ลงพื้นที่ตรวจแล้ว กรณีกล่าวหาครูอมเงินอาหารเด็กไปผ่อนค่างวดรถ

จากกรณีที่นางมณีวรรณ หรือครูแอ๊ด อายุ 59 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ครูฝ่ายการเงินของโรงเรียนหักเงินค่าอาหารกลางวันเด็กที่ได้รับการอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปจ่ายค่างวดรถเดือนละ 4,800 บาท และตัวเองก็ถูกกดดันให้ลาออกเพราะรู้เรื่องนี้

วันที่ 13 ก.ย. นายพิพัฒน์ พุ่มยี่สุ่น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดปัญหาด้วยตนเองเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนจะรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าทางโรงเรียนมีนักเรียนอยู่จำนวน 52 คน ได้รับเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันจากทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหัวละ 20 บาท คิดเป็นยอดเงินที่จะได้รับอุดหนุนจากทาง อบต.วันละ 1,040 บาท

ด้วยงบประมาณที่มีจำกัดและครูก็มีน้อยทางโรงเรียนจึงไม่ได้จ้างแม่ครัวมาประกอบอาหาร แต่ใช้วิธีมอบหมายให้ครูหมุนเวียนกันดูแลเรื่องอาหารกลางวันเด็กเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาสุ่มตรวจเรื่องอาหารกลางวันเป็นระยะ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน โดยจะมีการตรวจสอบระบบบัญชีเบิกจ่าย รายการจัดซื้ออาหารกลางวันทั้งปัจจุบันและย้อนหลัง ว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่

สำหรับเรื่องคุณภาพและปริมาณอาหารก็จะมีการสุ่มตรวจโดยจะไม่แจ้งล่วงหน้าซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควร ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของเด็กนักเรียนเป็นสำคัญตามนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำตามที่ร้องเรียนจริงก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการขั้นตอน

ก่อนหน้านี้ นางมณีวรรณหรือครูแอ๊ด ระบุว่า ช่วงหลังตนได้ขอเบิกเงินค่าอาหารกลางวันกับครูการเงินแต่ได้เงินมาไม่ครบหายไป 4,800 บาท จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่าเงินหายไปจริงหรือไม่ หากผลสอบออกมาเป็นอย่างไรตนก็พร้อมยอมรับ ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาจะกล่าวหาใคร แต่ในเมื่อตนเองถูกปรักปรำก่อนว่าช่วงที่ตนเองดูแลเรื่องอาหารกลางวันเด็ก กินเงินอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน จึงจำเป็นต้องออกมาเปิดเผย

ด้านครูชำนาญการพิเศษที่รับผิดชอบเรื่องการเงินโรงเรียน ยืนยันว่า ตนเองได้เบิกจ่ายงบอาหารกลางอย่างถูกต้องมีเอกสารหลักฐานชัดเจน พร้อมให้ตรวจสอบทั้งปัจจุบันและย้อนหลัง ทั้งยืนยันว่าไม่เคยหักเงินค่าอาหารกลางวันเด็กไปจ่ายค่างวดรถตามที่ถูกกล่าวหา และไม่ได้กดดันให้ครูแอ๊ด ลาออก แต่ยอมรับว่าอาจจะมีความไม่เข้าใจกันบ้างตามปกติคนที่ทำงานร่วมกัน ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายขนาดนี้ ก็อยากขอความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วยเพราะกรณีที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองและโรงเรียนเสียหาย ส่วนเรื่องคุณภาพและปริมาณอาหารกลางวันเด็กพร้อมให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานมาตรวจสอบได้หรือจะสุ่มมาก็ได้ มั่นใจในความบริสุทธิ์

นายรังสรรค์ มโนปราณีต ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นก็รู้สึกไม่สบายใจแต่จากการสอบถามก็ทราบว่าเป็นเรื่องที่สื่อสารกันไม่เข้าใจระหว่างครูในโรงเรียนเอง ส่วนเรื่องอาหารกลางวันตนเองก็ตรวจสอบเป็นประจำยืนยันว่ามีคุณภาพและปริมาณเต็มอิ่ม แต่ละวันจะมีข้าวและกับข้าว 1 อย่าง นอกจากนั้นยังมีขนมหวาน หรือผลไม้ตามฤดูกาลในทุกมื้อด้วย จากปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะหาแนวทางแก้ไขเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนและเด็กนักเรียน รวมถึงเรื่องอาหารกลางวันของเด็กด้วย ส่วนเรื่องการตรวจสอบก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