ทำความรู้จัก ‘เซียร่า-ซาฮาร่า’ สุนัขกู้ภัย กับภารกิจช่วย ‘แผ่นดินไหวตุรกี’

ภาพความน่ารักน่าเอ็นดูของ 2 สุนัขกู้ภัย สมาชิกทีม USAR Thailand (Urban Search and Rescue Thailand) ที่ได้รับภารกิจให้เป็นตัวแทนเดินทางไปยังสาธารณรัฐตุรกี เพื่อร่วมสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงครั้งหนึ่งของโลก โดยออกเดินทางจากประเทศไทยในคืนวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา

ทีม USAR Thailand ชุดแรก มีเจ้าหน้าที่ 42 คน สุนัขกู้ภัย 2 ตัว ที่มีศักยภาพปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง เนื่องจากฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีขีดความสามารถในการรองรับสาธารณภัยขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ตอนนี้ สุนัขกู้ภัยทั้ง 2 ตัว กำลังกลายเป็นขวัญใจใหม่ของชาวโซเชียลไทย

สำนักข่าว TODAY ชวนทำความรู้จักน้องๆ ‘สุนัขกู้ภัย’ K9-USAR Thailand ที่ได้รับภารกิจสำคัญ Thailand for Türkiye ให้มากขึ้น

Sierra (เซียร่า) ขนสีน้ำตาลเข้มกว่า / Sahara (ซาฮาร่า)

ดร.อลงกต ชูแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม/รองผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว TODAY ว่า สุนัขกู้ภัยในทีม USAR Thailand ชุดแรก คือ Sierra (เซียร่า) อายุ 7 ปี กับ Sahara (ซาฮาร่า) อายุ 6 ปี เป็นสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ (Golden Retriever) เพศเมียทั้งคู่ ทั้งเซียร่าและซาฮาร่า ได้รับการฝึกมาตรฐาน ตามหลักสูตรของ IRO (International Rescue Dog Organisation) หรือ องค์การสุนัขกู้ภัยโลก

โดยภารกิจระดับนานาชาติรอบนี้ เซียร่าและซาฮาร่า มุ่งทำ SAR Dog หรือ Search & Rescue ค้นหาผู้ประสบภัย โดยจะแจ้งเตือนให้ผู้ดูแล (handler) ทราบ ในกรณีที่มีการพบ “ผู้ประสบภัยที่ยังมีลมหายใจหรือมีชีวิตอยู่” เพื่อให้แจ้งทีมเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ซึ่ง handler ที่ไปครั้งนี้ คือเจ้าของของเซียร่าและซาฮาร่า นั่นเอง

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐตุรกี ขนาด 7.8 ความลึก 17.9 กม. ศูนย์กลางใกล้เมืองกาซีอันเท็พ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากหลักหมื่น และยังมีผู้สูญหายติดอยู่ใต้ซากอาคารปรักหักพัง

(เซียร่า และ ซาฮาร่า ร่วมทีมกับสุนัขกู้ภัย USAR ประเทศอื่นๆ วันที่ 10 ก.พ. 66)

ดร.อลงกต บอกว่า กว่าที่สุนัขกู้ภัยทั้ง 2 ตัวนี้ จะเริ่มได้ปฏิบัติงาน ต้องเข้ารับการฝึกไม่น้อยกว่า 3 ปี ภารกิจรอบนี้คือ 10 วัน การทำงานของพวกเขาจะอยู่ในสภาพอากาศที่มีข้อจำกัด แต่ทั้ง 2 ตัวได้รับการฝึกฝนให้ปฏิบัติงานในสภาพอากาศที่หลากหลายได้ ส่วนจุดเด่นของสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ สามารถทนสภาพอากาศหนาวได้ดีกว่าอีกหลายพันธุ์

เซียร่าและซาฮาร่า เป็นสุนัขกู้ภัยแห่งชาติกลุ่มเดียวที่มีอยู่ในไทย ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานหลายเคสในไทย อีกทั้งร่วมงานกับมูลนิธิกระจกเงาด้วย เพื่อช่วยตามหาคนหาย ทั้งคู่ได้รับการฝึกบ่อยมาก รวมถึงในการฝึกในคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) หรือการฝึกร่วม/ผสมทางการทหาร สุนัขกู้ภัยแห่งชาติกลุ่มนี้ก็ได้ร่วมฝึกมาแล้ว

USAR Thailand ทำงานกับองค์การสหประชาชาติ ทั่วโลกมีทีม USAR อยู่หลายแห่ง โดยครั้งนี้หลายประเทศได้ส่ง USAR ไปร่วมปฏิบัติภารกิจที่สาธารณรัฐตุรกี USAR ที่มีสุนัขกู้ภัย อย่างเกาหลีใต้ ก็ไปพร้อมสุนัขกู้ภัยแบบเดียวกับ USAR Thailand

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีคำสั่งให้ USAR Thailand สนับสนุนภารกิจต่อ ในส่วนของ องค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติเรามีทีมที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว คือเจ้าหน้าที่ 5 คนและสุนัขกู้ภัยที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีอีก 3 ตัว สามารถเดินทางทำภารกิจต่อได้ ซึ่งภารกิจครั้งนี้ได้รับคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทย

ส่วนภาพที่เห็น ‘เซียร่า’ และ ‘ซาฮาร่า’ นั่งบนเครื่องบินได้อย่างเรียบร้อย แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง ดร.อลงกต บอกว่า ทั้งคู่เป็นสุนัขที่มีคุณลักษณะพิเศษ คือ เป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่งที่สูง อดทนสูงมาก และขับถ่ายเป็นเวลาตามที่กำหนดได้ เช่น เมื่อเราพาไปในห้อง มีแผ่นวางให้ แล้วบอกด้วยคำสั่งที่ฝึกมา เขาจะสามารถปัสสาวะได้เลยเหมือนเด็ก หรือจะบอกเราเมื่อปวดอึ เราก็พาเขาไปขับถ่ายในที่เงียบๆ เขาสามารถอึได้

อีกเรื่องคือการหลับนอน สุนัขกู้ภัยพวกนี้ถูกฝึกในสถานการณ์ที่บีบคั้นต่อเนื่อง เช่น อากาศร้อน อากาศที่ไม่เอื้ออำนวย หรืออดนอน ตี 3-4 ยังฝึกอยู่ในสถานการณ์แผ่นดินไหว เป็นต้น ดังนั้นเขาสามารถจะใช้ชีวิตอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ ซึ่งที่ผ่านมา เซียร่าและซาฮาร่า ได้รับการฝึกมาก ทนกับแรงกดดันในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี

ดร.อลงกต ทิ้งท้ายว่า ในวันที่ 15 ก.พ. 66 มีกิจกรรมส่งกำลังใจให้กับทีม USAR Thailand เซียร่าและซาฮาร่า โดยจะมีกิจกรรม รวมพลคนรักสุนัข รวมถึงทีม USAR Thailand ชุดที่ 2 ซึ่งมีสุนัขกู้ภัยทีมเดียวกับเซียร่าและซาฮาร่า มาร่วมงานด้วย ที่บริเวณลานสนามหญ้า อิมแพค เมืองทางธานี

(ภาพสุนัขกู้ภัยที่รอเดินทางไปตุรกีเป็นชุดที่ 2 หากได้รับคำสั่ง)

ขอบคุณภาพจาก : กองส่งเสริมการป้องกันสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ องค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