลัว ร.อ.ธรรมนัส จะฟ้องร้องกลับ เพราะเชื่อว่านักโทษคดียาเสพติด จะไม่สามารถฟ้องร้องบุคคลธรรมดาได้ “การค้ายาเสพติดก็ชัดเจนอยู่แล้ว อย่ามาอ้างว่าเป็นเรื่องการตัดสินของศาลต่างประเทศ คนค้ายาเสพติด ก็ชั่วกันทั้งนั้น คนแบบนี้จะมาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์กล่าว

19) แต่ ร.อ.ธรรมนัส ยังยืนยันคุณสมบัติของเขาในการเป็นรัฐมนตรี โดยระบุว่า ในประเทศไทยเขาไม่เคยต้องคดีอาญาใดๆมาก่อน โดยในคดีอุ้มฆ่านายพูลสวัสดิ์ จิราภรณ์ เขาก็ถูกยกฟ้องในปี 2546 และคดีอื่นๆ ก็ได้รับการล้างมลทินไปหมดสิ้นแล้ว ขณะที่คดียาเสพติดให้ไปหาหลักฐานมาเลยว่าเขาโดนศาลออสเตรเลียจับกุมด้วยคดียาเสพติดจริงหรือไม่ ก่อนจะกล่าวสรุปว่า “ผมจะไม่ยอมอยู่กับเรื่องเก่าๆ ซึ่งเปรียบเสมือนฝันร้ายสำหรับผม หลังจากวันนี้ฝันร้ายเหล่านี้ ต้องหายไปจากชีวิตผม และหากผู้ใดสงสัยประเด็นที่ผมกล่าว ท่านมาถามผมส่วนตัวได้”

20) วันที่ 12 กันยายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงประเด็นของ ร.อ.ธรรมนัส ว่าได้ตรวจสอบคุณสมบัติทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะทำการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี “อ้าว ผมก็เป็นคนคัดคนเข้ามา เพราะมีคนเสนอเข้ามา แต่ทั้งหมดได้ผ่านกลไกการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งก็จบลงแค่นั้น ผมจบแล้ว” นายกฯ กล่าว

21) นอกเหนือจากประเด็นเรื่อง คดีความที่ออสเตรเลีย ยังมีประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัสอีกด้วย โดยข้อมูลในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ร.อ.ธรรมนัสจบ ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยคาลามัส อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งตามข้อมูลแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ได้ถูกรับรองอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส เผยว่าข้อมูลในเว็บไซต์มีความคลาดเคลื่อน เพราะเขาจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นคนละสถาบันกัน

22) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายธีรัจชัย พันธุมาส ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ ได้โจมตี ร.อ.ธรรมนัส เกี่วกับประเด็นยาเสพติด แต่ร.อ.ธรรมนัสตอบโต้กลับว่า “สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบยาเสพติดของรัฐนิวเซาท์เวลส์อ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัมนั้น มันคือแป้ง” นั่นทำให้ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ ออกมาเปิดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า ที่ร.อ.ธรรมนัสโดนจับ มันคือเฮโรอีนไม่ใช่แป้งแน่นอน

23) วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ส.ส.พรรคก้าวไกลจำนวน 54 รายชื่อ ยื่นเรื่องถอดถอน ร.อ.ธรรมนัส ว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรี โดยอ้างอิงจากรัฐธรรมนูญมาตรา 160 วรรค 6 ที่ระบุว่า บุคคลใดก็ตามจะไม่มีสิทธิ์เป็นรัฐมนตรีถ้าเคยทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า
แต่ในมุมของร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “รัฐธรรมนูญของไทยตราขึ้นเพื่อใช้ในประเทศไทยเท่านั้น เราจะนำกฎหมายของต่างประเทศมาใช้ในไทยไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน”

24) สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องจาก ส.ส.พรรคก้าวไกลแล้ว และจะชี้ขาดวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 นี้ ในเวลา 15.00 น. โดยจะมีการ Live ผ่าน YouTube ด้วย โดยศาลจะตีความว่า ถ้าร.อ.ธรรมนัส ทำความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก ยาเสพติดที่ออสเตรเลีย รัฐธรรมนูญของไทยสามารถตัดสินครอบคลุมได้หรือไม่
ซึ่งถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า ทำผิดกฎหมายยาเสพติดในประเทศไหน ก็ครอบคลุมหมด ร.อ.ธรรมนัส จะสิ้นสุดสมาชิกภาพของส.ส. และสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีทันที แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินในทางตรงข้าม ร.อ.ธรรมนัส ก็จะยืนหยัดในตำแหน่งต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า