Ira Concept ขาย ‘ผ้าอนามัยออร์แกนิก’ เหมือนขายเน็ตฟลิก ธุรกิจเพื่อเมนส์และเพื่อโลก

“รุ้งอยากให้ผู้หญิงไม่ต้องเสียสละเลือกระหว่างความยั่งยืนกับความสะดวกสบาย อยากให้ข้อมูลเกี่ยวกับประจำเดือนหรือเพศศึกษาเป็นอะไรที่เข้าถึงได้ อยากทำลายการตีตราประจำเดือนและความละอายในการมีประจำเดือน รวมถึงทำงานในเรื่องการกีดกันทางเพศและปัญหาการขาดแคลนผ้าอนามัย”

รุ้ง – วรางทิพย์ สัจจทิพวรรณ คือผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Ira Concept แบรนด์ผ้าอนามัยออร์แกนิกเจ้าแรกในประเทศไทย ที่ก่อกำเนิดจากความตั้งใจจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ผู้หญิงไม่ต้องเลือกระหว่างความสะดวกสบายกับความยั่งยืน

รุ้งเล่าว่า ตั้งแต่ยังเด็กเธอเป็นคนชอบตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ รอบตัวอยู่เสมอ เมื่อเติบโตจนเข้าสู่วัยที่ ‘ผ้าอนามัย’ เข้ามาเป็นอีกปัจจัยในการใช้ชีวิต ในขณะที่เธอมีอาการแพ้ผ้าอนามัยอย่างหนัก ทั้งคันและระคายเคืองไปจนถึงอาการรู้สึกเผา 

ทำให้เธอเกิดคำถาม เริ่มต้นสำรวจองค์ประกอบของผ้าอนามัยในท้องตลาดอย่างละเอียด และให้ความสนใจในปัญหาที่เกี่ยวข้องผ้าอนามัยและประจำเดือนมาโดยตลอด

จนมาถึงวันที่เธอเรียนจบในสาขาชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ และเริ่มต้นชีวิต First Jobber ในตำแหน่งข้าราชการประจำในสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ด้วยความเชื่อที่ว่า “ฉันจะช่วยประเทศ!!” ก่อนสุดท้ายเธอจะค้นพบว่าเธอมีหนทางอื่นที่เหมาะสมกับเธอ และจะสร้างแรงกระเพื่อมในเรื่องที่เธอเชื่อมั่นได้ไม่แพ้กัน

หลังจากตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เธอจึงตัดสินใจจะเริ่มต้นสร้างสิ่งใหม่ด้วยมือของเธอเอง

ณ วันที่ 22 ก.ย. 2019 เป็นวันที่รุ้งเริ่มต้นสร้าง ‘Ira Concept’ 

รุ้ง – วรางทิพย์ สัจจทิพวรรณ คือผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Ira Concept แบรนด์ผ้าอนามัยออร์แกนิก

Ira Concept ธุรกิจเพื่อเมนส์และเพื่อโลก

เพราะจุดเริ่มต้นของ Ira Concept คือการพัฒนานวัตกรรมผ้าอนามัยให้ดีต่อผู้หญิงที่แพ้ง่าย ดังนั้น ส่วนประกอบและขั้นตอนการผลิตจึงสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทคโนโลยีการผลิตผ้าอนามัยที่ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมายาวนาน

“วันแรกที่รุ้งเข้าไปคุยกับโรงงานเขาก็ไม่งงนะ เพียงแต่เขาอาจจะรู้สึกว่าทำไมเราเยอะจัง อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้ ไม่ได้ไปหมดเลย”

“เพราะผ้าอนามัยของเราเป็น 100% ออร์แกนิก ไม่เหมือนกับผ้าอนามัยส่วนใหญ่ในท้องตลาดที่เป็นออร์แกนิกคอตตอนแค่ชั้นบน ผ้าอนามัยของ Ira Concept ทำจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมด ตั้งแต่ชั้นบน ชั้นกลาง จนไปถึงแผ่นฟิล์มข้างหลังที่ทำจากพลาสติกชีวภาพ”

โดยรุ้งเลือกใช้ ‘เยื่อไผ่’ เป็นวัตถุดิบในการผลิตชั้นบนและชั้นกลางของผ้าอนามัย Ira Concept ด้วยเหตุผลที่ว่าไม้ไผ่นั้นใช้ทรัพยากรในการผลิตและเติบโตน้อยกว่าใยประเภทอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อโลกน้อยกว่าในจำนวนที่เท่ากัน รวมถึงมีสัมผัสที่นุ่มสบายไม่ระคายเคือง

ทางเลือกใหม่ สะดวกสบายและรักษ์โลก

รุ้งเล่าต่อว่า ในตลาดสินค้าที่เกี่ยวกับประจำเดือนไทยมีตัวเลือกน้อยมากและยิ่งน้อยลงไปอีกสำหรับผู้หญิงที่ ‘รักษ์โลก’ เพราะผ้าอนามัย 1 ชิ้น เท่ากับถุงพลาสติกถึง 4 ถุง ใช้เวลากว่า 500-800 ปีในการสลาย แล้วตลอดชั่วชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องใช้ผ้าอนามัยเท่าไร ผ้าอนามัยเหล่านั้นจะยังอยู่บนโลกใบนี้ใช่ไหมแม้เธอเหล่านั้นจะจากโลกใบนี้ไปแล้ว

คำถามของเธอคือ “ทำไมผู้หญิงต้องเลือกระหว่างความสะดวกสบายและความยั่งยืน?”

“ที่ประเทศไทยตัวเลือกที่ย่อยสลายได้มีแค่ผ้าอนามัยแบบซักได้แล้วก็แบบถ้วย ตัวรุ้งเองก็รู้สึกว่ามันเป็นกำแพงที่ค่อนข้างสูง เพราะว่ามันต้องเรียนรู้การใช้ใหม่ การพับ การสอด การยัดเข้าไป การเก็บระหว่างวัน คนจะใช้ต้องอยากเรียนรู้มากจริงๆ ถึงจะยอมทำ”

“มันจะมีผู้หญิงกี่คนที่โอ้ ลำบากจัง ฉันเปลี่ยนมาใช้แค่ถุงผ้าก่อนดีกว่า มันควรจะมีทางเลือกที่มากกว่านี้มั้ย สำหรับคนที่ยังไม่อยากไปสุดขนาดนั้น ค่อยๆ เรียนรู้และสามารถมีพฤติกรรมเหมือนเดิม หรือไม่ได้เปลี่ยนมาก แต่สามารถย่อยสลายได้เหมือนกัน”

หลังจากทำให้ผ้าอนามัยเป็น 100% ออร์แกนิกได้แล้ว รุ้งจึงทุ่มเทความพยายามที่จะทำให้ผ้าอนามัยของเธอ ‘ย่อยสลาย’ ได้ด้วย

ขายผ้าอนามัยแบบขายเน็ตฟลิก 

นอกจากเรื่องคุณสมบัติของสินค้าที่แตกต่างจากท้องตลาดแล้ว รุ้งยังนำเสนอ ‘ช่องทางการขาย’ ที่แตกต่างจากท้องตลาด

“เรารู้สึกว่าผ้าอนามัยเป็นอะไรที่จำเป็น ถ้ามันจำเป็นขนาดนี้ทำไมเราไม่ทำให้มันเป็นโมเดลซื้อต่อเนื่อง (subscription model) เรารู้สึกว่าไม่มีอะไรเหมาะกับ subscription model ไปมากกว่าประจำเดือน เพราะมันก็บอกในชื่อของมันอยู่แล้วว่ามาทุกเดือน”

“ถึงเราจะรู้ว่าโมเดลแบบนี้ยังไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทย  แต่ในต่างประเทศใครๆ ก็ทำกันและทำประสบความสำเร็จมาหมดแล้ว แต่ในไทยโมเดลธุรกิจที่มีอยู่ก็มีแค่เน็ตฟลิกที่เป็นที่รู้จัก”

นอกจาก Ira Concept จะขายปลีกผ้าอนามัยผ่านทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และหน้าร้าน 2 แห่งแล้ว รุ้งยังเปิดขายแบบโมเดลซื้อต่อเนื่อง โดยจ่ายค่าบริการรายวัน รายเดือน หรือรายปี หรือที่มีชื่อเรียกว่า Subscription Model เหมือนกับที่ Netflix, Spotify, Apple, Salesforce, Amazon และบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีนิยมใช้เป็นโมเดลธุรกิจ

โดยนอกจากจะดีกับลูกค้าที่ได้รับผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องกังวลในวันที่ประจำเดือนมาโดยบังเอิญแล้ว โมเดลธุรกิจในลักษณะนี้ยังดีต่อธุรกิจในระยะยาว ทั้งสามารถคาดการณ์รายได้ที่แน่นอนได้ รวมถึงยังสามารถรับฟีดแบ็คจากลูกค้าได้โดยตรงและรับรู้ยอดขายอย่างตรงไปตรงมา

พันธกิจเพื่อ (ผู้หญิง) ทั้งโลก

สุดท้ายรุ้งบอกว่า ไม่ว่า Ira Concept จะเดินไปในเส้นทางไหนหรือเติบโตอย่างไรในอนาคต แบรนด์ของเธอก็มีพันธกิจจะต้องรักษา ‘พันธกิจเพื่อเมนส์และเพื่อโลก’

“รุ้งอยากให้ผู้หญิงไม่ต้องเสียสละเลือกระหว่างความยั่งยืนกับความสะดวกสบาย อยากให้ข้อมูลเกี่ยวกับประจำเดือนหรือเพศศึกษาเป็นอะไรที่เข้าถึงได้ อยากทำลายการตีตราประจำเดือน (period stigma) ความละอายในการมีประจำเดือน (period shaming) รวมถึงทำงานในเรื่องการกีดกันทางเพศและปัญหาการขาดแคลนผ้าอนามัย (period poverty)”

“พันธกิจใกล้ๆ ของเรา เราแค่อยากจะให้ผู้หญิงทุกคนเข้าใจร่างกายตัวเองมากขึ้น แล้วก็หันมาใส่ใจสิ่งของใกล้ตัวเรามากขึ้น อยากจะให้ผู้หญิงเริ่มขยับไปสร้างพลังให้ตัวเอง รักษ์โลก และอยากให้ผู้หญิงเข้าถึงสินค้าที่มันดีกับตัวเราจริงๆ”