SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ปานปรีย์’ รมว.ต่างประเทศ ปัด ชักศึกเข้าบ้าน แจง ‘เมียนมา’ นำเครื่องบินลงจอด พร้อมเผยแผนรับผู้อพยพชั่วคราว ไทยรองรับได้ 1 แสนคน

สุภัทตรา โพล้งกล่ำ / Thai News Pix

ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ เปิดเผยวันนี้ (9 เม.ย. 67) ภายหลังการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงว่าหากมีสถานการณ์รุนแรงขึ้นทางการไทยจะมีแผนอพยพคนไทยอย่างไร ซึ่งหน่วยงานความมั่นคง รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศได้รายงานว่า ที่ผ่านมาไทยได้เตรียมแผนรองรับเหตุการณ์เช่นนี้มานานแล้ว และสามารถรับผู้อพยพได้ประมาณ 1 แสนคน เข้ามาอยู่ในที่ปลอดภัยแบบชั่วคราว

ทั้งนี้หากมีผู้อพยพมากกว่า 1 แสนคน หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ย้ำว่าสามารถดูแลได้ ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับต่างประเทศ กรณีหากเกิดความรุนแรงขึ้นมาและมีจำนวนคนอพยพถึงหลักแสน ประเทศไทยก็จะไม่อยู่โดยลำพัง จะต้องมีการหารือกับต่างประเทศเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือด้วย

ปานปรีย์ กล่าวถึงกรณีทางการเมียวดี ขอใช้สนามบินแม่สอดลงจอดเครื่องบินว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย เพราะไม่ใช่เป็นเครื่องบินทางทหารแต่เป็นเครื่องบินพลเรือนของเมียนมา ซึ่งได้บินเข้า-ออก ประเทศไทยตามปกติ ดังนั้นจึงไม่ใช่ประเด็นจะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ขณะที่กองทัพไทยก็มีความพร้อม หากกรณีที่มีการล่วงล้ำน่านฟ้าไทย ซึ่งจะต้องไม่เกิดเด็ดขาด

ส่วนการเจรจาเพื่อยุติความรุนแรง ต้องมีการพูดคุยกับทุกกลุ่ม เพราะขณะนี้มีหลายกลุ่ม สามารถควบคุมได้อีกพื้นที่หนึ่ง แต่กลุ่มอื่นก็ควบคุมกันอีกในหลายพื้นที่ ดังนั้นการเจรจาต้องให้ได้ทุกกลุ่ม แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็จะต้องทำ และย้ำว่า ทางการไทยวางตัวเป็นกลางในเรื่องนี้ และอยากให้เกิดสันติสุขในประเทศเมียนมา ดังนั้นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพราะประเทศไทยได้รับผลกระทบมาก ซึ่งก็ได้มีการเริ่มทำไปบางส่วนแล้ว แต่วันนี้เมื่อมีการสู้รบกันมากขึ้น ก็จะต้องหาทางที่จะทำให้เกิดการเจรจาให้การสู้รบยุติลง และหันมาพูดคุยกันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากผู้อพยพมีหลายกลุ่มและมาก่อความวุ่นวายในประเทศไทย เรื่องนี้ผู้ที่รับผิดชอบ ไม่ว่ากระทรวงมหาดไทย กองทัพบก รับทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว จะรู้ว่าในพื้นที่ต่างๆ เป็นกลุ่มชนชาติพันธุ์ไหน ดังนั้นจะเอาชาติพันธุ์ที่ไม่ถูกกัน หรือกลุ่มอื่นๆ อยู่รวมกันอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เพราะไทยแยกแยะได้ และโดยปกติแล้วประชาชนเมียนมา ไม่ได้แตกแยกกันเท่าไรแต่เป็นเฉพาะกลุ่มเท่านั้น จึงไม่น่าจะเป็นปัญหามาก แต่ทุกหน่วยงานรับทราบแล้วก็จะบริหารจัดการอย่างดี

