‘หมอแชมป์’ ฮีโร่ช่วยเพื่อนรอดชีวิตจากเรืออับปาง ที่ยังต้องตามหา

“ถอดเสื้อชูชีพมาให้พี่ พี่จะไปช่วยคนอื่นต่อ” คำพูดประโยคสุดท้ายที่ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางได้ยินจากปาก หมอแชมป์ ผู้อุทิศทั้งชีวิตให้กับกองทัพเรือและทำหน้าที่อย่างดีที่สุดจนวินาทีสุดท้าย

เรื่องราวของหมอแชมป์-พ.จ.อ.คุณากร จริยศ ถูกเปิดเผยโดยกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่รอดชีวิตจากเรืออับปาง และได้รับความช่วยเหลือจากหมอแชมป์ให้ได้ขึ้นจากน้ำทะเลมาได้อย่างปลอดภัย ผู้รอดชีวิตระบุว่า หมอแชมป์เป็น 1 ในผู้มีรายชื่อว่าได้รับการช่วยเหลือขึ้นจากทะเลแล้ว แต่หมอแชมป์ขอกลับลงไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ และเวลานี้ยังไม่มีใครพบตัวหมอแชมป์

พ.จ.อ.ทนงศักดิ์ วงศ์ชัย และกลุ่มเพื่อนได้ทำรูปภาพและข้อความ ระบุว่า คุณแชมป์เป็นพยาบาลแผนกปฏิบัติการ กองนาวิกเวชกิจ โรงพยาบาลอาภากรณ์เกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และไปช่วยราชการในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่พลาธิการและแพทย์ เรือหลวงสุโขทัย ซึ่งเป็น 1 ในกำลังพลผู้สูญหาย จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางช่วงกลางดึกของวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้รอดชีวิต เล่าว่า เรือหลวงสุโขทัยมีพันจ่าแพทย์ประจำเรืออยู่คนหนึ่งชื่อว่า พ.จ.อ.คุณากร จริยศ หรือ หมอแชมป์ ที่ประจำเรือ มักจะเรียกกันว่าตอนหมอ (พ.จ.อ. = นายตอน) ขณะเกิดเหตุ ด้วยความที่นิสัยส่วนตัว มีความรักในอาชีพ และตระหนักในความเป็นหมอ (หมอแชมป์ไม่ได้จบแพทย์ แต่จบหลักสูตรพยาบาลกองทัพเรือ เมื่อมาประจำในหน่วย คนมักจะเรียกกันว่าหมอ มีหน้าที่ดูแลอาการป่วยเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล)

ในขณะที่ทุกคนเริ่มคิดถึงการเอาตัวรอด ทุกคนถอดรองเท้า เสื้อผ้าหนักๆออก เพื่อเตรียมพร้อมหลังจากเรือเอียงจนใกล้จะอับปางเต็มที แต่หมอแชมป์กลับแบกกระเป๋าพยาบาลใบใหญ่ติดตัวไปด้วย โดยไม่ได้ห่วงว่ามันจะหนัก หรือมันจะถ่วงจนน้องจมน้ำ หวังเพียงว่าจะใช้มันช่วยเหลือคนอื่นได้ เมื่อต้องสละเรือ น้องแชมป์ พาพลทหารมาด้วย 1 คน และสรั่งกล คือชื่อเรียกรองหัวหน้าแผนกช่างกล ดูแลเรื่องเครื่องยนต์ในเรือ ซึ่งส่วนใหญ่อายุจะอาวุโสระดับ 50+

กลุ่มของหมอแชมป์เป็นกลุ่มแรกๆ ที่สละเรือ มีทั้งหมด 3 คน คือหมอแชมป์ พลทหาร 1 คน และสรั่งกล มาด้วยชูชีพ 2 ตัว จึงใช้วิธีการแชร์เสื้อชูชีพ และจับมือกันเป็นวง และลอยตัว หมอแชมป์ เคยฝึกและได้รับการอบรม ในการช่วยเหลือชีวิต และเอาชีวิตรอดมาหลายหลักสูตร จึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการที่จะนำพาชีวิตที่เหลือให้รอดไปให้จงได้ จนกลุ่มของหมอแชมป์ ลอยมาเจอพลฯ ทหารคมกริชที่ลอยน้ำอยู่อีกคนหนึ่ง จึงบอกให้มาจับมือ และบอกกับทุกคนให้มีสติ “เรามีชูชีพ เราไม่จม”

