ฝ่ายปกครอง เข้าจับนักพนันในบ่อน จ.นนทบุรี รวบได้107 คน พบก่อนเข้าบ่อนมีการจัดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและให้ใส่แมสก์ ผอ.ส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม เชื่อ นักพนันบางคนน่าจะได้เงินแจกจากรัฐบาล 5 พันบาทเข้ามาเล่นพนันด้วย
วันที่ 8 เมษายน เจ้าหน้าที่กรมการปกครองชุดปฎิบัติการพิเศษ นำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในซอยพิบูลสงคราม 32 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พบการเปิดบ่อนการพนันและมีนักพนันรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียวอยู่ท้ายซอย ด้านหน้าแขวนป้ายเมืองนนท์สนุ๊กเกอร์ ภายในมีการซอยห้องทึบแบ่งเป็นหลายห้อง
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม กรมการปกครอง เปิดเผยว่า ปฎิบัติการครั้งนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน จึงนำกำลังเข้าจับกุมสามารถจับนักพนันทั้งหมด 107 คน พร้อมของกลางเป็นเงินสดประมาณ 3 แสนบาท และ ยึดอุปกรณ์การเล่นพนัน เช่น ตู้สล็อต ตู้ยิงปลา อุปกรณ์ไฮโลอีกหลายรายการ
สอบถามเบื้องต้นนักพนันมีทั้งคนในพื้นที่และต่างพื้นที่ ก่อนเข้าบ่อนมีการตรวจวัดไข้อุณหภูมิ และให้นักพนันใส่แมสก์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า บุคคลใดเป็นเจ้าของบ่อน แต่สามารถจับเจ้ามือการพนัน ได้ 5 คน และจะทำการขยายผลว่าผู้ใดเป็นเจ้าของบ่อน เบื้องแจ้งความดำเนินคดีกับนักพนันทั้งหมดใน 2 ข้อหา ลักลอบเล่นการพนัน และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายรณรงค์ ยังเชื่อว่า นักพนันเหล่านี้อาจมีบางส่วนที่ได้รับเงินเยียวยา5,000 บาทจากทางรัฐบาลแล้วนำมาเล่นการพนัน ทั้งนี้การปฎิบัติการครั้งนี้ได้ประสานตำรวจท้องที่มารับตัวผู้ต้องหา พร้อมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของนักพนันทั้งหมด เบื้องต้นพบว่ามีนักพนัน 1 คน ที่มีไข้สูง ทั้งหมดถูกตัวขึ้นรถไปที่ว่าการอำเภอเมืองนนทบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย