‘ทักษิณ’ เปิดใจครั้งแรก บอกความสุขอยู่ที่ครอบครัว คืนนี้พบ ‘เศรษฐา’ ทานข้าวบ้าน ‘สมชาย’

‘ทักษิณ’ เปิดใจครั้งแรก บอกความสุขอยู่ที่ครอบครัว ห่วงเชียงใหม่แห้งแล้ง อยากให้ทำ ‘ฝายแม้ว’ คืนความชุ่มชื้น พร้อมเผยคืนนี้รวมตัว 3 นายกฯ พบ ‘เศรษฐา’ ทานข้าวบ้าน ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ เป็นเจ้าภาพ ตามใจ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เล่นการเมือง

ช่วงเที่ยงวันนี้ (15 มี.ค. 67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมครอบครัวตระกูลชินวัตร เดินทางมาทำบุญ ที่สุสานแม่ออน ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของนายเลิศและนางยินดี ชินวัตร บิดามารดาของนายทักษิณ ที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาด้านทิศตะวันตกติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน ต.ออนเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่

ภาพ ธนัญชัย แก้วโสวัฒะ / Thai News Pix

หลังทำบุญเสร็จ นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรก โดยบางช่วงพูดเป็นภาษาเหนือด้วย โดยสรุปนายทักษิณ ระบุว่า ความสุขอยู่ที่เรื่องครอบครัว มาเชียงใหม่ มีกำลังใจดี แต่ไม่ใช่ใจบันดาลแรง

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงอาการเจ็บหลังที่ทำให้วันนี้ต้องใส่เฝือกอ่อนดามหลังว่า กล่ามเนื้อสะดุ้งซึ่งมันเป็นอยู่แล้ว นานๆ จะเป็นขึ้นมา เมื่อมีอาการนิดนึง นึกว่าไม่เป็นไร พอวันนี้สะดุ้งอีกรอบ แต่ว่าไม่มีเข็มขัดนะไม่ได้ชกมวย พอรัดแล้วดีขึ้น ส่วนที่คอก็ตามอายุ มันเสื่อมก็ต้องคอยดูไว้ บางทีมันจะกดประสาท

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีกำหนดถอดเฝือกอ่อนที่คอหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า “ถอดๆ ใส่ๆ ได้ แล้วแต่อาการ”

นายทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์เป็นภาษาเหนือว่า มาเชียงใหม่ก็ได้กินทุกอย่าง ไม่มาก็ได้กิน แต่ไม่เหมือนกัน เพราะมันแช่แข็งไป ไม่เหมือนได้กินสดๆ มากินที่นี่มันลำกว่า อร่อยกว่า ก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็ไปกินร้านที่ไม่มีแอร์ กินแล้วเหงื่อออก ก็จะลำ (อร่อย)

เมื่อถามว่า เมื่อช่วงเช้าไปเดินตลาดวโรรส มีคนมาต้อนรับเยอะรู้สึกอย่างไร นายทักษิณ ตอบเป็นภาษาเหนือว่า “ดีใจที่เปิ้ลบ่ลืมคนเฒ่าคนหนึ่ง”

และที่มีคนทักว่าหน้าบ่แก่เลยนั้น นายทักษิณ กล่าวว่ามาอยู่กับครอบครัวจิตใจมันก็อิ่ม ไม่เหมือนอยู่โรงพยาบาลตำรวจจิตใจมันห่อเหี่ยวนิดหน่อย วัยนี้เรียกว่าวัยรักลูกหลงหลาน

เมื่อถามว่า คิดถึงอะไรที่สุดในเชียงใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ภาพรวมทั้งหมดที่เราเคยเติบโตมา ตอนเด็กๆ อายุ 12-13 ปี ไม่มีของเล่นอะไรก็ขี่จักรยานมาถ้ำเมืองอ่อน ถนนยังไม่มีบางช่วงต้องแบกจักรยานข้ามทุ่งนา ซื้อข้าวมาจากในสันกำแพงมากินที่ถ้ำ เวลาจะลงต้องใช้บันไดไม้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เชียงใหม่เปลี่ยนไปเยอะหรือไม่นั้น นายทักษิณ บอกว่า ดูมีการกระจายตัวของเมืองมากขึ้น แต่ว่าสิ่งที่เป็นห่วงคือความแห้งแล้ง อยากให้ย้อนกลับไปแบบคนเดิมๆ ทำกัน คือฝายแม้ว ทางลาดกักน้ำเป็นขั้นบันไดเพื่อให้มันชุ่มชื้น ความเขียวก็จะกลับมาเป็นวัฏจักร อย่างที่ดูไบแข่งความร่ำรวยกันที่บ้านใครมีต้นไม้เยอะ เดี๋ยวนี้ดูไบฝนตกน้ำท่วม เพราะเขาไม่เคยมีท่อระบายน้ำเพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะมีน้ำ แต่บ้านเราท่อระบายน้ำเต็มเลย แต่ไม่มีน้ำให้ระบายเลยแห้ง เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องเพิ่มต้นไม้ เพิ่มความเขียวความชุ่มชื้น เพราะเวลาเห็นว่ามันแห้งแล้ง ใจมันก็จะเหี่ยวตาม เพราะฉะน้้นคนที่อยู่ในสภาพแห้งแล้งก็จะเหี่ยวตาม วันนี้ใจสำคัญที่สุด อาจจะเพราะแก่แล้ว ก็เลยพูดถึงเรื่องใจบ่อย

นายทักษิณ ยังพูดถึงเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยบอกว่า มี 2 ส่วน ส่วนในประเทศ เกษตรกรต้นทุนสูงกำไรน้อยอยู่แล้ว พอหมดฤดูกาล แทนที่จะไปไถกลบเขาไม่มีเครื่องมือเลยเผาง่ายดี เขารู้ว่าเผาไม่ดีแต่เขาไม่มีทางเลือก ดังนั้นทางราชการจึงต้องดูว่าจะเข้าไปช่วยให้เขาไถกลบอย่างไร ส่วนทางต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องที่เอกชนไทยไปปลูกข้าวโพดเยอะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีความคิดว่า จะห้ามนำเข้าสินค้าทางการเกษตรจากต่างประเทศทั้งหมดจนกว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น ถ้ายังเผาอยู่ไม่จบ จนกว่าจะเลิกเผาแล้วค่อยนำเข้าใหม่

ส่วนคืนนี้จะเจอกับนายกฯ เศรษฐาหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า เห็นว่าจะเจอกันคืนนี้ทานข้าว โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามว่า นายกฯ 3 คนรวมตัวกัน นายทักษิณ ตอบว่า “ผมเป็นอดีต มีหน้าที่ให้กำลังใจคนปัจจุบัน เขาถามอะไรเราพอมีความรู้เราก็ตอบ”

ส่วนที่ตอนนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือ อุ๊งอิ๊ง มีความแข็งแกร่งมากในสนามการเมือง นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมเป็นคนที่ไม่บังคับลูก ตามใจตลอด เดี๋ยวนี้ยังไม่เลิกตามใจเลย เพราะฉะนั้นต้องแล้วแต่ใจ ตามใจ”

‘ทักษิณ’ ต้องสวมเฝือกดามหลัง สักการะครูบาศรีวิชัย-บวงสรวงพระธาตุดอยสุเทพ

‘เศรษฐา’ แย้มมีโอกาสพบ ‘ทักษิณ รวมตัว 3 นายกฯ ที่เชียงใหม่ โต้ทัวร์ต่างประเทศไร้ผลงาน