ลูกหนี้ กยศ. ถูกหักเงินเดือน ขอลดการหักเงินเหลือ 100 บาทต่อเดือนได้

ผู้จัดการ กยศ. เร่งชี้แจงปมหักเงินลูกหนี้จากบัญชีเงินเดือน หลังเกิดประเด็นดรามาในสังคมโซเชียล ย้ำชัดตัวเลขที่ปรากฏในหนังสือ เป็นตัวอย่างของผู้กู้ยืมที่มียอดผิดนัดชำระหนี้สูง แนะลูกหนี้ที่มีภาระหนี้สูง แจ้งขอลดยอดหักให้เหลือ 100 บาทต่อเดือน

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความพร้อมเอกสารแสดงตัวอย่าง ระบุว่า กยศ. หักเงินเดือนลูกหนี้อย่างโหด แค่เห็นตัวอย่าง กยศ. ให้หักเงินเดือนลูกหนี้รายนี้ก็รู้สึกวืบขึ้นมาทันทีว่า หักเดือนละ 18,375 บาท เด็กมันจะเอาที่ไหนมาจ่าย แค่ฐานเงินเดือนขั้นต่ำ 9,000 บาท แต่ความจริงก็จ้าง 12,000-15,000 บาท แค่จ่ายหนี้ กยศ. รายเดือนก็ยังไม่พอ มันเอาอะไรมาคิด

สูตรคำนวณหนี้แบบใหม่ที่เอาหนี้คงค้างรายปี+หนี้ค้างชำระทั้งหมด หารด้วย 12 เดือน มันโคตร หน้าเลือด นักการเมือง-รัฐบาลต้องทำตัวมีสาระกับการแก้ปัญหาเรื่องอย่างจริงจัง เพราะหากปล่อยให้ กยศ.ทำแบบนี้ เห็นชัดๆ ว่าคนกู้เรียนมีปัญหาจ่ายคืนเพิ่มขึ้นมากมายแน่นอน…

• กยศ. แจงการหักเงินเดือน สามารถแจ้งขอลดการหักเหลือ 100 บาทต่อเดือนได้

ล่าสุดกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงกรณีที่มีประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์นี้ว่า ตัวเลขที่แสดงในหนังสือ เป็นตัวเลขตัวอย่างของผู้กู้ยืมที่มียอดผิดนัดชำระหนี้สูงเท่านั้นแม้ว่าผู้กู้ยืมจะมีภาระหนี้สูงและมียอดที่ถูกแจ้งหักสูงก็สามารถแจ้งขอลดการหักเงินเดือนลงเหลือเพียง 100 บาทต่อเดือนได้

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า กรณีที่มีหนังสือของกองทุนส่งถึงหน่วยงานนายจ้าง แจ้งวิธีการคำนวณเงินรายเดือน เพื่อชำระหนี้คืนกองทุนด้วยการหักเงินเดือน ซึ่งตัวเลขที่ระบุในหนังสือเป็นตัวเลขตัวอย่างของผู้กู้ยืมที่มียอดผิดนัดชำระหนี้สูง

ในทางปฏิบัติเมื่อผู้กู้ยืมได้รับหนังสือดังกล่าว ผู้กู้ยืมสามารถยื่นขอปรับโครงสร้างหนี้หรือขอไกล่เกลี่ยกับกองทุนแล้วแต่กรณี และสามารถขอปรับลดจำนวนที่หักเงินเดือน โดยชำระขั้นต่ำ 100 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมากองทุนได้มีการหักเงินเดือนผู้กู้ยืมด้วยระบบการหักเงินเดือนนำส่งกรมสรรพากรไปแล้วจำนวน 1.7 ล้านราย ผ่านหน่วยงานนายจ้างทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 1 แสนแห่ง

นายชัยณรงค์ ระบุว่า เมื่อร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มีผลบังคับใช้ กองทุนจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี กรณีผิดนัดชำระคิดอัตราเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อปี รวมถึงในการกู้ยืมเงินกองทุนไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี และช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างการบังคับคดีให้สามารถผ่อนผันการชำระเงินคืน ปรับโครงสร้างหนี้ แปลงหนี้ใหม่ หรือระงับการชำระเงินคืนตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด

ทั้งนี้ ระยะเวลาการผ่อนชำระจะคำนึงถึงรายได้และความสามารถในการชำระเงินคืนของผู้กู้ยืม ผู้กู้ยืมสามารถผ่อนชำระเงินคืนเป็นงวดรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปีได้ กรณีที่ผู้กู้ยืมมีหนี้ค้างชำระจะทำการตัดชำระหนี้จากเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ ซึ่งกฎหมายใหม่ดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีแล้วให้สามารถแปลงหนี้ใหม่ เพื่อให้กลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ทั้งนี้ กองทุนขอยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือและให้โอกาสทุกคน และจะเป็นหลักประกันของทุกครอบครัวว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาในประเทศนี้จะมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาได้ทุกคน

สำหรับขั้นตอนการหักเงินเดือนของพนักงานหรือลูกจ้างที่เป็นผู้ยืมเงิน กยศ. ผ่านองค์กรนายจ้างนั้น กองทุนจะจัดส่งหนังสือแจ้งหักเงินเดือนไปตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์ของผู้กู้ยืมเงินได้รับทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน จากนั้นกองทุนจะจัดส่งหนังสือแจ้งให้นายจ้างทราบถึงข้อมูลของผู้กู้ยืมเงินรวมทั้งจำนวนเงินที่ต้องหักนำส่งล่วงหน้าประมาณ 30 วัน นายจ้างสามารถตรวจสอบข้อมูลที่ต้องหักและนำส่งผ่านระบบรับชำระเงินกู้ยืมคืนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาผ่านกรมสรรพากร (e-PaySLF) โดยเข้าใช้งานได้ที่เว็บไซต์ กยศ. การหักเงินเดือนตาม พ.ร.บ. กยศ. 2560 ซึ่งกองทุนจะมีการปรับข้อมูลผู้กู้ยืมให้เป็นปัจจุบันและจะแจ้งข้อมูลที่ต้องหัก และนำส่งให้นายจ้างได้ทราบผ่านระบบดังกล่าวในทุกวันที่ 5 ของเดือน ทั้งนี้ กองทุนขอชี้แจงรายละเอียดการหักเงินเดือนเพื่อความชัดเจน

กรณีที่พนักงานหรือลูกจ้างไม่ยินยอมหรือมีข้อโต้แย้งในการหักเงินเดือน นายจ้างต้องให้พนักงานหรือลูกจ้างติดต่อกองทุนโดยตรง ผ่านช่องทางการติดต่อขององค์กรนายจ้าง เบอร์โทรศัพท์ 064 587 0102 – 08 / 064 587 0124 -32 / 081 235 0712 – 21 / 081 235 0723 -32 หรือไลน์บัญชีทางการ กยศ.องค์กรนายจ้าง หรืออีเมล [email protected] เพื่อให้เจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียดแก่ผู้กู้ยืมเงินในการเข้าสู่ระบบการหักเงินเดือนผ่านองค์กรนายจ้าง