กสทช. แจงไม่ได้เพิกเฉยคุ้มครองผู้บริโภค หลังควบรวมทรู-ดีแทค ค่าบริการลดเฉลี่ย 12% ไม่ได้ลดสัญญาณเน็ต

กสทช. ตั้งโต๊ะแถลงยันไม่ได้เพิกเฉยคุ้มครองผู้บริโภค หลังควบรวมธุรกิจทรู-ดีแทค แจงค่าบริการลดเฉลี่ยร้อยละ 12 ตามเงื่อนไข ปมสัญญาณเน็ตช้า เพราะยุบเสา เคลื่อนที่แต่ไม่ได้ลด Cell Site 

วันนี้ (19 ธ.ค. 66) พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข โฆษกประจำ ประธาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. นำแถลงข่าวชี้แจงกรณีมาตรการเยียวยาผู้บริโภค ในเรื่องอัตราค่าบริการ คุณภาพสัญญาณ และแพ็กเกจการให้บริการ หลังการรวมธุรกิจระหว่าง ทรู-ดีแทค

โดยสรุป นายไตรรัตน์ ชี้แจงถึงเงื่อนไขที่ทรู-ดีแทค ต้องทำภายใน 90 วัน หลังมีการรวมธุรกิจ เรื่องอัตราค่าบริการเฉลี่ย ลดลงร้อยละ 12 

นายไตรรัตน์ ระบุว่า การลดราคาไม่ใช่นำโปรโมชั่นในท้องตลาดมาลดลง 12 % แต่เป็นการลดโดยเฉลี่ยแพ็กเกจที่ประชาชนใช้มาก ซึ่งเขาก็ได้ทำตามมาตรฐานเงื่อนไขกำหนด แต่ที่ปรากฏเป็นข่าวมีแพ็กเกจหายไป ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า แพ็กเกจยังอยู่ เช่น แพ็กเกจ 299 เมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุสัญญา จะให้ลูกค้ารายเดิมเลือกว่า จะต่อแพ็กเกจเดิมหรือเปลี่ยนแพ็กเกจใหม่ ส่วนลูกค้ารายใหม่ที่ไม่เห็นแพ็กเกจ 299 ถ้าถามเขาจะบอกให้ แต่ไม่ได้โชว์ไว้ ตนยืนยันอัตราค่าบริการมีการลดลงร้อยละ 12 และไม่มีการบังคับลูกค้าเลือกแพ็กเกจ

ขณะที่เรื่องคุณภาพสัญญาณ เงื่อนไขระบุไว้ว่า บริษัทต้องไม่ลดจำนวนระบบสื่อสัญญาณ หรือ Cell Site ลงจากเดิม เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของบริการ นายไตรรัตน์ อธิบายว่า เสาโทรคมนาคม คือ เสา บนเสามี Cell Site เมื่อทรูกับดีแทครวมกัน มีบางจุดยุบเสา แล้วโยก Cell Site จากเสาหนึ่งไปไว้ที่เสาหนึ่ง ซึ่งการเคลื่อนไหว Cell Site ครั้งนี้ เมื่อวานตนก็ได้ตำหนิไปว่า ควรจะบอกผู้บริโภคก่อนจะเคลื่อน เพราะฉะนั้นบางครั้ง ณ บางเวลา บางวัน บางจุด การโทรติดต่อหรือการส่งข้อมูล อาจจะทำให้เน็ตช้าลง เพราะมีเคลื่อน Cell Site ซึ่งจากนี้เขาต้องบอกก่อน แต่ไม่ได้มีการลด Cell Site

ส่วนเรื่องการจ้างที่ปรึกษา เขามีการส่งเรื่องมาให้กสทช. แล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 66 ซึ่งมติบอร์ดอนุมัติส่งเรื่องเข้าอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการทำรายละเอียดทีโออาร์ให้ชัดเจน แต่อนุกรรมการมีการให้ปรับทีโออาร์ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาของอนุกรรมการดังกล่าวหมดลงเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 ทางทรู-ดีแทค ส่งเรื่องกลับมาให้ตามที่อนุกรรมการให้แก้ไข เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 66 ดังนั้นเรื่องยังค้างอยู่ที่อนุกรรมการ

ขณะที่เรื่องร้องเรียนที่ปรากฏเป็นข่าวว่าก่อนควบรวมมีกว่า 500 เรื่อง หลังควบรวมเพิ่มขึ้นนั้น เป็น 600 เรื่อง สำนักร้องเรียนสรุปตัวเลขรายงานมาพบว่า กว่า 600 เรื่อง เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพ เพียง 17 เรื่อง ที่เหลือเป็นเรื่องเอสเอ็มเอส ที่ทำให้รำคาญ การขึ้นราคาแพ็กเกจที่ไม่เข้าใจกัน

นายไตรรัตน์ กล่าวด้วยว่า ตามเงื่อนไขทรูต้องส่งรายงานคุณภาพการให้บริการให้กับบอร์ดกสทช. โดยการประชุมวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค. 66) จะนำรายงานคุณภาพการให้บริการเข้าพิจารณาในที่ประชุมบอร์ดกสทช.

รักษาการเลขาธิการ กสทช. ระบุด้วยว่า การควบรวม สำนักงานฯ ไม่ได้เพิกเฉย คอยติดตามเพื่อดูแลผู้บริโภค อะไรที่จะทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนเราไม่คิดจะทำ เราจะดูแลทุกอย่าง ทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และตลาด ข้อมูลนำออกไปเปิดเผย อาจใช้ข้อมูลแล้วไปสื่อแล้วทำให้เข้าใจผิดกันได้

สภาผู้บริโภคผิดหวัง จี้ กสทช. ลาออก ไร้ประสิทธิภาพคุ้มครองผู้บริโภคปมควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม

‘ศิริกัญญา’ ฉะ ‘กสทช.’ ใส่เกียร์ว่าง ไม่บังคับใช้มาตรการเยียวยาผลกระทบควบรวมทรู-ดีแทค