Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เกียรตินาคินภัทร (KKP) ร่วม กสศ. ช่วยเด็กยากจนพิเศษ ส่งมอบเงิน 1 ล้านเข้าโครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพิ่มมื้อน้อง”

วันที่ 16 มิ.ย. ที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา( กสศ.) นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รับมอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท จากนายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เพื่อสมทบทุนเข้าโครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง”

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า การเลื่อนเปิดเทอมของสถานศึกษาจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิท-19 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนของเด็กแล้ว เมื่อ กสศ.ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากโรงเรียน ผู้อำนวยการ ครู และผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบกว่า 20,000 คน พบว่ายังมีปัญหาที่ต้องได้รับการช่วยเหลือเร่งด่วนอยู่หลายด้าน อาทิ ด้านค่าครองชีพ ด้านค่าใช้จ่ายซื้อของใช้ในครัวเรือน รวมถึงปัญหาด้านโภชนาการของเด็กที่มีฐานะยากจนเป็นพิเศษ เพราะสำหรับเด็กกลุ่มนี้ อาหารเช้าและอาหารกลางวันที่โรงเรียนถือเป็นมื้อสำคัญ ถ้าขาดอาหารก็จะทำให้พัฒนาการทางสมองและร่างกายกระทบไปด้วย

“กสศ. เล็งเห็นความสำคัญปัญหาขาดแคลนโภชนาการของเด็ก จึงจัดโครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง” ขึ้นโดยได้อนุมัติเงินส่วนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลประทบไปแล้วกว่า 753,957 คน แต่ด้วยกำลังของ กสศ. เพียงองค์กรเดียวไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือเรื่องโภชนาการช่วงปิดเทมอของเด็กได้ครบทั้ง 46 วัน ดังนั้นอีก16วันที่เหลือต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อนำไปมอบให้กับเด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาส วันนี้ กสศ. ขอขอบคุณ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่ร่วมมอบเงินสมทบทุนช่วยเหลือเติมเต็มมื้ออาหารให้กับเด็กๆ ซึ่งเงินบริจาคจำนวนนี้สามารถช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบได้ทันที 2 กลุ่ม คือ นักเรียนยากจนพิเศษที่มีภาวะทุพโภชนาการ และนักเรียนยากจนพิเศษชั้นอนุบาล เพื่อให้พวกเขาสามารถก้าวผ่านวิกฤตและมีโอกาสกลับมาเรียนอีกครั้งเมื่อเปิดเทอมใหม่มาถึงนี้” ประธานคณะกรรมการบริหาร กสศ. กล่าว

นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวว่า โครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง” ถือเป็นโครงการที่ดีมากในการแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการให้กับเด็กด้อยโอกาส ซึ่งข้อมูลบ่งชี้ว่าเด็กกลุ่มนี้มักมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานในช่วงวันแรกของการเปิดเทอมใหม่ เพราะร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ในช่วงปิดเทอมที่ไม่ได้รับประทานอาหารที่โรงเรียน ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากความสมบูรณ์ของสุขภาพจะส่งผลต่อเนื่องถึงความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก การที่หน่วยงานหลักอย่าง กสศ. และภาคเอกชน เล็งเห็นความสำคัญและเข้ามาแก้ปัญหานี้ ย่อมถือเป็นองค์ประกอบของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอีกทางหนึ่ง

“เราพูดกันเสมอว่าการแก้ไขปัญหาของประเทศที่ดีที่สุด คือต้องพัฒนาการศึกษา ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของเด็กและเยาวชน จึงจัดเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ซึ่งหากแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ก็จะมีส่วนเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างมหาศาล ในขณะที่องค์กรธุรกิจอย่างกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) มีภารกิจหลักในการพัฒนาธุรกิจและแสวงหาผลกำไรมาดูแลผู้มีส่วนได้เสีย แต่เนื่องจากในมุมมองของความยั่งยืน สังคมก็ถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญอย่างยิ่ง นอกเหนือจากลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงาน เราจึงยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมของ กสศ. ในภารกิจดันกลุ่มเด็กที่ได้รับโอกาสน้อยให้สามารถขึ้นมารับการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการคืนประโยชน์ให้สังคม”

สำหรับความคืบหน้าของ “โครงการสู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง” นั้น ยอดเงินบริจาคสมทบเพิ่มเติมมื้ออาหารอีก 15 วัน จากภาคประชาชน ศิลปินดารา และภาคธุรกิจเอกชนทุกช่องทาง ณ วันที่ 16 มิ.ย. 63 คิดเป็นจำนวน 14,639,762 บาท และวันนี้เงินบริจาคได้ทยอยโอนให้เด็กนักเรียนเป็นรอบที่สองแล้ว โดยคณะอนุกรรมการบริหารจัดการเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้กองทุนซึ่งมี ศาสตราจารย์ ไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ เป็นประธาน เห็นชอบแนวทางการจัดสรรเงินบริจาคเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปถึงมือเด็กนักเรียนได้อย่างทันสถานการณ์ทันที

โดยแผนการจัดสรรเงินบริจาค จะมุ่งเติมเต็มให้กับกลุ่มเป้าหมายนักเรียนยากจนพิเศษที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน ได้แก่ นักเรียนยากจนพิเศษที่มีภาวะทุพโภชนาการ (น้ำหนักและส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์) ทั่วประเทศ และให้กับเด็กเล็ก นักเรียนยากจนพิเศษระดับชั้นอนุบาล1-3 ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ สามารถร่วมบริจาคช่วยเหลือเด็กยากจน ไปกับโครงการนี้ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย เลขที่ 172-0-30021-6 ชื่อบัญชี “กสศ.-มาตรา 6(6) – เงินบริจาค” สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.eef.or.th/donate-covid/ หรือสอบถามที่หมายเลข 02-079-5475

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า