พลทหารคมกริช และพลทหารแตร ผู้รอดชีวิตมาจากการช่วยเหลือของหมอแชมป์ เล่าว่า หมอตะโกนบอกให้ผมมาจับมือแกไว้ ตอนนั้นแกก็มาพร้อมน้องทหารอีกคนที่ไม่มีชูชีพ และก็สรั่งกล พร้อมกับกระเป๋าแพทย์ แกบอกให้ร่วมกลุ่มกันไว้ มีชูชีพ ไม่จม แล้วก็พาพวกเราทั้ง 4 ชีวิต ลอยตามกระแสน้ำและคลื่นที่รุนแรงไป จนได้รับความช่วยเหลือขึ้นเรือหลวงกระบุรีได้อย่างปลอดภัย 3 ชีวิต

ขณะกำลังจะขึ้นเรือสรั่งกลซึ่งมีอายุมากที่สุดในกลุ่ม หมดแรงและไปต่อไม่ไหว ด้วยสภาพร่างกายที่ต้องสู้กับคลื่นทะเลที่หนักหน่วง คลื่นได้ซัดเอาสรั่งกล หลุดออกไปจากกลุ่ม และจมหายไปต่อหน้าต่อตา

ระหว่างที่ทั้ง 3 ชีวิตพักเหนื่อยจากความอ่อนเพลีย แต่จิตใจนั้น แตกสลายกว่าร่างกายนัก เพราะต้องเห็นเพื่อน พี่ น้อง จมไปต่อหน้าต่อตาแบบที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ขณะที่กำลังพัก นอนนิ่งๆ อยู่สักพัก

หมอแชมป์ก็ลุกขึ้นมา แล้วบอกกับพลทหารคมกริช ว่า “ถอดเสื้อชูชีพให้พี่ พี่จะไปช่วยคนอื่น” เมื่อถอดชูชีพให้หมอใส่แล้ว หมอก็นำกระเป๋าแพทย์ ไปเก็บไว้ที่ห้องเมสเรือหลวงกระบุรี

ตอนเช้าทุกคนพบเพียงแต่กระเป๋าของหมอแชมป์ แต่ไม่มีใครเห็นตัวหมอแชมป์อีกเลย กระทั่งจนเรือหลวงกระบุรีเข้าเทียบเพื่อส่งลูกเรือที่เก็บขึ้นเรือได้ในรอบแรก 75 คน ขึ้นฝั่งที่บางสะพาน ในรายชื่อผู้ที่ปลอดภัยแล้วมีชื่อของ พ.จ.อ.คุณากร จริยศ ทำให้ญาติที่ตามข่าวดีใจว่า หมอแชมป์ยังปลอดภัย บวกกับในรายชื่อผู้สูญหาย 30 ราย (ในตอนแรก) ไม่มีชื่อหมอแชมป์ในตอนนั้น ทำให้ทุกคนเบาใจ ว่าหมอแชมป์ไม่เป็นอะไร

แต่จนบัดนี้ พี่น้องที่รอดชีวิตมาได้ คนบนเรือหลวงกระบุรี ก็ยังไม่มีใครเห็นหมอแชมป์ เพื่อนๆ ญาติๆ ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากหมอแชมป์ ไม่มีในรายชื่อผู้สูญหาย แล้วหมอแชมป์หายไปไหน ได้แต่หวังว่า ด้วยความดี ความเสียสละที่หมอแชมป์ทำมา ขอให้ไม่ให้เกิดเรื่องร้าย และให้ปลอดภัยกลับมาได้ด้วยเถิด…ทุกคนรออยู่

ข่าวล่าสุดวันนี้ยืนยันพบร่าง ร.ท.สามารถ แก้วผลึก (สรั่งกล)  เสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่พบหมอแชมป์เลย …พวกเรา ถึงแม้จะเป็นเพียงนายทหารประทวนเล็กๆ จาก รร.จ่าทหารเรือ แต่พวกเรายึดถือว่า คุณค่าของทุกชีวิต มีค่าเท่ากันเสมอ

ที่มา https://www.facebook.com/woodyziz.sellmysoulfornikon?mibextid=LQQJ4d