สรุปดรามาสะเทือนวงการทีวีญี่ปุ่น พิธีกรชื่อดังล่วงละเมิดทางเพศผู้ประกาศข่าวสาว

เกิดประเด็นร้อนสะเทือนวงการบันเทิงญี่ปุ่น เมื่อพิธีกรรายการทีวีชื่อดังที่เป็นอดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ SMAP ถูกเปิดโปงว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้ประกาศข่าวสาว จนต้องจ่ายเงินชดเชยให้คู่กรณีเพื่อยุติปัญหาไปเกือบ 20 ล้านบาท โดยผู้บริหารช่องทีวีต้นสังกัดรับรู้แต่ไม่ทำอะไร ทำเอาสปอนเซอร์ บริษัทใหญ่ๆ พากันถอนโฆษณาจำนวนมาก เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เราสรุปให้ตั้งแต่ต้นจนจบในโพสต์เดียว

1) ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2024 นิตยสารรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งออกมาแฉว่ามีพิธีกรข่าวชื่อดังคนหนึ่งไปล่วงละเมิดทางเพศผู้ประกาศข่าวสาวช่องเดียวกัน จนจะถูกฟ้อง ทำให้ต้องจ่ายเงินยุติข้อพิพาทไป 90 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 20 ล้านบาท เพื่อให้เรื่องจบ

2) พิธีกรข่าวที่ถูกพาดพิง ก็คือ มาซาฮิโระ นากาอิ วัย 52 ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกวง SMAP ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นพิธีกรรายการและผู้ประกาศข่าวของช่อง Fuji TV หนึ่งในเครือข่ายโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นฉาวที่สั่นสะเทือนวงการทีวีของญี่ปุ่นอย่างหนัก เพราะนายนากาอิ ถือเป็นพิธีกรชื่อดังที่นอกจากจะทำงานให้กับช่อง Fuji TV แล้ว เขายังมีผลงานในช่องอื่นๆ อีกจำนวนมาก

3) โดยเหตุการณ์ล่วงละเมิดที่ถูกพูดถึงนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่ 2023 ผู้ประกาศข่าวสาวที่เป็นคู่กรณีบอกว่า เธอถูกหลอกให้ไปร่วมงานเลี้ยงพนักงานของ Fuji TV แต่จริงๆไม่ใช่งานเลี้ยงเป็นแค่การจัดงานขึ้นมาบังหน้าเพื่อล่อลวงเหยื่อไปให้นายนากาอิ

4) สุดท้ายงานเลี้ยงเลยจบลงที่เหลือแค่ผู้ประกาศข่าวสาวที่เป็นเหยื่อกับนายนากาอิอยู่ในห้องกันสองคน นำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศโดยที่ฝ่ายหญิงไม่ได้ยินยอม ซ้ำร้ายกว่านั้นยังมีรายงานด้วยนายนากาอิว่าใช้ความรุนแรงกับเธอด้วย

5) ผู้ประกาศข่าวสาวคนนี้ถึงกับต้องขอพักงานชั่วคราวหลังเกิดเหตุ เนื่องจากได้รับความกระทบเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงถึงขั้นคิดจะจบชีวิตตัวเอง และต่อมาเธอได้ตัดสินใจลาออกจากช่อง Fuji TV ในเดือนสิงหาคม 2024

6) พร้อมกับตัดสินใจฟ้องร้องนายนากาอิและฟูจิทีวี แต่คดียังไม่ทันถึงไหน ก็มีการเจรจากันนอกรอบ นายนากาอิ ยอมจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประกาศข่าวสาวเป็นเงิน 90 ล้านเยน (เกือบ 20 ล้านบาท) เพื่อยุติปัญหา

7) เรื่องเหมือนจะจบแต่ดันไม่จบ เพราะผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน ในช่วงเดือนธันวาคม 2024 นิตยสารชูคังบุนชัน ได้นำเรื่องนี้ออกมาตีแผ่ จนกลายเป็นประเด็นดรามาบนโลกโซเซียลมีเดีย จุดฉนวนความโกรธทั้งต่อตัวของนายนากาอิ และ Fuji TV ซึ่งตอนแรก Fuji TV ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่รู้เรื่องดังกล่าว

8 ) แต่กระแสกดดันก็ยังคงเพิ่มขึ้นรื่อยๆ จนต้นเดือนมกราคม 2025 นายนากาอิออกมายอมรับผ่านตัวแทนของเขาว่าประเด็นกับผู้ประกาศข่าวสาวที่เป็นคู่กรณีจริงๆแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ความรุนแรงตามที่เป็นข่าวและเรื่องนี้ก็มีการไกล่เกลี่ยกันจบไปแล้วเขาได้จ่ายเงินชดเชยให้กับคู่กรณีไปเรียบร้อยแล้ว

และยืนยันด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นการกระทำของเขาแค่คนเดียว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับใดๆ กับ Fuji TV เขาจึงขอรับผิดชอบต่อเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว

9) ส่วนเหตุผลที่ไม่ออกมาพูดอะไรตั้งแต่เกิดดรามาใหม่ๆ นายนากาอิบอกว่า เป็นเพราะเขามีข้อตกลงกับอีกฝ่ายว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

