“รัฐบาลประกาศหนุน คนทั้งประเทศก็ให้ความร่วมมือ” ถอดเกร็ดความสำเร็จ บันเทิงเกาหลี

ความสำเร็จของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ เป็นตัวอย่างให้โลกได้ศึกษา และหนึ่งในส่วนผสมของความสำเร็จนั้นคือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เปิดตลาด และปรับตัวเข้ากับโลกในทุกยุคสมัย

ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บริษัทชั้นนำในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ เปิดตลาดวงการในอาเซียนในปี พ.ศ. 2553 โดยเริ่มต้นจากที่เวียดนาม ก่อนจะมาเจาะตลาดบันเทิงไทยในช่วงสามปีที่ผ่านมา

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้คุยกับ โยนู ฉ่อย กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายการผลิตของบริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ถึงเคล็ดลับความสำเร็จนี้

BTS ประสบความสำเร็จระดับโลก

จากการที่เราได้เห็นวง BTS และ Blackpink ซึ่งประสบความสำเร็จและโด่งดังไปทั่วโลก อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จ?

Blackpink และ BTS ถือว่าเป็นวงที่ประสบความสำเร็จมากสำหรับในประเทศเกาหลี แต่ถ้ามองในมุมมองสำหรับด้านภาพยนตร์ ช่วงก่อนประมาณปี 1960-1970 เป็นช่วงที่มีการผลิตหนังเยอะ  จนถึงช่วงประมาณปี 1996 รัฐบาลเริ่มเข้ามาช่วยดูแลทั้งเรื่องการโปรโมทและการผลิต รวมถึงได้รับทุนจากทั้งทางรัฐบาลและเอกชนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเกาหลีใต้ เป็นจุดที่ก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทำให้ผู้ผลิต เริ่มผลิตหนังโปรดักชั่นสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ 20 ปีก่อน รวมถึงการผลิตเนื้อหาที่แปลกใหม่ออกไป จนทำให้สามารถแข่งกับประเทศอื่นๆ ได้ 

ในทางปฏิบัติ รัฐบาลเกาหลีช่วยอะไรบ้าง?

หลายด้านค่ะ เช่นการเพิ่มทุนเพื่อให้มีการผลิตหนังท้องถิ่น ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อปี อีกจุดที่สำคัญคือกฎหมายเรื่องคุ้มครองด้านภาพยนตร์ ที่บอกว่าต้องมีการฉายหนังเกาหลีปีละ 140 วัน หรือประมาณ 40% ของทั้งปี เป็นกฎที่ออกแบบมาเพื่อเป็นโปรโมทหนังเกาหลี รวมถึงช่วยหาทุนจากกลุ่มบริษัทเอกชนด้วย

ถ้ามองจากมุมมองส่วนตัว ในฐานะคนที่ทำงานในวงการบันเทิง คุณรู้สึกถึงผลจากมันอย่างไรบ้าง?

ดีนะคะ พอรัฐบาลและเอกชนร่วมกันช่วยในการให้ทุนและโปรโมทวงการภาพยนตร์ พวกเราจะได้ผลิตหนังในหลากหลายรูปแบบ และสามารถต่อยอดในการผลิตหนังออกไปในประเทศอื่นๆ ได้ ซึ่งตอนนี้หนังเกาหลีหลายเรื่องถูกส่งเข้าประกวดในเทศกาลภาพยนตร์หลายๆ ที่และประสบความสำเร็จจากจุดนั้น รวมถึงตอนนี้ก็ได้มีการผลิตร่วมกันกับอีกหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย

ช่วงขวบปีที่น่าสนใจที่สุด คือตอนที่วงการหนังเกาหลี ก้าวกระโดดจากท้องถิ่นมาสู่ระดับทวีป และระดับโลก บรรยากาศช่วงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?

ช่วงนั้นโปรดิวเซอร์หลายคนจบมาจากต่างประเทศพอดี ประกอบกับเป็นจังหวะที่รัฐบาลและเอกชน ยื่นมือเข้ามาช่วยเลยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด 

Train to Busan (2016) หนึ่งในหนังเกาหลีที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก

 การสนับสนุนเหล่านี้สำคัญขนาดไหน?

สำคัญมาก มันไม่ใช่แค่การสนับสนุนด้านการลงทุน แต่ยังรวมไปถึงด้านกฎหมายอีกด้วย มันเป็นแรงผลักดันอีกครึ่งหนึ่งที่สำคัญ รัฐบาลเกาหลีช่วยร่างแผนพัฒนาวงการบันเทิงด้วย ซึ่งแน่นอนมันมีทั้งด้านดีและไม่ดี แต่มุมที่ดีคือพอรัฐบาลประกาศว่าจะสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิง มันก็ทำให้ประชาชนรับรู้แล้วว่ารัฐบาลอยู่ข้างหลังพวกเรา อยู่เคียงข้างพวกเรา ทำให้เราทำงานง่ายขึ้นและแก้ปัญหาที่เคยมีอยู่ได้ 

CJ Major Entertainment เจาะตลาดประเทศไทยมาสามปีแล้ว ได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง?

ตลาดประเทศไทยยากพอสมควรเลย เพราะคนไทยรสนิยมดี และคนไทยเลือกที่จะดูหนังเพราะคุณภาพมากกว่าเรื่องอื่นๆ และการที่มีหนังฮอลลีวู้ดเยอะแยะไปหมด ก็ทำให้มาตรฐานมันยกขึ้นสูงตามไปด้วยเช่นกัน

แล้วตลาดหนังไทยต้องทำอย่างไรบ้าง?

ต้องยอมรับว่าฮอลลีวูดครองตลาดหนังโลกมาเป็นร้อยปีแล้ว ตลาดหนังไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกก็ต้องพัฒนาฝีมือในการทำหนังให้สูงขึ้น

โยนู ฉ่อย กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายการผลิตของบริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์

ถามเรื่องส่วนตัวของคุณโยนูบ้าง เรียนจบด้านการหนังโดยตรงเลยไหม?

ตอนแรกเรียนจบด้านกฎหมายแล้วค่อยไปเรียนต่อด้านการผลิตภาพยนตร์และได้เข้ามาทำงานที่ ซีจีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ค่ะ

การที่คุณโยนูทำงานด้านบันเทิง ทั้งๆ ที่เรียนจบนิติศาสตร์มา มันสะท้อนถึงความคึกคักในวงการไหม?

ก็แค่ระดับหนึ่งค่ะ ดิฉันว่ามันเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลมากกว่า แต่ความคึกคักของบรรยากาศก็ช่วยได้มาก แต่ถ้าถามถึงเรื่องผลตอบแทนตัวเงินพวกวงการการเงินกับเทคโนโลยีสารสนเทศจะน่าตื่นเต้นมากกว่านะค่ะ

ชวนคุยเรื่อง Love Battle รักสองปียินดีคืนเงินบ้าง คุณโยนูเล่าถึงที่มาที่ไปของโปรเจ็กนี้หน่อยค่ะ

ย้อนไปตอนนั้น เรากำลังดูบทหนังที่จะไม่ตึงเครียดมากเกินไป ไม่ให้ไปทางสยองขวัญหรือระทึกขวัญ เพราะเราอยากให้เข้าถึงผู้ชมได้ง่ายขึ้น เราเลยมองไปที่หนัง Romantic Comedy จนเจอบทของเรื่อง “Love Battle” ซึ่งเป็นหนังแนว รักตลก ที่ยังไม่เคยทำมาก่อนและเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เป็นคนทำคนแรก หลังจากนั้นก็ได้หาผู้กำกับหนังจนมาเจอผู้กำกับ คุณโจ้ – วิรัตน์ เฮงคงดี และได้เขียนบทด้วยกันซึ่งเป็นบทเกี่ยวกับ ประกันภัยความรัก 2 ปี ซึ่งได้ถ่ายเสร็จไปเมื่อต้นปีนี้

มีประกันนี้จริงในประเทศเกาหลีหรือไม่?

ฮ่าๆ มันมีไอเดียออกมาจริงๆ นะคะ แต่สุดท้ายไม่ได้มีประกันออกมาสู่ท้องตลาด แต่มีช่วงทดลองจริงๆ ค่ะ

บอกอะไรให้ผู้ชมได้ทราบก่อนออกไปดูหนังเรื่องนี้ค่ะ

“Love Battle” เป็นหนังที่ตั้งคำถามว่า “ความรักมีวันหมดอายุจริงๆ หรือเปล่า?”  พวกเราอยากท้าทายแนวคิดของความรัก เนื่องจากมีวิจัยที่ออกมาบอกว่าหลังจาก 7 ปี คู่รักจะเปลี่ยนไปเป็นคู่หูมากกว่าคนรัก เราอยากจะรู้ถึงมุมมองของคู่รัก คนที่กำลังมองหาความรัก หรือคนที่สงสัยในเรื่องความรักว่ามีมุมมองแตกต่างกันออกไปอย่างไร และทุกคนมีความเชื่อด้านความรักเป็นแบบไหน และความรักสามารถคำนวณออกมาได้ไหม

Love Battle รักสองปียินดีคืนเงิน นำแสดงโดย “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” และ “ปั้นจั่น – ปรมะ อิ่มอโณทัย”เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ วันที่ 20 มิถุนายน 2562 นี้