เลือกตั้ง 66 “พี่เขาว่าผมก่อน เขาไม่ได้ว่าผมส่วนตัว เขาว่าพรรคหนักกว่าว่าส่วนตัวอีก” อนุทิน พูดอีกครั้งกรณี เศรษฐา

‘อนุทิน’ ปัดต่อสายเคลียร์ใจ ‘เศรษฐา’ ย้ำไม่มีเรื่องส่วนตัว แต่กล่าวหาพรรคหนักกว่า ฝากยินดี ‘แพทองธาร’ ได้ลูกชาย ส่วน ‘ทักษิณ’ ขออนุญาตกลับไทยจะมาเลี้ยงหลานขอไม่วิจารณ์ ย้ำพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนพรรคที่ได้ ส.ส. มากสุด ได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยพาดพิงพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นหน้าที่ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่า ทำให้พรรคเสียหายหรือไม่ หากทำให้พรรคเสียหายก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ฟ้องร้อง ใครก็ตามที่ได้รับความเสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้ หากเป็นการให้ความเท็จ หรือด้อยค่านโยบาย ไปพูดวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้เสียหายในเชิงลบ คนที่เสียหายคือผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเศรษฐาก่อนเข้าการเมืองเป็นคนอย่างไร นายอนุทิน หัวเราะพร้อมกับตอบว่า ถามเรื่องอื่นดีกว่า และว่า “โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต” พร้อมระบุ ไม่มีการโทรเคลียร์ใจกับนายเศรษฐาว่า “จะไปโทรทำไม มาถึงขนาดนี้แล้ว”

“พี่เขาว่าผมก่อน เขาไม่ได้ว่าผมส่วนตัว เขาว่าพรรคหนักกว่าว่าส่วนตัวอีก ถ้าว่าส่วนตัวผมยังถือว่า เป็นพี่ๆน้องๆ แต่นี้ว่าพรรค ผมจำเป็นต้องตอบโต้ ไม่มีอะไรเรื่องส่วนตัว ถ้ามีเรื่องส่วนตัวคงไม่เรียกพี่นิด” นายอนุทิน ระบุ

กรณีจดหมาย “จาก หนูถึง พี่นิด” มองการทำการเมืองของนายเศรษฐาทำให้ทางเดินทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยแคบลงอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าในพรรคเพื่อไทยถึงเวลาจริงๆ ก็จะรู้ว่า ใครเคาะได้ ใครได้แต่พูด คนในการเมืองรู้ดี ตนไม่กังวลเรื่องเหล่านี้

ส่วนจะปิดประตูในการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในอนาคตหรือไม่นั้น นายอนุทิน มองว่า ถึงเวลาเมื่อมีการพูดคุยจะมีช่องทางในการพูดคุย ถ้าจำเป็นต้องพูดคุย ซึ่งมีในทุกพรรคการเมือง และจะรู้ว่า ใครเป็นตัวจริง

กรณีนายเศรษฐาในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เป็นเงื่อนไขที่พรรคภูมิใจไทยจะไม่พูดคุยด้วยหรือไม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยทางการเมืองกับพรรคใด มีแต่ดูแลตัวเองไม่ให้บอบช้ำจากการกล่าวหา หรือให้ร้ายจากผู้อื่น และลงพื้นที่ให้มากที่สุด

ทั้งนี้ การที่พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงโดยมุ่งเป้าโจมตีที่อีสานใต้ เพราะไม่มั่นใจในฐานคะแนนเสียงหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์ สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง

“ไม่ใช่ไปพูดว่า อย่าไปเลือกภูมิใจไทยนะ เดี๋ยวลุงตู่มาแบบนี้พูดไม่ได้ อันนี้เป็นการโน้มน้าวให้เกิดความเข้าใจผิด คนสมัครพรรคภูมิใจไทยก็เสียหาย ตรงนี้ถ้ามีประเด็นกฎหมายก็ต้องดำเนินการ” นายอนุทิน กล่าว

พร้อมกับยืนยันว่า หากพรรคภูมิใจไทย ได้รับเลือกตั้งมาเป็นจำนวนมากเพียงพอ จำเป็นต้องรับตำแหน่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือ ตำแหน่งใดๆ พรรคภูมิใจไทยก็ต้องให้คนของพรรคดำรงตำแหน่งนั้นๆ

“จริงๆ ไม่อยากพูดเรื่องนี้ ไม่อยากยกตัวเอง ถ้ามีคนว่ากล่าวให้ร้ายแบบนี้ต้องพูดให้ชัดเจน ว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยมา อนุทินเป็นนายกฯ” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า มองแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มีวุฒิภาวะกว่านายเศรษฐา หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ พร้อมกับเปลี่ยนเรื่อง โดยกล่าวว่า วันนี้ขอแสดงความยินดีกับนางสาวแพทองธารที่ได้ลูกชาย ซึ่งตอนแรกก็ตั้งใจจะโพสต์ลงเฟซบุ๊ก แต่ก็เกรงว่า จะถูกตีความ ว่าเป็นการทอดสะพานทางการเมืองและจะมีการตีความจนวุ่นวายไปอีก แต่ในความที่รู้จักกัน รักใคร่ชอบคอกัน ก็ฝากความแสดงความยินดีๆ เพราะคนที่มีลูก ทราบดีว่า จะมีความสุข รวมถึงฝากแสดงความยินดีไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะคุณตาด้วย

ส่วนกรณีนายทักษิณ ทวีตขออนุญาตกลับไทยเพื่อจะมาเลี้ยงหลานนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่พรรคจะมาวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะหลีกเลี่ยงพูดถึงพรรคอื่น ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม

สำหรับจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ย้ำว่า เคยแถลงเรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งพรรคจะสนับสนุนให้พรรคที่ได้จำนวน ส.ส. เป็นอันดับ 1 ได้โอกาสจัดตั้งรัฐบาลก่อน และพรรคไม่เห็นด้วยให้คนอยู่นอกบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายถึงผลโพลของพรรคว่า ก็ยังดีอยู่ ซึ่งหากไม่ติดปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะ ‘ครม.รักษาการ’ คงลงพื้นที่ และหวังว่า จะได้จำนวน ส.ส. ให้ได้มากที่สุด เท่าไหร่ก็เท่านั้น เพราะคนตัดสินใจคือประชาชน

ฟาดกันเรื่องอะไร? สรุป เศรษฐา vs อนุทิน 

‘เศรษฐา’ โต้ ‘อนุทิน’ ยันยังเป็นคนเดิม แต่พร้อมจะขัดแย้งเพื่อเปิดกว้างอนาคต