Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

วุฒิสภามีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.กยศ. วาระแรก มติ 179 ต่อ 4 ตั้ง กมธ. 27 คน หลัง ส.ว.รุมค้านไม่คิดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับกยศ. กังวลกองทุนเจ๊งใน 3 ปี ขณะที่รมว.คลังอ้อนส.ว.แก้เนื้อหา กยศ.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) ชี้แจงหลักการต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า ที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ตามที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบที่มีการปรับแก้เนื้อหาจากร่างที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอมา ไม่ให้คิดดอกเบี้ยกู้ยืม ไม่มีเบี้ยปรับจ่ายล่าช้า และไม่มีผู้ค้ำประกันทุกกรณี

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง

นายอาคม ชี้แจงหลักการต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า กรณีที่สภาฯ แก้ไขเนื้อหาให้ปลอดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับนั้น ครม.เห็นว่าอาจนำมาซึ่งปัญหาขาดวินัยในการชำระหนี้เงินกู้ ส่งผลให้เกิดอันตรายทางศีลธรรม ขาดจิตสำนึกส่งคืนเงินกู้ มีผลกระทบต่อการบริหารเงินกองทุนในอนาคต เพราะขาดรายได้จากดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ทำให้กองทุนกยศ. อาจต้องพึ่งงบประมาณแผ่นดิน กระทบต่อการให้นักเรียนกู้ยืมเงินต่อไป หากเนื้อหายังเป็นเช่นนี้ อีกไม่เกิน 3 ปี อาจมีความจำเป็นต้องของบประมาณแผ่นดินเพิ่มเติม เพื่อให้มีเงินเพียงพอให้นักเรียนกู้ยืมต่อหวังว่าวุฒิสภาจะพิจารณาให้กยศ. กำหนดอัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับได้ เพื่อสร้างโอกาสการศึกษา สร้างวินัยการเงิน และรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศที่เพิ่งผ่านวิกฤติเศรษฐกิจสถานการณ์โควิด

จากนั้นที่ประชุมเปิดให้ส.ว.อภิปรายแสดงความคิดเห็น ส.ว.ส่วนใหญ่อภิปรายไปแนวทางเดียวกันคือ เห็นด้วยกับหลักการร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ช่วยเหลือนักศึกษาได้มีเงินกู้ยืมเรียน แต่ไม่เห็นด้วยที่จะไม่คิดดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ เกรงจะเป็นต้นเหตุไม่มีใครคืนเงินกู้ยืม ทำให้กองทุนกยศ.ดำเนินการต่อไปไม่ได้ โดยเสนอให้คิดดอกเบี้ยในอัตราต่ำแทนการไม่คิดดอกเบี้ยและไม่มีค่าปรับ อาทิ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. อภิปรายว่า ส.ว.มีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย ทำกฎหมายที่ผิดให้ถูกต้องด้วยการคงดอกเบี้ยและคิดค่าปรับ การปรับแก้ไขร่างกฎหมายควรยึดหลักการให้มีกองทุนเพื่อหมุนเวียนให้ผู้กู้รุ่นต่อไป เห็นด้วยกับรมว.คลังที่บอกว่าต้องมีดอกเบี้ยและค่าปรับ

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. อภิปรายว่า เห็นด้วยหลักการกฎหมายฉบับนี้ แต่ในร่างที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรที่ไปแก้ไขหลักการของครม. ยึดหลัก 3 ไม่ 2 มี คือ ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ ไม่มีผู้ค้ำประกันทุกกรณี ส่วน 2 มี คือ มีเวลาปลอดหนี้ทุกกรณี 2 ปี และมีผลย้อนหลังทุกกรณี ไม่รู้เหตุผลทำไมสภาไปเปลี่ยนแปลงหลักการใหญ่ของครม. ขณะนี้พอมีข่าวสภาฯ เห็นชอบร่างแก้ไข ทำให้มียอดไม่ชำระหนี้กยศ. สูงขึ้นหลายเท่าตัว ใครจะชำระ เพราะร่างนี้ให้มีผลย้อนหลัง รอให้กฎหมายบังคับใช้ก็ได้อานิสงส์ไปด้วย ถ้าเนื้อหาเป็นเช่นนี้อีกไม่ถึง 3 ปี กองทุนกยศ. ต้องเอาภาษีประชาชนมาถม ร่างฉบับครม. ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการแก้หนี้ครัวเรือน ลดดอกเบี้ยจาก 7.5 ต่อปี เหลือไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี และลดเบี้ยปรับ จากเดิมร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 18 ต่อปี เหลือไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี ถือเป็นการปฏิรูปใหญ่อยู่แล้ว ไม่ควรไปแก้ไขเพิ่มอีก