10) หลังจากที่นายนากาอิ Fuji TV ก็ออกมาเคลื่อนไหวโดยประกาศระงับการออกอากาศของรายการทุกรายงานที่นายนากาอิเป็นพิธิกรตามมาด้วยช่องอื่นๆที่เขาไปร่วมรายการก็มีการระงับออกอากาศหรือตัดช่วงที่มีนายนากาอิออกไปจากรายการ

11) แต่เรื่องก็ดันไม่จบแค่นั้น กระแสกดดันจากสังคมนอกจากจะพุ่งตรงไปยังตัวของนายนากาอิแล้ว Fuji TV ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขา แม้จะออกมาประกาศระงับรายการของนายนากาอิแล้ว ก็ยังคงโดนโจมตีอย่างหนัก สาเหตุเพราะ สถานีออกมาปฏิเสธข่าวนี้ตั้งแต่แรก จนเจอกระแสกดดันหนักเข้าๆ ถึงจะมายอมรับทีหลังว่ากำลังสอบสวนเรื่องนี้อยู่ 

ประเด็นนี้ทำให้ฟูจิทีวีถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่โปร่งใสและพยายามช่วยปกปิดความผิดของพิธีกรช่องตัวเอง

12) สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีกหลังนายโคอิชิ มินาโตะ ประธานสถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวี ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 มกราคม ยอมรับด้วยตัวเองว่า สถานีรับรู้เรื่องนี้มาราวๆ 6 เดือน ก่อนที่สื่อจะนำมาเปิดโปง

ยิ่งไปกว่านั้น ในวันแถลงข่าว Fuji TV ก็อนุญาตให้แค่สื่อใหญ่ๆเข้าไปทำข่าวในขณะที่ผู้บริหารก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่อธิบายอะไรมากนักรวมถึงปฏิเสธที่จะตอบคำถามหลายคำถามด้วยข้ออ้างว่าเพื่อไม่ให้กระทบกระบวนการสอบสวน

13) กลายเป็นว่าหลังจากแถลงข่าว ความโกรธแค้นที่ควรจะคลี่คลายลง กลับกลายเป็นยิ่งลุกโหมหนักขึ้น และแล้วก็มีระเบิดลูกใหญ่อีกลูกมาลงที่ Fuji TV อีกลูกเมื่อมีผู้ประกาศข่าวหญิงอีกคนหนึ่งออกมาเปิดเผยว่าเธอเองก็เคยถูกผู้บริหารระดับสูงของสถานีนัดให้ไปพบนายนากาอิอยู่หลายครั้ง

14) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของนายนากาอิ ในแบบที่เรียกว่า ตัดอนาคตตัวเองเลย เขาถึงกับตัดสินใจออกมาประกาศลาออกจากวงการ เมื่อวันที่ 23 มกราคม

โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “ผมจะเผชิญหน้ากับปัญหาทั้งหมดและตอบสนองอย่างจริงใจ มีแค่ตัวผมคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบต่อทุกอย่าง ผมขอโทษและรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่สร้างปัญหาและความสูญเสียให้กับผู้คนมากมาก ผมขอโทษจริงๆ ที่ต้องบอกลาด้วยวิธีนี้”

15) ส่วน Fuji TV ที่เป็นต้นสังกัดก็เจอผลกระทบไม่แพ้กัน ทั้งลูกค้า และสปอนเซอร์รายใหญ่ เช่น โตโยต้า แมคโดนัลด์ และบริษัทอื่นๆ รวมๆ แล้วมากกว่า 70 บริษัทพากันถอนโฆษณาออกจากช่อง

16) ขณะเดียวกัน ในเวลานี้ กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร ก็กำลังกดดันให้ Fuji TV ดำเนินการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยตอนนี้ได้การสั่งระงับการเผยแพร่โปสเตอร์โปรโมทละครเรื่อง “119 Emergency Call” ของ Fuji TV ที่กำลังจะลงจอเอาไว้ก่อน ซึ่งหมายความว่า ละครเรื่องนี้อาจมีโอกาสที่จะถูกเลื่อนออกอากาศ หากว่า Fuji TV ไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่มากพอ

17) เรื่องนี้ทำให้อุตสาหกรรมความบันเทิงญี่ปุ่นถูกตั้งคำถามอีกครั้งถึงเรื่องความโปร่งใส และการให้ความเป็นธรรมต่อคนตัวเล็กตัวน้อย ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมล่วงละเมิดจากคนดังหรือผู้มีอิทธิพลในวงการ 

18) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยมีประเด็นใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ จอห์นนี คิตากาวะ ผู้ปลุกปั้นวงการเจป๊อป ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็กหนุ่มที่มีความฝันอยากเข้าวงการมานานหลายทศวรรษ จนมีเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดเป็นหลายร้อยคน

19) ซึ่งคล้ายๆ กับประเด็นในตอนนี้ ก็คือ สื่อและพันธมิตรในวงการรับรู้แต่เพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แทบจะไม่มีการตีแผ่ หรือการสอบสวนใดๆ ที่จริงจังเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษ จนกระทั่งหลังจาก คิตากาวะ เสียชีวิตไปเมื่อปี 2019 ถึงมีการหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึง