เมแกน-แฮรี่: พลังการตลาดในวันนี้มีมูลค่ามหาศาล พร้อมพึ่งพิงตนเอง

ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของราชวงศ์อังกฤษ เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ จะสละฐานันดรศักดิ์ที่แสดงถึงความเป็นพระราชวงศ์ชั้นสูง และจะไม่เป็นผู้แทนพระองค์ของราชินีออกปฏิบัติพระกรณียกิจที่เป็นทางการอีกต่อไปสำนักพระราชวังอังกฤษเผยว่า แฮรี่ และ เมแกน จะไม่ใช้คำนำหน้าว่า His Royal Highness (HRH) ซึ่งแสดงถึงฐานันดรระดับสูง และจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากสาธารณะ หลังจากสมัครใจออกจากตำแหน่งสูงในราชวงศ์ อีกทั้งจะมีการย้ายไปพำนักอยู่ที่แคนาดาด้วย

พลังการตลาดของ เมแกน มาร์เคิล

Adweek เล่าถึงวันที่ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ปรากฎกายในพิธีหมั้นกับเจ้าชายแฮรี่ กางเกงยีนส์ ไฮเอท เดนิม (Hiut Denim) ที่เมแกนสวม กลายเป็นจุดสนใจของวงการแฟชั่น และทำให้แบรนด์เล็กๆ จากเวลส์ โด่งดังในชั่วข้ามคืน

การเกงยีนส์ตัวละ 7,000 บาท (243 ดอลลาร์) ที่เมแกมสวมในวันนั้น ทำให้ทั้งวงการแฟชั่นต้องเสาะหา ชื่อ ไฮเอท เดนิม ติดตลาด มีคนต่อคิวซื้อยาวเหยียดสามเดือนติด บริษัทสามารถสร้างโรงงานผลิต และจ้างพนักงาน ตั้งตัวได้จากการปรากฎกายเพียงครั้งเดียวของเธอ

เดวิด ไฮเอียท (David Hieatt) เจ้าของ ไฮเอท เดนิม เล่าให้กับนิตยสาร People ฟังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัท ที่ครั้งหนึ่งเคยปิดตัวไปในปี 2002 และกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง

กระเป๋าถือแสครทเบอร์รี่ (Strathberry)  ก็ได้รับอานิสงส์จากพลังของเมแกน แสครทเบอร์รี่ขายหมดใน 11 นาที หลังจากที่มีภาพเมแกนถือกระเป๋าที่ผลิตในเมืองเอดินเบอระเจ้านี้

จากหลายๆ หลักฐาน สะท้อนว่าในช่วงเวลาที่เธอมีฐานันดรศักดิ์ชั้นสูง เมแกนไม่มีสิทธิ์ทำหน้าที่เป็น แบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ ให้กับใคร แต่พลังทางการตลาดของเธอนั้น ก็อยู่ในระดับ “จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด”

สเต็ปแรกของการพึ่งพิงตนเอง

ทั้งเมแกนและแฮรี่ ดูมีความพร้อมเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงตนเอง (Financially Independent) แล้ว แบรนด์ระดับโลกหลายแห่ง ก็พร้อมทำงานกับทั้งสอง โอปร่าห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey) อยากทำรายการเกี่ยวกับสุขภาพจิตกับแฮรี่ ออกอากาศทางแอปเปิ้ลพลัส (Apple+) ด้านเมแกนก็มีข่าวตกลงกับดิสนี่ย์ ว่าจะไปลงเสียงพากย์เป็นตัวละครหลักในภาพยนตร์ที่กำลังจะออกฉาย

ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดูโปรไฟล์ที่ทั้งสองคนมี ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ชมที่ติดตามพิธีเสกสมรสกว่าสองพันล้านคนในปี 2018 และผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 10 ล้านคน

Online Influencer คือหนึ่งในทางเลือก

ก่อนหน้านี้เงินรายได้ของทั้งคู่กว่า 95% มาจากเจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ พระบิดา ที่ทรงออกค่าใช้จ่ายในการออกไปปฏิบัติพระกรณียกิจที่เป็นทางการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวบางอย่างด้วย โดยความพยายามหารายได้เองและการตัดสินใจสละพระยศชั้นสูงของทั้งคู่ ถูกสื่อเรียกว่า Megxit

เชน บาร์เกอร์ ที่ปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลจากลอสแองเจลิสให้สัมภาษณ์กับ The Atlantic  “ด้วยรูปสมบัติที่พวกเขามี ทั้งสองสามารถทำเงินได้อย่างแน่นอน” ปัจจุบันมีผู้ติดตามของพวกเขาในอินสตาแกรมอยู่ที่ 10.2 ล้านคน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากถ้าพวกเขาจะหารายได้จากชื่อเสียงที่มี

ปัจจุบันเหล่าคนดังจำนวนไม่น้อย เช่น ดเวย์น จอห์นสัน (เดอะร็อค) หรือเซเลน่า โกเมซ ที่สามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาลจากการโพสต์ในอินสตาแกรมเพียงโพสต์เดียว แฮร์รี่และเมแกนอาจจะหันมาสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมแฟชั่นในบรู๊กลินก็ได้ อีกทั้งพวกเขาทั้งสองยังมีความสามารถในการแสดงได้อีกด้วย โดยเฉพาะเมแกนที่เคยเป็นนักแสดงอาชีพมาก่อน โดยสมัยที่เธอแสดงในละครซีรีส์เรื่อง Suits เธอได้ค่าจ้าง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.5 ล้านบาทต่อการแสดง 1 ตอน

เมแกนกับประสบการณ์ด้านการตลาด

อาจพูดได้ว่าไม่มีสมาชิกในราชวงศ์คนใดที่พร้อมรับมือกับบทบาททางการตลาดได้เท่ากับเมแกน โดยก่อนที่เธอจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์ เธอก็ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงพอสมควร โดยบัญชีอินสตาแกรมของเธอมีผู้ติดตามมากว่า 3 ล้านคน ก่อนที่เธอจะลบบัญชีดังกล่าวเมื่อปี 2018 และหันมาทุ่มเทกับ Goop-esque ที่ดูเว็บไซต์ The Tig ที่มีคอนเทนต์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ เธอเป็นที่มีความเข้าใจในธุรกิจ

ด้าน Reesa Lake รองประธานบริหาร influencer agency Digital Brand Architects ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ให้กับเหล่าคนดังเผยว่า “ก่อนที่เมแกนจะเป็นสมาชิกราชวงศ์ เธอก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ซึ่งการเข้าร่วมเป็นหนึ่งของสมาชิกราชวงศ์ก็ยิ่งช่วยให้ชื่อเสียงที่เธอมีเพิ่มมากขึ้นไปอีก” ดังนั้นชีวิตช่วงก่อนแต่งงานของเมแกน เธอจึงใช้ความรู้ ความเข้าใจในการตลาดมาพัฒนาการตลาดของตัวเธอเอง

การสร้างมูลค่าแบรนด์ในฐานะสมาชิกราชวงศ์

แต่เมื่อเข้าสู่ฐานะการเป็นสมาชิกราชวงศ์เมแกนและเฮนรี่ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะใช้ชื่อเสียงของพวกเขาในการทำการตลาดเท่าไหร่นัก บทบาทและงานต่างๆ ที่พวกเขาได้รับอยู่ภายใต้กรอบและคำแนะนำบางอย่างอยู่เสมอ เมื่อพิจารณาจากโปรไฟล์ระดับสูงพวกเขามีแนวโน้มที่จะเลือกแบรนด์ให้ทำงานด้วย ด้านเจมี่ เรียดดอน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแพลตฟอร์มการตลาดของบุคคลที่มีชื่อเสียง กล่าวว่า “แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์, การเดินทาง, ความสวยความงาม, แฟชั่น หรือครอบครัว เป็นธุรกิจที่น่าสนใจ แต่แบรนด์ที่พวกเขาเลือกร่วมงานด้วยส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่เดียวข้องกับงานด้านการกุศล”

หากพวกเขาร่วมงานกับแบรนด์ใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาอยู่ในฐานะสมาชิกราชวงศ์ ทั้งคู่จะเลือกร่วมงานกับแบรนด์ที่ไว้ใจได้ เช่น เมื่อครั้งที่เมแกนดำรงค์ตำแหน่งดัชเชสแห่งซัสเซกส์ เธอได้เปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสตรีเพื่อการกุศล Smart Works โดยโครงการคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสตรีเพื่อการกุศล Smart Works เป็นแบรนด์ที่เมแกนทำร่วมกับ มิชา นูนู เพื่อนของเธอ ซึ่งเมแกนเผยถึงวัตถุประสงค์ในการเปิดตัวเสื้อผ้าสตรีเพื่อการกุศล Smart Works ว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้หญิงในสหราชอาณาจักรมีงานทำ

ชื่อเสียงคือต้นทุนที่สำคัญในการสร้างธุรกิจ

แต่บทบาทใหม่ของเมแกนและเฮนรี่ หลังการสละฐานันดรศักดิ์ คือการพึ่งพิงตนเอง ซึ่งการที่พวกเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ถือเป็นต้นทุนที่ดีในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง เจมี่ เรียดดอน คาดว่า พวกเขาสามารถสร้างรายได้มากกว่าแสนเหรียญฯ จากการโพสต์รูปและข้อความในอินสตาแกรมเพียงโพสต์เดียว

Sussexroyal คือบัญชีอินสตาแกรมที่ทั้งเฮนรี่และเมแกน ได้ลงรูปภาพที่ทั้งสองทำกิจกรรมสาธารณะร่วมกัน อีกทั้ง Sussex Royal ยังเป็นแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจสินค้าพิมพ์ลาย, เสื้อผ้า, อีกทั้งยังมีการรณรงค์ โครงการระดมเงินทุนเพื่อการกุศล ไปจนถึงงานบริการด้านการศึกษา และบริการด้านสวัสดิการทางสังคมอีกด้วย

แต่แม้ว่าพวกเขาจะสามารถสร้างรายได้จำนวนมากจากอินสตาแกรม แต่ผู้เชียวชาญก็มองว่า ทั้งสองอาจะเลือกร่วมงานกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งในลักษณะที่เป็นสัญญาระยะยาว และมีผลตอบแทนในหลักล้านเหรียญเลยทีเดียว ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า พวกเขามีศักยภาพในการสร้างรายได้มหาศาลอย่างแน่นอน เชน บาร์เกอร์เผยว่า “พวกเขาทั้งคู่จะมีความรับผิดชอบที่สูงขึ้น สมาชิกราชวงศ์จะคอยเฝ้าดูอยู่เสมอ ไม่ว่าแฮร์รี่และเมแกนจะทำอะไร”

เชน บาร์เกอร์ชี้ว่า แน่นอนว่าเมื่อเป็นคนที่มีชื่อเสียง คุณและครอบครัวจะไม่หายไปจากความสนใจของผู้คน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ต่อให้เฮนรี่และเมแกนจะปรารถนาที่จะใช้ชีวิตที่เงียบสงบ  ก็คงจะเงียบได้ไม่มากนัก พวกเขาคงจะเดินหน้าทำกิจกรรมการกุศล และเมื่อทั้งคู่มีภาพลักษณ์ที่ดีและน่าชื่นชมในโลกโซเชียลมีเดีย งานต่างๆ ก็จะเข้ามาหาทั้งคู่อย่างแน่นอน