SHARE

คัดลอกแล้ว

‘อภิชาติ ขันธวิธี’ ซีอีโอ QGEN Consultant กล่าวถึงอนาคตการจ้างงานในประเทศไทยว่า กำลังเผชิญความเสี่ยง และน่าเป็นห่วงมาก เพราะจากงานวิจัยที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ทำร่วมกับ Future Lab เรื่องอนาคตการทำงานของประเทศไทยในปี 2573 พบว่าจะมีคนไทยจำนวนมากถึง 17 ล้านคน ที่อาชีพของพวกเขาหายไป หรือถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีจากรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไป โดยสายงานหลักที่จะกระทบมากคือ สายงานบริการ เกษตรกรรม และกลุ่มแรงงานทักษะต่ำ

งานวิจัยล่าสุดจาก AWS ที่ออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำรวจเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก และมีองค์กรบริษัทจากประเทศไทยเข้าร่วมด้วย 600 แห่ง พบว่าอีก 4 ปี องค์กรธุรกิจทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกถึง 92% จะใช้ Generative AI ในองค์กรมากขึ้น

วันนี้อาจจะดูเหมือนว่ายังใช้อยู่ในกลุ่มสายงานไอที และมาร์เก็ตติ้ง ส่วนในกลุ่มสายงานผลิตจะเป็นเอไอสายออโตเมชั่นและโรบอท แต่ในไม่ช้าจะมีการนำ Gen AI มาใช้ครอสฟังก์ชั่นการทำงานทั้งฝ่ายบุคคล บัญชี ฝ่ายประสาน ฯลฯ มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ในงานวิจัยฉบับเดียวกันยังมีประเด็นน่าสนใจที่ถามภาพรวมประเทศต่างๆ ว่า ถ้าวันนี้องค์กรอยากจ้างพนักงานที่มีความรู้ความสามารถในการใช้งาน Gen AI องค์กรพร้อมเพิ่มขึ้นเงินดือนให้พนักงานเท่าไหร่

โดยเฉลี่ยองค์กรต่างๆ บอกว่าวันนี้พร้อมเพิ่มเงินเดือนให้เลย 31%

สำหรับประเทศไทยระบุมากกว่านั้นคือ ให้เงินเดือนเพิ่มได้มากกว่าถึง 41%

แปลว่าวันนี้ถ้าใครใช้ Gen AI และโปรแกรม AI ต่างๆ ได้เชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพองค์กรพร้อมจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้

นึกภาพจะคล้ายสมัยก่อนที่การใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยมถูกระบุเป็นความสามารถพิเศษ องค์กรยอมจ่ายเงินเพิ่มให้คนที่มีภาษาดี วันนี้หลักการเดียวกันว่าองค์กรยอมจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้ และต่อไปเชื่อว่าในอีก 3-4 ปีข้างหน้า เมื่อทักษะการใช้ AI เป็นเรื่องสากลแล้วก็จะเป็นเรื่องจำเป็นต้องมีในทุกคนเงินเดือนก็จะไปสู่มาตรฐานค่าเฉลี่ย ยกเว้นว่าในอนาคตจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาให้ต้องฝึกฝนและเรียนรู้กันอีก

คำถามสำคัญคือ วันนี้เราใช้งานเอไอเป็นหรือยัง ดังนั้นฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลแต่ละองค์กรจะต้องวางโรดแมปพัฒนาพนักงานให้เริ่มฝึกฝนได้แล้ว และเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ คือการปลูกฝังเรื่องจรรยาบรรณในการใช้ Gen AI ทั้งเรื่องลิขสิทธิ์และข้อมูลต่างๆ ว่าใช้ได้มากน้อยแค่ไหน การนำข้อมูลองค์กรเข้าระบบและให้ Gen AI วิเคราะห์ข้อมูล มีข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กรถูกผูกเข้าไปใน Gen AI มากน้อยแค่ไหน ต้องวางระบบให้มีการระมัดระวังกันด้วย

โลกการทำงานในอนาคตเป็นสิ่งที่เราต้องปรับตัวอย่างมาก เพราะอีกไม่กี่ปีข้างหน้าผลวิจัยจาก McKinsey สรุปว่า 1 ใน 16 คน มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสายงานของตัวเอง ถ้านับเป็นประชากรโลกก็คือ 100 ล้านคน และงานทุกสายงานต้องการ Skill สูงขึ้นกว่าเดิม และต้องการความสามารถมากขึ้น

ถ้าอีก 5 ปี ข้างหน้าเราพัฒนาตัวเองไม่ทัน ทางออกคือ อาจต้องย้ายสายงานไปทำงานอย่างอื่นที่ยังเปิดกว้างและเติบโตอยู่ อาทิ งานกลุ่มอีคอมเมิร์ซ พลังงานสะอาด เฮลท์แคร์ การศึกษา ใครยังอยู่ในสายงานนี้ยังมีพื้นที่ให้เยอะหน่อย แต่ถ้าไม่อยู่ในสายงานนี้เราอาจจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงในอนาคตได้

ซีอีโอ QGEN Consultant ยังบอกด้วยว่า อีกหนึ่งตัวเลขที่ World Economic Forum วิจัยเรื่องอนาคตของอาชีพ ในปี 2030 จะมีตำแหน่งงานใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ 69 ล้านตำแหน่งงาน แต่ 89 ล้านตำแหน่งที่เราเคยทำจะหายไป แต่คนที่ยังทำงานในสายงานกลุ่ม เฮลท์แคร์ การศึกษา พลังงานสะอาด ยังคงเป็นสายงานที่มีโอกาสพัฒนาหรือเพิ่มตำแหน่งได้ต่อไป แต่สายงานอื่นมีแนวโน้มอาจถูกลดไปด้วยเช่นกัน

ดังนั้นหลายอาชีพใหม่ๆ หรือ Skill ใหม่ที่จะต้องใช้ในอนาคตกับพนักงาน ฝ่าย HR ควรต้องวางโรดแมปประเมินองค์กรตัวเองว่าอีก 5 ปี องค์กรจะขาดแคลน Skill แบบไหน และเราอยากพัฒนาพนักงานของเราก็ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะหลาย Skill ต้องใช้เวลาและมี Learning Curve ของมันเอง ไม่สามารถทำได้สั้นๆ และพิจารณาว่าองค์กรเราสามารถสร้างพนักงาน Skill ใหม่ได้หรือไม่ ถ้าหากพัฒนาร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ จะต้องซื้อตัวมาก่อนหรือไม่ใน Skill ที่เราจำเป็น ระหว่างนี้ก็ต้องใช้เวลาพัฒนาพนักงานของเราไปให้ถึงจุดที่ต้องการ ก่อนที่ทั้งตลาดโลกและตลาดแรงงานของไทยจะขาดแคลน Skill เหล่านี้มากขึ้นกว่าเดิม

 

เรียบเรียงจากงาน People Performance Conference 2024 หัวข้อ World of work in 2030 จัดโดย Creative Talk

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า