‘ไฟเซอร์’ เปิดผลทดสอบวัคซีน ปลอดภัยสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ใช้ปริมาณต่อโดสลดลง 3 เท่า

เผยผลทดสอบวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปี พบปลอดภัยและกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ใช้ปริมาณต่อโดสน้อยลง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปริมาณที่ใช้ในกลุ่มอายุ 12 ปีขึ้นไป

วันที่ 20 ก.ย. 2564 ไฟเซอร์ (Pfizer) และ ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) ประกาศผลการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเฟสที่ 2 / 3 ในกลุ่มเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-11 ปี อย่างเป็นทางการ พบว่ามีความปลอดภัยและตอบสนองต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี 

ในการทดสอบครั้งนี้ ทางไฟเซอร์ทำการฉีดวัคซีนปริมาณ 10 ไมโครกรัม ซึ่งน้อยกว่าปริมาณปกติที่ฉีดให้ผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไปที่ 30 ไมโครกรัม โดยเว้นระยะห่างระหว่างโดส 21 วัน 

ผลการทดสอบพบว่า กลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีที่ได้รับวัคซีนปริมาณ 10 ไมโครกรัมต่อโดส มีการตอบสนองแอนติบอดีเทียบเท่ากับกลุ่มอายุ 16-25 ปีที่ฉีดในปริมาณ 30 ไมโครกรัมต่อโดส   

ครั้งนี้นับเป็นผลการทดสอบแรกที่ออกมาสำหรับกลุ่มอายุดังกล่าว นับเป็นข่าวดีในสหรัฐฯ หลังจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเด็กในสัดส่วนกว่า 1 ใน 5 และการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ก็ทำให้มีเด็กต้องเข้าโรงพยาบาลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

การทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบวัคซีนในเด็กอายุ 6 เดือน – 11 ปี ในสหรัฐฯ ฟินแลนด์ โปแลนด์ สเปน โดยมีผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด 4,500 ราย ซึ่ง 2,268 รายในกลุ่มนี้มีอายุระหว่าง 5-11 ปี 

สำหรับกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ดร.บิลล์ กรูเบอร์ รองประธานอาวุโสของไฟเซอร์เผยว่า คาดว่าจะได้รับผลการทดสอบอย่างเร็วที่สุดในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้