Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปความเคลื่อนไหวก่อนเปิดศึกอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี 67 พรุ่งนี้วันแรก ‘วันนอร์’ เชื่อ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โหวต 4 ทุ่มวันที่ 5 ม.ค. พร้อมระบุ ถ้าพูดโยง ‘ทักษิณ’ หากเกี่ยวกับงบฯ สามารถทำได้ ด้าน วิปรัฐบาล เผย ไม่เตรียมองครักษ์ ดักคออย่าแตะปม ‘ทักษิณ’ ด้าน วิปฝ่ายค้าน ย้ำความพร้อม ยันเข้มข้น ไม่แพ้ ก้าวไกล อภิปรายงบฯ 4 ปีที่ผ่านมา

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (2 ม.ค. 67) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค. นี้ ว่า ไม่กังวลว่าจะเป็นการใช้การอภิปรายงบประมาณ เป็นเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อยๆ เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป สมาชิกทุกคนพัฒนาแล้ว การอภิปรายในสภาฯ มีการพัฒนาไปมาก ถ้าฝ่ายค้านมีอะไรตำหนิจริงๆ ก็เพื่อให้รัฐบาลแก้ไข จะได้เห็นการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลตั้งใจทำให้เกิดประโยชน์ สภาฯ จะเปิดโอกาสให้อภิปรายเต็มที่ตามข้อบังคับการประชุม

ส่วนการอภิปรายงบประมาณในส่วนกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อาจพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ประธานสภาฯ กล่าวว่า หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงงบประมาณก็อภิปรายได้ แต่หากไม่เกี่ยวกับงบประมาณก็ต้องไปอภิปรายตอนไม่ไว้วางใจรัฐบาล เชื่อว่า กรอบเวลา 3 วัน อภิปรายงบประมาณจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ต้องกำชับ สส. เป็นพิเศษ สภาฯ ยุคนี้พัฒนาไปเยอะ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องมีองครักษ์พิทักษ์รัฐบาลคอยประท้วง ตอนนี้ไม่ค่อยประท้วงมากมาย ทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับ คาดว่า การอภิปรายในวันสุดท้าย คือ วันที่ 5 ม.ค. นี้ จะลงมติรับหลักการได้ในเวลา 22.00 น.

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านท้วงติงรัฐบาลรวบรัดเวลาการพิจารณา ทำให้มีเวลาศึกษารายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 67 ได้น้อย นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรื่องเวลาเป็นเรื่องที่สมาชิกตกลงกันเอง เมื่อรัฐบาลส่ง ร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี 67 มาแล้วก็หารือกันว่า จะพิจารณาวันที่ 3-5 ม.ค. 67 เพราะสัปดาห์ถัดไปสมาชิกมีภาระเรื่องวันเด็ก ดังนั้น สส. ไม่อยากประชุมใกล้วันเด็ก เพราะต้องเตรียมไปร่วมงาน ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา แต่ละคนก็ไม่ใช่จะอภิปรายงบประมาณทั้งหมด ต้องแบ่งกัน ทั้งหมดน่าจะเป็นไปด้วยดี

เมื่อถามว่า จะกำชับ สส. อย่างไรเพื่อป้องกันข้อครหาเรียกรับเงิน ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ นายวันมูหะมัดนอร์ ตอบว่า ยุคนี้ไม่มีแล้ว เป็นยุคคนรุ่นใหม่ประชาชนตรวจสอบอยู่ ใครทำไม่ดี เรียกทรัพย์ ตบทรัพย์จะไม่ได้รับเลือกเข้ามาเป็น สส. ในรอบต่อไป คนเหล่านี้จะไม่ได้เป็น สส. ทุกคนต้องระวัง ขณะนี้ประชาชนตรวจสอบ สส.จากสื่อได้ เชื่อว่าคงไม่มีแล้ว บทเรียนในอดีตจะไม่ทำซ้ำในปัจจุบัน

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ ได้เชิญ 3 หน่วยงานได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ (สศช.) ชี้แจงถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2567 ว่ามีสาระสำคัญอย่างไร และมีเหตุผลการปรับเปลี่ยนงบประมาณด้านต่างๆ อย่างไร ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลขอให้การอภิปราย ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ครั้งนี้ ไม่ให้โยงถึง นายทักษิณ นั้นคิดว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไร สส. ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าวาระที่จำเป็นและเกี่ยวข้อง ก็ต้องพูดถึง ถ้าวาระที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอ่ยถึงบุคคลภายนอก

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องการแบ่งเวลาคุยกันเรียบร้อยแล้ว มีการแบ่งเวลาให้พรรคเล็กด้วย แม้สัปดาห์ที่แล้ว ไม่มีการประชุมวิปฝ่ายค้านแต่ได้โทรศัพท์แจ้งพรรคการเมืองต่างๆ ถึงการแบ่งเวลาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 200 นาที พรรคไทยสร้างไทย 60 นาที พรรคเป็นธรรม 20 นาที ส่วนพรรคเล็ก อย่าง พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคใหม่ ได้เวลาพรรคละ 10 นาที

