“ละครเกาหลี” พลังแฝงสร้างประเทศ ยกสังคมให้สูงขึ้น

นอกจากให้ความบันเทิง ละครบางประเทศ เลือกที่จะเน้นแต่คำว่า ‘สะท้อนสังคม’ ขณะที่วัฒนธรรมละครเกาหลีใต้กลับไปไกลกว่านั้นมาก  ไม่ใช่แค่สะท้อนหรือตีแผ่ แต่มันกำลัง ‘ชี้นำสังคม’ ให้ไปในทางที่ดีขึ้นเลยล่ะ

กลยุทธ์ ‘Soft Power’ ของเกาหลีนั้น ไม่เพียงแค่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทำให้คนต่างชาติรู้จักตัวเองมากขึ้นเท่านั้น แต่ Soft Power จากละคร หรือ ภาพยนตร์ ยังมีพลังที่จะขับเคลื่อนชีวิตความเป็นอยู่ และกฎหมายในประเทศตัวเองด้วย 

เราจะยกตัวอย่าง 6 เคสของเกาหลีใต้ ที่ทำให้เห็นว่า Soft Power จากละคร มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้จริง

D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ

ซีรีส์สายดาร์กที่เปิดโปงด้านมืดของชีวิตทหารในกองทัพ 

ทุกคนอาจจะทราบอยู่แล้วว่า ผู้ชายเกาหลีทุกคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไปต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร หรือที่เคยได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ‘เข้ากรม’ 

ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าถึง หน่วย D.P. หน่วยที่คอยตามตัวเหล่าทหารที่แอบหนีออกไปจากกองทัพ  มีการเผยให้เห็นถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ ‘ระบบทหาร’ ที่สามารถทำให้คนที่เป็นเหยื่อกลายเป็นอาชญากรได้ 

ซีรีส์เรื่องนี้มีความยาวเพียงแค่ 6 ตอนจบ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นมันไปไกลได้มากกว่า ข่าวจากหน่วยงานสืบสวนสำนักงานใหญ่ ของกระทรวงกลาโหม และกองทัพบกเกาหลี รายงานว่าจะดำเนินการยกเลิกตำแหน่งทหาร D.P. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2022 เป็นต้นไป

แม้ทางกระทรวงกลาโหมจะปฏิเสธว่า การตัดสินใจนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับซีรีส์  เพราะมีมาตั้งแต่ปี 2018 เพียงแต่ขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายเพิ่งจะผ่านและมีผลบังคับใช้ 

ถึงจะเป็นอย่างนั้น ซีรีส์เรื่องนี้ก็ทำให้สังคมเกาหลีกลับมาถกเถียงกันในประเด็นนี้อีกครั้ง อย่างที่ตัวละครเอกในเรื่องตั้งคำถามไว้ว่า “หากไม่ต้องเข้ามาเป็นทหาร ก็ไม่ต้องหนีทหารไม่ใช่หรือ…”

Jealousy Incarnate

เรื่องรักๆ ของวงการผู้ประกาศ เมื่อนักข่าวพยากรณ์อากาศสาวแอบชอบผู้ประกาศหนุ่มคนดังของสถานีมานานหลายปี จนเกิดรักวุ่นๆ อลหม่านไปทั้งสถานี

ดูผ่านๆ ก็เหมือนซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ทั่วไป มีพระเอก-นางเอก มีพระรอง มีฉากกุ๊กกิ๊กให้ได้จิกหมอน แต่เรื่องราวทั้งหมดกลับดำเนินผ่านตัวละครพระเอกที่ป่วยเป็น ‘มะเร็งเต้านม’ 

ซีรีส์เรื่องนี้กำลังบอกให้เรารู้ว่าผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นเดียวกับผู้หญิง และการดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเองเป็นสิ่งที่เราควรทำอยู่เสมอ

หนึ่งเกร็ดความรู้เล็กๆ ที่ซีรีส์ได้ฝากไว้ กลับมีส่วนช่วยให้หนึ่งชีวิตรอดพ้นจากมะเร็งเต้านม  มีผู้ชมรายหนึ่งเคยออกมาขอบคุณซีรีส์เรื่องนี้ที่ทำให้เขาสังเกตอาการมะเร็งเต้านมได้จากสิ่งที่ตัวละครในเรื่องเคยบอก จึงรีบไปตรวจและรักษาได้ทันเวลา

Record of Youth

อีกหนึ่งซีรีส์ที่แฝงความรู้ด้านสุขภาพจนกลายเป็นที่ฮือฮาในสังคม

Record of Youth หรือชื่อภาษาไทยว่า เส้นทางดาว เป็นซีรีส์วัยรุ่นแบบฉบับของคนมีฝันและลงมือทำแม้ครอบครัวจะไม่สนับสนุน เรื่องราวถ่ายทอดผ่านตัวละครที่เหมือนจะกำลังตะโกนบอกวัยรุ่นทั้งโลกว่า อย่ายอมแพ้ง่ายๆ เพราะทุกคนย่อมมีเส้นทางประสบความสำเร็จเป็นของตัวเอง  

ซีรีส์เรื่องนี้มีฉากหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อตัวละครเอกอย่างพัคโบกอมกับเพื่อนอีกสองคนจูงมือกันเข้าไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก พร้อมแฝงความรู้ไว้ด้วยว่า แม้ผู้ชายจะไม่มีมดลูก ก็สามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน เชื้อ HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่ง 99% เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก ที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้

ประเด็นการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ถูกแทรกไว้ในซีรีส์ได้อย่างลงตัวและน่ารัก โดยเรื่องเกิดจากเพื่อนของ ซาฮเยจุน (รับบทโดยพัคโบกอม) ต้องการขยับความสัมพันธ์กับแฟนสาวให้ลึกซึ้งขึ้น แต่แฟนสาวบอกให้ฝ่ายชายต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ได้แสตมป์ครบจำนวน 3 ดวงก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน

Hospital Playlist 2

ซีรีส์ฟีลกู้ดแบบฉบับเพื่อนหมอ 5 คน ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นซีซั่นที่ 2 แล้วแต่ผู้ชมก็ยังคงรอคอยและให้การตอบรับที่ดีมาก

เรื่องราวของซีรีส์ถ่ายทอดมิตรภาพของเพื่อนหมอผสมผสานกับการเล่นดนตรี ได้อย่างลงตัวเช่นเดิมเหมือนซีซั่นแรก มีความตลกโบ๊ะบ๊ะและเพลงเพราะต่างๆ สอดแทรกให้ได้ฮีลใจคนดู

ถึงแม้ตัวซีรีส์จะไม่ได้ดำเนินเรื่องอย่างหวือหวาหรือดราม่าเข้มข้น แต่กลับก่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในสังคมเกาหลีใต้ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะของเกาหลีใต้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ซีรีส์เรื่อง Hospital Playlist 2 ทำให้มีผู้มาลงทะเบียนบริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน 

ตัวซีรีส์แสดงให้เห็นว่าการบริจาคอวัยวะนั้นสามารถช่วยเหลือคนป่วยคนอื่นได้มากแค่ไหน แน่นอนไม่เพียงแต่ความหวังของด้านผู้รอรับบริจาค ตัวซีรีส์ยังกล่าวถึงความรู้สึกที่กล้าหาญและยากที่จะตัดสินใจในช่วงเวลาแห่งการสูญเสียของครอบครัวผู้บริจาคอีกด้วย

นอกจากเรื่องการบริจาคอวัยวะแล้ว Hospital Playlist 2 ยังสอดแทรกให้เห็นถึงความสำคัญของแผนกฉุกเฉินที่หลายคนมักมองข้ามทั้งที่ทำงานหนักกว่าใคร ซึ่งมุมมองความคิดที่ตัวละครในเรื่องได้ฝากไว้คือ “หากเราทำหน้าที่ตัวเองอย่างดีที่สุด ใครจะได้ความดีความชอบไปมันสำคัญตรงไหน ให้เราภูมิใจในตัวเองได้แล้ว…”

Start-Up

ซีรีส์สุดฮิตเมื่อปลายปี 2563 ที่นอกจากจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ Second Lead Syndrome เชียร์พระรองกันทั่วบ้านทั่วเมือง ซีรีส์ยังพาไปทำความรู้จักกับวงการ Start-Up และ AI ของเกาหลีใต้อีกด้วย

เรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครหลักที่มีทั้ง ผู้ที่มีพรสวรรค์ มีความสามารถ รวมถึงตัวละครที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจและไม่ยอมแพ้ ซีรีส์กำลังชี้ให้เราเห็นถึงพลังสำคัญของ ‘การสนับสนุน’ ที่สามารถนำพาธุรกิจขนาดเล็ก ริเริ่มโดยคนธรรมดา ให้สามารถไปไกลจนถึงระดับยูนิคอร์น

อย่างที่หลายคนทราบ เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่มีการผลักดันธุรกิจ Start-Up อย่างจริงจังประเทศหนึ่ง มีทั้งเงินทุนสนับสนุน อัดฉีดจากรัฐบาล และนโยบายต่างๆ ที่เอื้อให้ธุรกิจ Start-Up เติบโต 

มีหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของรัฐ ที่ทำหน้าที่เหมือน ‘กระบะทราย’ โอบอุ้มและผลักดันเหล่า Start-Up มือใหม่ คล้ายๆ โครงการแซนด์บอกซ์ที่เราเห็นในซีรีส์

ปัจจุบันเกาหลีใต้มียูนิคอร์นแล้วถึง 12 แห่ง ซึ่งสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก การที่ซีรีส์เรื่องนี้ออกมาก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเป็นเพียงซีรีส์ชวนฝัน แต่เกาหลีใต้กำลังประกาศว่า ประเทศเขาพร้อมที่จะผลักดันวงการ Start-Up และนวัตกรรมต่างๆ แล้วอย่างเต็มรูปแบบ

Silenced

ปิดท้ายไปด้วยฟากฝั่งภาพยนตร์ ‘Silenced’ ฉายเมื่อปี 2011 นำแสดงโดยสามีแห่งชาติอย่าง ‘กงยู’ เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงในเกาหลี เกี่ยวกับประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศและความรุนแรงทางเพศในโรงเรียนสอนคนพิการ ที่คนผิดไม่เคยถูกนำมาลงโทษแม้จะเต็มไปด้วยหลักฐาน ทั้งตำรวจและสื่อต่างก็เพิกเฉย 

ภาพยนตร์ถ่ายทอดความหดหู่และสะเทือนความรู้สึกคนดู ได้อย่างดีเยี่ยมตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ในตอนจบของเรื่องกระบวนการยุติธรรมจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ในความเป็นจริงภาพยนตร์เรื่องนี้ได้พลิกสังคมเกาหลีใต้ไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

ประชาชนเกาหลีใต้ต่างลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องให้รื้อคดีนี้กลับมาพิจารณาใหม่ มีการผลักดันจนรัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมาย ‘Dogani Bill’ (โดกานี :: ตั้งตามชื่อภาษาเกาหลีของ Silenced) กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิคนพิการ รวมถึงเพิ่มบทลงโทษให้หนักขึ้นสำหรับผู้กระทำผิด นี่คือสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฝากไว้กับสังคม

ปัจจุบันภาพยนตร์ของเกาหลีใต้ถูกพัฒนาไปมากจนเทียบเท่าฝั่งฮอลลีวู้ด ทั้งตัวบท นักแสดง รวมถึงโปรดักชั่น การันตีด้วยออสการ์มาแล้วหลายรางวัล ด้านซีรีส์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไม่ใช่แค่ในเอเชีย แต่ก้าวไปสู่ในระดับโลก 

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า ‘Soft Power’ มันทำงานไปไกลได้มากกว่าที่คุณคิด นอกจากสร้างคลื่นกระแสใหม่ๆทางวัฒนธรรม มันสามารถเปลี่ยนสังคมที่คุณอยู่ให้มันดีขึ้นได้ และสุดท้ายมันก็จะส่งผลให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน 

บทความโดย  เสาวภา สังข์บูรณ์

อ้างอิง

• sarakadeelite.com
• nidnok.com
• korseries.com
• okmagazine-thai.com
• techsauce.co
• adaymagazine.com
• thematter.co
• matichon.co.th