Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

คิง เพาเวอร์ เผยรายงานการจากหน่วยงานด้านการบินของอังกฤษ ถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่เลสเตอร์เมื่อปี 61 

สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ (Air Accident Investigation Branch – AAIB) ตีพิมพ์รายงานอุบัติเหตุทางอากาศเกี่ยวกับอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่สนามฟุตบอลของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้โดยสารและนักบินรวม 5 รายเสียชีวิต หนึ่งในนั้นคือเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา

นอกจาก นายวิชัย ศรีวัฒนประภา แล้ว อุบัติเหตุครั้งนี้ยังทำให้บุคคลที่อยู่บนเครื่อง ได้แก่ กัปตันเอริก สวอฟเฟอร์, กัปตันอิสซาเบลลา โรซา เลโควิช, นายกวีพร พันธุ์แพ และนางสาวนุสรา สุขหน้าไม้ เสียชีวิตทั้งหมด

รายงานฉบับดังกล่าวระบุถึงความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ และความเคลือบแคลงในการผลิตโดย เลโอนาร์โด เอส.พี.เอ. (Leonardo S.p.A.) บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ สัญชาติอิตาลี 

สำหรับโศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้ รายงานชี้ว่า เกิดจากความล้มเหลวของระบบควบคุมใบพัดหางที่หลุดออกจากกัน ทำให้เฮลิคอปเตอร์หมุนคว้างจนเสียการควบคุม และตกลงมาสู่พื้นดินในที่สุด พร้อมกับยืนยันว่านักบินไม่มีส่วนในอุบัติเหตุครั้งนี้ และเป็นเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของนักบิน 

สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของอังกฤษยังตรวจพบสาเหตุของอุบัติเหตุว่า เกิดจากตลับลูกปืนที่ใบพัดหางแตก อันเนื่องมาจากการแตกร้าว การเสียดสี การเสื่อมสภาพของจาระบีก่อนกำหนด และความร้อนที่สูงเกินไปในตลับลูกปืน ทำให้ตลับลูกปืนแตก อีกทั้งยังไม่ส่งผลการทดสอบการบินที่สำคัญให้แก่บริษัทผู้ผลิตตลับลูกปืน เพื่อให้ยืนยันว่าตลับลูกปืนที่เลือกใช้เหมาะสมกับเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้

แถลงการณ์ของ คิง เพาเวอร์ ระบุว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ได้ซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มาเพราะเชื่อว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีความปลอดภัยและล้ำสมัยที่สุดในเวลานั้น  

อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกและรายงานอุบัติเหตุทางอากาศที่ตีพิมพ์ออกมานี้ ได้สร้างความเศร้าโศกอย่างยิ่งแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ขอบคุณสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ ที่ได้ทำการสอบสวนและจัดทำรายงานสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้โดยละเอียด

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา บุตรชายของวิชัย ศรีวัฒนประภา กล่าวว่า “ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้วที่ผมสูญเสียคุณพ่อไป รายงานฉบับนี้ เป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงความกังวลเกี่ยวกับเลโอนาร์โด คุณพ่อของผมเชื่อว่าได้ซื้อเฮลิคอปเตอร์ที่ปลอดภัยมาจากหนึ่งในผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก หากคุณพ่อของผมได้รับทราบสิ่งที่ระบุไว้ในรายงานฉบับนี้ก่อน ท่านคงไม่เอาชีวิตของท่านไปเสี่ยงกับเครื่องบินแบบนี้แน่นอน” 

“ความเศร้าโศกที่ผมและครอบครัวได้รับเป็นสิ่งที่เกินกว่าจะบรรยายได้ จนถึงทุกวันนี้ ครอบครัวของผมยังคงใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเศร้าโศกนับตั้งแต่วันที่คุณพ่อจากไป คุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผมและสมาชิกในครอบครัวทุกคนมาตลอด พวกเราคิดถึงท่านมาก”

ขณะนี้ ครอบครัวของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา กัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ และอิสซาเบลลา เลโควิช ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายชั้นนำที่ประเทศอังกฤษอย่าง Stewarts ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ โดยครอบครัวของกัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ และอิสซาเบลลา เลโควิช ได้ยื่นฟ้องคดีที่ศาลในประเทศอิตาลีแล้ว

สำหรับรายละเอียดของเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2018 เวลาประมาณ 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษ หลังจากที่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวจากบริเวณกึ่งกลางของสนามฟุตบอล คิง เพาเวอร์ สเตเดียม โดยมีผู้ติดตาม 2 ท่าน และ อิซาเบลลา เลโควิช นักบินส่วนตัวนั่งไปด้วย และมี เอริก สวาฟเฟอร์ นักบินเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวเป็นผู้ขับ

ไม่กี่นาทีถัดมา เฮลิคอปเตอร์ได้บินขึ้นเหนือบริเวณกึ่งกลางสนาม และเคลื่อนไปข้างหน้า เริ่มไต่ระดับและถอยออกจากสนามไปทางทิศเหนือ ไต่ระดับอยู่ที่ความสูงระหว่าง 600-700 ฟุตต่อนาที เมื่ออยู่ที่ความสูงราว 250 ฟุต นักบินเปลี่ยนเส้นทางเป็นขับไปข้างหน้าหัวเฮลิคอปเตอร์โน้มต่ำลง และเก็บระบบล้อเครื่องบิน 

จากนั้น นักบินได้บังคับเครื่องไปทางขวา และพบว่าแกนบังคับเครื่องเริ่มหมุนไปทางขวามากขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่ตอบสนองต่อคำสั่งนักบิน ขณะที่เฮลิคอปเตอร์บินอยูที่ความสูงประมาณ 430 ฟุต เครื่องเกิดเสียความสูง และหมุนตัวลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว ที่ความสูงประมาณ 75 ฟุตก่อนที่เครื่องบินจะตกกระแทกพื้น 

แม้ว่านักบินได้ทำการแก้ไขเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความรุนแรงของการตกกระแทกมากที่สุด แต่สุดท้ายเฮลิคอปเตอร์ก็ตกกระแทกพื้นคอนกรีตอย่างแรง และหยุดจอดในตำแหน่งเอียงซ้าย แรงกระแทกนั้นเสียหายเกินกว่าที่เฮลิคอปเตอร์จะทนทานได้ และความเสียหายนั้นลามไปถึงถังน้ำมันเฮลิคอปเตอร์ ส่งผลให้น้ำมันรั่วจำนวนมาก เกิดเป็นประกายไฟ และลุกเป็นเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว 

ผลการชันสูตรศพระบุว่า ผู้โดยสาร 4 คนที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวไม่ได้เสียชีวิตในทันทีหลังเครื่องตกกระแทกพื้น แต่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ของเฮลิคอปเตอร์

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า