ในส่วนการจัดหมวดหมู่อภิปรายนั้น พรรคก้าวไกล ประกาศไปแล้วว่า เตรียมจะอภิปราย “วิกฤติแบบใด ทำไมจัดงบแบบนี้” เพราะรัฐบาลบอกตลอดเวลาว่า ประเทศไทยอยู่ในวิกฤติต้องกู้เงินมาทำโครงการต่างๆ การทำดิจิทัลวอลเล็ต แต่สุดท้ายการกระทำจะสะท้อนออกมาผ่านการจัดทำงบประมาณว่า รัฐบาลมองประเทศมีวิกฤติจริงหรือไม่ เท่าที่ดูยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในการจัดสรรงบประมาณเปลี่ยนไปจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากเท่าไร

เราเข้าใจดีว่า รัฐบาลเพิ่งมาบริหารประเทศได้ไม่กี่เดือน แต่ต้องบอกว่า ตอนที่รัฐบาลรับตำแหน่ง ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2567 พร้อมเข้าสภาฯ อยู่แล้ว แต่เมื่อล่าช้ามาขนาดนี้ เราจึงคาดหวังเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว และทิศทางการหาเสียงแตกต่างจากรัฐบาลที่แล้วพอสมควร ดังนั้นทิศทางการใช้งบประมาณ ต้องเห็นความแตกต่างจากรัฐบาลที่แล้ว แต่ไม่เห็นว่าจะแตกต่างมากมายแค่ไหน

เมื่อถามว่า จากการศึกษาแล้วเห็นความผิดปกติอย่างไรบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ความผิดปกติ คือ ความปกติ เพราะจัดงบเหมือนปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่แน่ใจว่า 3 เดือนที่ผ่านมากว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567จะเข้าสภาฯ และกว่าจะบังคับใช้ได้ มีความล่าช้าไปครึ่งปี ก็เหมือนปกติ แทบไม่เปลี่ยนแปลงอะไร การอภิปรายระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค. 67 นี้ ฝ่ายค้านวางไว้หลายด้าน เช่น วิกฤติเศรษฐกิจปากท้องที่พรรคเพื่อไทยเน้นย้ำอย่างมากว่า เราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจ ฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นว่า การบอกว่า มีวิกฤติเศรษฐกิจแล้วจัดงบแบบนี้หรือ รวมถึงงบด้านสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำที่พรรคการเมืองพูดถึงวิกฤติความเหลื่อมล้ำ แต่การจัดงบไม่สามารถบรรเทาความเหลื่อมล้ำในประเทศได้เลย และวิกฤติทรัพยากรมนุษย์ตั้งแต่เด็กเกิดน้อย การศึกษาของเยาวชนเติบโตจนเป็นแรงงานด้านต่างๆ เราได้งบประมาณเพื่อรองรับการเติบโตของทรัพยากรมนุษย์ของประเทศที่รัฐมนตรีเพิ่งออกมาพูดถึงอัตราเด็กเกิดต่ำ อาจกระทบในอนาคต การจัดงบประมาณสะท้อนวิกฤติปัญหาเหล่านี้หรือไม่

เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งแรกของฝ่ายค้านจะทำให้ไม่แพ้การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คิดว่าเข้มข้นไม่ต่างจากการอภิปรายงบประมาณของพรรคก้าวไกลใน 4 ปีที่ผ่านมา

เมื่อถามย้ำว่า หากมีการประท้วงเกิดขึ้น ฝ่ายค้านตั้งทีมรองรับหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรามีทีมวิปเฝ้าสภาฯ อยู่แล้ว มั่นใจว่า การอภิปรายงบประมาณปีที่ผ่านๆ มา แทบไม่เคยมีการประท้วง เพราะเนื้อหาสาระเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณ จริงๆ แล้วรัฐบาลก็บอกเองว่า ไม่ได้กังวลอะไร ไม่จัดองค์รักษ์เป็นพิเศษ คิดว่า เป็นเรื่องที่ถูกแล้ว ที่ผ่านมา 4 ปี เราเห็นแล้วว่า การอภิปรายงบประมาณเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะพูดถึงงบประมาณล้วนๆ

ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวด้วยว่า ส่วนที่รัฐบาลส่งร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ล่าช้านั้น ทำให้กระทบการทำงานฝ่ายค้าน แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีปัญหา ช่วงหยุดปีใหม่ พวกเราไม่ได้หยุด 2วันที่ผ่านมา ตนใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนฟังการซ้อมอภิปรายของสส.ก้าวไกลแต่ละคน ดังนั้นการพิจารณางบประมาณรอบหน้า คาดหวังและขอให้ ครม. ส่งร่างงบประมาณมาให้เร็วกว่านี้ ขอให้ยึดเสมอว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นเรื่องของสภา การที่รัฐบาลต้องปฏิทินอยากให้พิจารณาวันนี้แล้วไปรับงานที่สำคัญในสัปดาห์อื่นๆ เหมือนมัดมือชกสภาต้องพิจารณาในสัปดาห์นี้เท่านั้น เป็นการไม่ให้เกียรติสภา ดังนั้นการพิจารณาร่างงบประมาณฉบับหน้า รัฐบาลควรพูดคุยกับสภาก่อนจะพิจารณาวันใด ส่วนความกังวลจะพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ เสร็จไม่ทันตามกรอบ 105 วันนั้น เชื่อว่า สามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ เราพร้อมให้ความร่วมมือ

ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล คนที่ 1 กล่าวถึงการเตรียมรับมือของพรรคฝ่ายรัฐบาลต่อการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ในวาระแรก ของฝ่ายค้าน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเริ่มพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (3 ม.ค.67) เป็นวันแรกว่า ฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้มีความกังวลต่อการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 67 เพราะข้อมูลต่างๆ ในการใช้งบของรัฐบาล ทางรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ได้ส่งหัวข้อสำคัญเพื่อเตรียมให้ฝ่ายรัฐบาลได้อภิปรายสนับสนุนรัฐบาลไว้แล้ว

ขณะเดียวกัน เห็นว่า ในสมัยนี้พรรคเพื่อไทย มี สส. ที่เป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้ที่มีการศึกษาดีและสามารถเรียนรู้ได้เร็ว มีความสนใจ ใส่ใจ ติดตามเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 67 ในวาระแรก มาโดยตลอด และได้มีการจัดแบ่งผู้อภิปรายเรื่องต่างๆ ออกเป็นกลุ่ม โดยการอภิปรายร่างกฎหมายงบในครั้งนี้ ตนมีความมั่นใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะฝ่ายรัฐบาลมีการเตรียมตัวที่ดี และรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมย้ำเชื่อว่าการอภิปรายร่างกฎหมายงบในครั้งนี้จะไม่มีปัญหาใดๆ แน่นอน

เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านมีการอภิปรายร่างกฎหมายงบฯ ปี 67 ในส่วนของงบกรมราชทัณฑ์ แล้วเชื่อมโยงถึงการควบคุมตัว นายทักษิณ มีความเห็นอย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องของนายทักษิณ ที่มีการวิจารณ์ถึงการเอื้อประโยชน์ นั้น ต้องไปดูที่ระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ที่ออกมาตั้งแต่เมื่อปี 2560 แล้ว ซึ่งตนเห็นว่า นายทักษิณ เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับอานิสงค์จากระเบียบฉบับนั้น เพราะฉะนั้น ตนมองว่าระเบียบใดที่มีอยู่แล้ว ไม่ควรจะไปแตะต้องให้เกิดปัญหา

ทั้งนี้ เชื่อว่าการอภิปรายร่างกฎหมายงบฯ ปี 67 ทางฝ่ายค้านจะมีการติชมการจัดงบของแต่ละกระทรวงที่ไม่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมเชื่อมั่นด้วยว่านักการเมืองรุ่นใหม่ของฝ่ายค้านจะเตรียมตัวมาดี ไม่นำเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับงบมาอภิปรายในสภาฯ และไม่นำการเมืองมาเล่นในสภาฯ เพราะยังไม่ถึงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งเมื่อฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบของรัฐบาลผ่านการอภิปรายแนะนำการใช้งบ ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องรับฟัง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ ต่อไป ดังนั้น ฝ่ายรัฐบาล จึงไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์มาคอยตอบชี้แจงข้ออภิปรายของฝ่ายค้าน เพราะไม่ใช้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายวิสุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทางพรรคเพื่อไทย ได้พยายามแจ้งกับ สส.ของพรรค ที่จะไปทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างกฎหมายงบฯ ปี 67 ว่า ขอให้ตั้งใจตรวจสอบติดตามการจัดทำงบให้ละเอียดอย่างเต็มที่ อย่าให้มีช่องโหว่ให้เกิดการทุจริต เนื่องจากอาจเป็นปัญหาต่อรัฐบาลในอนาคตได้ นอกจากนี้ ตนมีมุมมองว่า การพิจารณาร่างกฎหมายงบฯ ปี 67 ของ สส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จะร่วมมือกันตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายราชการ โดยจะไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ อีกแล้ว พร้อมกล่าวเปรียบเปรยว่า ของแบบนี้ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าการจัดงบฯ ครั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี จะเป็นประโยชน์และแก้ปัญหาของประเทศ ได้อย่างแน่นอน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า