SHARE

คัดลอกแล้ว

ถ้าวันนี้เราวางแผนว่าจะซื้อรถยนต์ EV สักคัน หนึ่งในประเด็นที่คนไทยกังวลมากที่สุดคือสถานีชาร์จรถ EV และช่องจอดรถสำหรับชาร์จ 

ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีทั้งภาครัฐและบริษัทเอกชนลงมาแข่งขันในตลาดนี้มากขึ้น แต่ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่าทุกวันนี้สถานีชาร์จรถ EV เพียงพอแล้วหรือยัง

TODAY Bizview พูดคุยกับ ‘วิลาศ เฉลยสัตย์’ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ถึงเรื่องการพัฒนาสถานีชาร์จรถ EV และการวางระบบไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้รถ EV ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต 

MEA เตรียมเพิ่มหัวชาร์จเป็น 600 หัวในอีก 5 ปี

วิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ให้สัมภาษณ์กับ TODAY Bizview ว่าการไฟฟ้านครหลวงสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าใน 2 ด้าน คือระบบไฟฟ้าสำหรับรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบาย ‘ZEV 30@30’ หรือนโยบายตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2030 และเพิ่มสถานีชาร์จให้มีความพร้อมมากขึ้น

การไฟฟ้านครหลวงมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ‘MEA EV Charging Station’ จำนวน 138 หัวชาร์จ ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งตามสถานที่ราชการ มหาวิทยาลัย ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรีและสมุทรปราการ โดยมีแผนที่จะติดตั้งหัวชาร์จเพิ่มเติมในอนาคต

“เรามีแผนในการที่จะติดตั้งหัวชาร์จสำหรับรถยนต์ EV ตอนนี้มีประมาณเกือบ 140 หัวนะครับ แล้วเราจะทำปีละ 100 หัวไปอีก 5 ปี เพราะฉะนั้น ครบแผนจะมีหัวชาร์จประมาณ 600 กว่าหัว นี่คือภาพรวมใหญ่ๆ”

ตอนนี้สถานีชาร์จ ‘MEA EV Charging Station’ มีหัวชาร์จ 2 รูปแบบคือหัวชาร์จกระแสตรง (DC charge) ที่ 44kW และหัวชาร์จแบบ 22kW ซึ่งการไฟฟ้านครหลวงเน้นพัฒนาสถานีชาร์จขนาด 22kW ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในเมืองที่นิยมจอดรถชาร์จแบตเป็นเวลานาน

ระบบไฟฟ้าต้องพร้อมรองรับปริมาณรถ EV ที่มากขึ้น

เมื่อปริมาณการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น การขยายระบบไฟฟ้าเพื่อให้รองรับกับปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 

ปัจจุบันนี้มีผู้ใช้รถ EV ประมาณ 5,000 คันแล้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงมองว่าจะมีผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 1,000,000 คันในปี 2030 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงแบบก้าวกระโดด

โดยทางการไฟฟ้านครหลวงจะใช้ระบบ ‘Smart Metro Grid’ หรือระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับเมืองมหานคร เข้ามาช่วยในการจัดการระบบ ระบบนี้สามารถประเมินความสามารถ ในการรองรับการชาร์จรถ EV ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ด้วยการขยายระบบและทำระบบแบบ Smart system ที่เรียกว่า ‘Transformal Load Monitoring’ เปลี่ยนจากหัวชาร์จธรรมดาให้กลายเป็น Smart charger ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าสื่อสารกับสถานีชาร์จได้ ระบบนี้จะมีการประเมินกำลังไฟฟ้า ว่าเวลาชาร์จสูง ๆ จะมีการลดกำลังชาร์จลง เพื่อจะได้ไม่ต้องเพิ่มระบบไฟฟ้า 

เตรียมรวบแอป 3 การไฟฟ้าไว้ในแอปเดียว

นอกจากการไฟฟ้านครหลวงแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ‘PEA VOLTA’ สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2563 มีสถานีชาร์จ 73 แห่งใน 46 จังหวัด 

ส่วนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT) ได้พัฒนา ‘EleX by EGAT’ มีสถานีชาร์จ พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้ว 104 สถานีทั่วประเทศ 

ในเดือนที่ผ่านมา ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเพิ่งเปลี่ยนลานจอดรถของอาคารสำนักงานใหญ่กฟฝ. ชั้น 2 ให้กลายเป็น ‘EV Charging Floor’ ลานจอดรถที่มีหัวชาร์จมากที่สุดในประเทศไทย มีหัวชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 7.4 kW 110 ช่องจอด (รวมช่องจอดรอชาร์จ) และมีจำนวน 66 หัวชาร์จ 

แต่ถ้าผู้ใช้งานอยากใช้งานสถานีชาร์จของหน่วยงานไหน ก็ยังจำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของหน่วยงานนั้น ๆ แยกกัน 

ในอนาคต การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะรวมแอปพลิเคชันของ 3 การไฟฟ้าเป็นแอปเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้นด้วย

ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงย้ำว่า ตอนนี้ภาครัฐมีการส่งเสริมเรื่องสถานีชาร์จอย่างเต็มที่ 

“ผมอยากจะฝากเรื่องความมั่นใจของพี่น้องประชาชนที่อยากจะใช้รถยนต์ไฟฟ้านะครับ ผมว่าไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องของสถานีชาร์จแล้ว เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้านครหลวงเอง แล้วก็หน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภาครัฐ ทั้งเอกชนก็มีการส่งเสริมกันอย่างเต็มที่ มีสถานีชาร์จจะเกิดขึ้นทุก ๆ วัน เพราะฉะนั้น ผมว่าไม่ต้องลังเลแล้วที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้า สามารถที่จะมั่นใจกับระบบการชาร์จได้แล้วตอนนี้”

อ้างอิง 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า