ปานปรีย์ ระบุว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนขณะนี้ ขอให้ประชาชนคนไทยมั่นใจว่ายังมีความสงบอยู่ จากรายงานยังไม่มีการสู้รบกัน และยังมีการค้าขายตามปกติ แต่ในปริมาณการค้าอาจลดลง ประชาชนอาจกังวลอยู่บ้าง ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นในเรื่องนี้ เป็นเรื่องภายในของเมียนมา ซึ่งเห็นว่าไม่น่าจะเกิดอะไรที่รุนแรงมากขึ้นในพื้นที่เมืองเมียวดี เนื่องจากเมืองนี้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจโดยตรง ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีใครไปสร้างความรุนแรงจุดนี้ และตอนนี้กองทัพก็ได้เพิ่มกำลังดูตามแนวชายแดนอยู่แล้ว และมีการดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า ประเทศไทยไม่สามารถไปควบคุมรัฐบาลอื่นได้ แต่จะทำหน้าที่ประสานงานเพื่อให้เกิดสันติภาพในเมียนมา ไม่ใช่แค่เรื่องการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่มีแผนดำเนินการอยู่แล้ว

ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศ ย้ำอีกว่า ทางเมียนมาขอใช้สนามบินเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อมีจดหมายมาก็มีการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือว่าเกิดปัญหาใดขึ้น และจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร และเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีรับทราบมาโดยตลาด ดังนั้นการตัดสินใจบินเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ รัฐบาลรับทราบมาโดยตลอด และได้ตัดสินใจร่วมทุกหน่วยงาน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงการค้าตามแนวชายแดน เรื่องนี้รัฐบาลมีความเป็นห่วง โดยเฉพาะล่าสุดการค้าขายตามแนวชายแดนอำเภอแม่สอดลดลงเป็นจำนวนมากจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการค้าระหว่างประเทศถึง 130,000 ล้านบาท แต่เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา การค้าระหว่างทั้งสองประเทศลดลง ชายแดนไทย-แม่สอด มีเพียง 1 แสนล้านบาทเท่านั้น หายไปถึง 30%

รมว.ต่างประเทศของไทย ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการปิดชายแดน ยังเปิดทำการปกติ ข้าราชการตรวจคนเข้าเมืองกรมศุลกากรของเมียนมา ยังทำงานเป็นปกติ แต่อาจจะไม่ได้ใส่เครื่องแบบ และการค้าตามแนวชายแดนยังเข้าออกได้ตามปกติ แต่ปริมาณอาจจะลดลง ส่วนอนาคตหากการค้าขายเข้าไม่ได้ ก็จะมีการเปลี่ยนเส้นทางไปยังจังหวัดอื่น เช่น ชายแดนจังหวัดระนอง

นายกฯ ย้ำเรื่องสถานการณ์เมียนมา ทุกอย่างเป็นไปตาม ‘ปานปรีย์’ แถลง เผยข้อมูลการเจรจา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องคำนึงหลายฝ่าย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีสถานการณ์ในประเทศเมียนมามีการเปลี่ยนแปลงถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลไทยจะคุยกับกลุ่มต่างๆ ว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศแถลงว่ามีการทำงานกัน แต่ต้องยอมรับว่า เรื่องข้อมูลการเจรจาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องคำนึงถึงหลายฝ่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ประชุม กต.-ผู้นำเหล่าทัพ เตรียมตั้งคณะทำงาน รับมือสถานการณ์ในเมียนมา

กต.แถลง อนุมัติเที่ยวบินพิเศษ ‘ย่างกุ้ง-แม่สอด’ ฝ่ายเมียนมา ขอยกเลิก เที่ยวบิน 8-9 เม.ย. แล้ว

‘จักรพงษ์’ แจงปม เครื่องบินเมียนมา เป็นเครื่องบินพลเรือน มาลงเพื่อขนย้ายสิ่งของทางการทูต

‘กัณวีร์’ เตือน รบ. ตัดสินใจอย่างระวัง เปิดสนามบินแม่สอดให้เครื่องบินพม่า ล่าสุด โฆษกรัฐบาล เคลื่อนไหว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า