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. อภิปรายว่า การให้ไม่มีผู้ค้ำประกันถือว่า แข็งตัวเกินไป เพราะถ้ากู้มาแล้วเรียนไม่จบ จะหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ เงินจะยิ่งสูญไป เรื่องนี้เป็นการกู้ยืม ไม่ใช่เรียนฟรี หมายความว่าต้องคืน จำเป็นต้องมีหลักประกัน แต่ควรมีข้อยกเว้นตามหลักเกณฑ์ แต่ไม่ควรถึงขั้นให้ไม่มีการค้ำประกัน ดูแล้วหลักลอยไป ขณะเดียวกันไม่เห็นด้วยกับการไม่คิดดอกเบี้ย ทำให้คนกู้ไม่คิดที่จะชดใช้ ยิ่งไม่มีทั้งดอกเบี้ย ไม่มีคนค้ำประกัน นักศึกษาจะเอาเงินไปชำระหนี้มือถืออย่างเดียว แต่หนี้กยศ. ทุกคนมองไม่ชำระก็ได้ ร่างกฎหมายนี้ทำให้ทุกคนขาดความรับผิดชอบ ขาดจิตสำนึก คิดว่าไม่ใช่เงินพ่อแม่

พล.อ.ต.นพ.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. อภิปรายว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ไม่ชำระหนี้กยศ. ขณะนี้เพิ่มเป็น 26% ถ้ากฎหมายกำหนดให้ไม่ต้องชำระดอกเบี้ย เบี้ยปรับ เงินทุนหมุนเวียนในกองทุนกยศ. ปีละ 4 หมื่นล้านบาท จะหายไปปีละ 1-2 หมื่นล้านบาท ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ภายใน 2-3 ปี เงินสะสมในกองทุนกยศ. ก็จะหมด เด็กรุ่นหลังจะไม่มีโอกาสได้เรียน

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับเนื้อหาที่สภาผู้แทนราษฎรแก้ไข มองว่าการศึกษาเป็นสวัสดิการสังคมที่รัฐต้องดูแลประชาชน ไม่ใช่การให้กู้ยืมเงิน การออกกฎหมายกองทุนกู้ยืมเงินผิดมาตั้งแต่ต้น ไม่ควรให้เป็นการกู้ยืมเงิน แต่ต้องจัดเป็นสวัสดิการให้ประชาชน ในช่วงใกล้เลือกตั้งพรรคการเมืองเกทับรัฐบาล เพราะพรรคการเมืองให้ประชาชนได้มากกว่ารัฐบาล ยิ่งใกล้เลือกตั้งประชาชนจะเลือกใคร ยิ่งภาวะปัจจุบัน อาจถูกกล่าวหาว่าขายชาติจากนโยบายที่ออกมา ทั้งที่ไม่ได้ขายชาติ ทั้งนี้ตนขอรับหลักการ และจะแปรญัตติเสนอให้รัฐต้องหางานให้ผู้เรียนจบได้ทำเพื่อมีรายได้มาใช้หนี้และมีชีวิตอยู่ที่ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ส.ว.อภิปรายกันอย่างกว้างขวางนานกว่า 3 ชั่วโมง ที่ประชุมจึงลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ตามที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบ ด้วยคะแนน 179 ต่อ 4 งดออกเสียง 4 โดยตั้งกมธ.วิสามัญฯ จำนวน 27 คน มาพิจารณาในวาระ 2 ต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า