หนังไทยไปต่อได้ ถ้ามีคนหนุน ‘Karman Line’ เปิดแผน 8 เรื่องใน 3 ปี ตั้งเป้ารายได้ปีละ 150-300 ล้าน

หลังจากช่วงปลายปีที่แล้ว Workpoint (เวิร์คพอยท์ฯ) จับมือ M Studio (เอ็ม สตูดิโอ) เปิดบริษัท Karman Line (คาร์แมนไลน์) ด้วยทุนจดทะเบียน 110 ล้านบาท เพื่อลงทุนและจัดจำหน่ายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ในวันนี้บริษัทจึงได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการและเผยถึงทิศทางทางธุรกิจและไทม์ไลน์ภาพยนตร์หลังจากนี้

[ Karman line ภาพยนตร์ไทยยังมีโอกาส สนับสนุนเพื่อไปต่อ ]

ต้องเกริ่นก่อนว่าในปีที่แล้วตลาดภาพยนต์ในประเทศไทยนั้น ‘ภาพยนตร์ไทย’ มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า ‘ภาพยนตร์ฮอลลีวูด’ สะท้อนให้เห็นโอกาสของอุตสาหกรรมหนังไทยที่ยังสามารถโตไปได้ไกลอีกไกลมาก

แต่หากอยากให้วงการภาพยนตร์มีโอกาสเติบโต วงการภาพยนตร์เองก็ต้องการผู้สนับสนุน ‘Karman line’ จึงเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้เขียนบท ผู้กำกับ หรือนักแสดง ให้สามารถนำโปรเจกต์มานำเสนอได้

‘ชลากรณ์ ปัญญาโฉม’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัล บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์ เทนเมนท์ จํากัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนผลิตภาพยนตร์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย และได้หยุดทําไป 4-5 ปี โดยผลงานล่าสุดคือ ‘ไบค์แมน’ และ ‘อีเรียมซิ่ง’ 

แต่ด้วยแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทำให้กลับมาเห็นโอกาสในการผลิตภาพยนตร์อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็ได้จับมือกับ M Studio พาร์ทเนอร์ที่ทำภาพยนตร์กันมาอย่างยาวนาน เพื่อเปิดบริษัท Karman Line (คาร์แมนไลน์) ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 110 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าบริษัทจะสร้างรายได้ 150-300 ล้านบาทต่อปี 

ที่น่าสนใจอีกประเด็น คือ ในการร่วมมือกันครั้งนี้ ‘Karman line’ ได้คนเก่งมากประสบการณ์หลายคนในวงการภาพยนตร์มาร่วมทำงานกันในแต่ละโปรเจกต์ อีกทั้งยังมี ‘Jungka Studio’ เป็นทีมโปรดิวเซอร์หลักในการผลิตภาพยนตร์ ซึ่ง Jungka Studio มีผลงานผลิตภาพยนตร์ชื่อดังของไทยมากมายไม่ว่าจะเป็น ทีมรักนักหลอก (Analog Squad) หรือเด็กใหม่ The Series (แนนโน๊ะ)

[ 3 ภาพยนตร์ไทย ครบรสสยองขวัญ-คอมเมดี้-ดรามา ]

หนึ่งในสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ คือ ‘Karman Line’ มีแผนการลงทุนและการเปิดตัวภาพยนตร์ใหม่ยังไงบ้าง โดยในปี 2567 นี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ‘Karman Line’ จะส่งภาพยนตร์เข้าสู่ตลาดถึง 3 เรื่อง ได้แก่

• • • • • • ‘อนงค์ (My Boo)’ ภาพยนตร์รัก-สยองขวัญ กํากับโดย ‘เอสคมกฤษ ตรีวิมล’ (เจ้าของผลงานแฟนฉัน สายลับจับบ้านเล็ก และอื่นๆ อีกมากมาย) นําแสดงโดย ‘โบ-เมลดา สุศรี’ และ ‘จี๋ สุทธิรักษ์’ เตรียมพร้อมเข้าฉายในทุกโรงภาพยนตร์ 1 พ.ค. 2567 นี้ 
          • ‘ศึกค้างคาวกินกล้วย’ ภาพยนตร์พีเรียด-คอมมิดี้กํากับโดย ‘เจแปน-ภาณุพรรณ จันทนะวงศ์’ และ ‘กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์’ ผลิตโดย ‘รฤก สตูดิโอ’ นําแสดงโดย ‘เก้า-จิรายุ’ ‘พีช พชร จิราธิวัฒน์’ และ ‘โจริญ 4EVE’ คาดการณ์ว่า เตรียมพร้อมเข้าฉายในไตรมาส 3 ของปี 2567 
          •  ‘คุณชาย (The Cliche)’ ภาพยนตร์กึ่งโศกนาฏกรรมกึ่งสุขนาฏกรรม ดัดแปลงจากละครเวที ‘ชายกลาง เดอะมิวสิคัล’ กํากับโดย ‘ชัชวาล วิศวบํารุงชัย’ นําแสดงโดย ‘จ๋าย TaitosmitH’ ‘มายด์ 4EVE’ ‘ดู๋ สัญญา คุณากร’ และสมาชิกวง 4EVE คาดการณ์จะฉายภายในปี 2567 นี้

[ อีก 2 ปีข้างหน้า ลุยภาพยนตร์ไทย 4 เรื่องจากหลากผู้กำกับ ]

และในอีก 2 ปีข้างหน้าอย่างปี 2568-2569 ทาง ‘Karman Line’ ยังมีภาพยนตร์ในแผนแล้ว 4 เรื่อง จากหลากหลายผู้กำกับดัง ได้แก่ 

• • • • • •  God Skin กำกับโดย กอล์ฟ ปวีณ
          • The Stone กำกับโดย เป้ อารักษ์
          • Super Dad กำกับโดย รัฐพล จันทรรวงทอง
          •  เรวัช กำกับและผลิตโดย ยอร์ช ฤกษ์ชัย และรฤก สตูดิโอ 
          • พ่อฮะบ้านเรามี…! กำกับและผลิตโดย ยอร์ช ฤกษ์ชัย และรฤก สตูดิโอ 

โดยภาพยนตร์ทั้งหมดจะมีกำหนดการถ่ายและออกฉายภายในปี 2568-2569 

‘ชลากรณ์ ปัญญาโฉม’ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราเชื่อมั่นว่า Karman Line (คาร์แมนไลน์) จะเป็นบริษัทลงทุนและจัดจําหน่ายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยน้องใหม่ ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์สัญชาติไทยช่วยสร้างสีสันใหม่ให้กับอุตสาหกรรมได้อย่างแน่นอน”