เลือกตั้ง 66 สรุป เศรษฐา vs อนุทิน ฟาดกันคนละหมัด

นับถอยหลังวันหย่อนบัตรลงคะแนนเสียง เลือกตั้ง ส.ส. 2566 แต่ละพรรค ขยันทำคะแนน รวมทั้งการปราศรัยก็ดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ คู่ล่าสุด ที่มีวิวาทะต่อกันคือ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย กับ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เรื่องราวเป็นมาอย่างไร สรุปไว้ ดังนี้

เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้าที่ถือธงนำพรรคเพื่อไทย แทน แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่เพิ่งคลอดลูกชาย เดินสายขึ้นเวทีปราศรัยในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวทีที่โรงเรียนธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 เศรษฐา ได้กล่าวพาดพิงถึง พรรคภูมิใจไทย รวมทั้งนโยบายกัญชา ที่ออกตัวว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับ ‘กัญชาเสรี’

โดยตอนหนึ่ง นายเศรษฐา ปราศรัยด้วยเสียงที่แหบว่า “สำหรับพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาล ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นำความล้มเหลวมาสู่พี่น้องประชาชน ดังนั้น วันที่ 14 พ.ค. เป็นวันเลือกตั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะพี่น้องทนทุกข์มา 8 ปีของรัฐบาลประยุทธ์ พอแล้วหรือยังกับรายจ่ายสูง รายได้ต่ำ”

“วันนี้จึงมาขอร้องอ้อนวอนว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ หากพรรคไหน โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย มาบอกว่า ให้ยก ส.ส.เขตให้เขา แล้วพรรคให้เลือกเพื่อไทย เรายอมไม่ได้ เพราะหากเลือกเขาเข้ามา เขาก็เอา “ลุงตู่” กลับมาอีก ถ้าไม่เอาลุงตู่ ก็ต้องไม่เอาภูมิใจไทย”

“…ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ ลูกหลานถูกมอมเมา ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผู้เสพจะเปลี่ยนเป็นผู้ป่วย ผู้ค้ายาจะถูกจับโดยเด็ดขาด และจะถูกยึดทรัพย์โดยเร็ว ยาเสพติดเยอะขนาดนี้ พรรคภูมิใจไทย ยังเสนอกัญชาเสรีอีก เรายอมไม่ได้ และอย่าให้เขามาหลอกเรา พรรคเพื่อไทย เชื่อกัญชาทางการแพทย์อย่างเดียว ดังนั้น 14 พฤษภาคมเข้าคูหา กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบทั้งแผ่นดิน”

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบโต้กลับทันที โดยกล่าวถึงนายเศรษฐาว่า “นี่คือความอ่อนหัดทางการเมือง นึกไม่ถึงว่าพรรคเพื่อไทยจะเลือกคนที่มีวุฒิภาวะแบบนี้มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้งๆ ที่ทุกโพลที่สำรวจ พรรคเพื่อไทยมีชัยชนะนำ ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดในการเลือกตั้งอยู่แล้ว ถ้ามั่นใจแบบนี้ก็ควรหาเสียงทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ มากกว่าการว่ากล่าวให้ร้ายพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย หรืออาจเป็นการจูงใจให้ประชาชนไม่เลือกพรรคการเมืองใดด้วยข้อความอันเป็นเท็จ”

“…คนที่จะเป็นผู้นำประเทศได้ต้องมีคุณสมบัติในการสร้างความรักความสามัคคี ซึ่งนายเศรษฐา ขาดคุณสมบัตินี้ มองว่า นายเศรษฐา ขาดวุฒิภาวะทางการเมือง แต่ถูกอุปโลกน์มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ จึงพยายามสร้างมูลค่าทางการเมือง แม้จะมีความมั่นใจ แต่ก็ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ สงสัยต้องลำบากน้องอุ๊งอิ๊งแล้ว เพราะดูจะมีวุฒิภาวะทางการเมืองสูงกว่าคุณเศรษฐาเยอะ พร้อมเห็นว่า ตอนนี้เสียงเขาแหบแล้ว อย่าแหบ เพราะปราศรัยให้ร้ายคนอื่น แต่ควรถนอมเสียงปราศรัยในทางที่ดีให้ประชาชนฟัง”

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล ยังได้ลงรูปในอดีตของนายอนุทินกับนายเศรษฐา พร้อมข้อความซึ่งทางแอดมินระบุว่ามาจากทีมงานของนายอนุทิน โดยนายอนุทินฝากให้มาเผยแพร่ต่อ โดยขึ้นต้นว่า “จาก หนู ถึง พี่นิด” มีรายละเอียดดังนี้

ไม่เคยคิดว่าจะต้องแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปราศรัยของพรรคการเมืองใด เพราะผมถือเป็นมารยาททางการเมือง และให้เป็นแนวทางผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ปราศรัยนำเสนอนโยบายพรรคภูมิใจไทย ไม่ปราศรัยใส่ร้ายใคร ไม่ด่า ไม่โจมตีใคร แต่วันนี้ ต้องขอกล่าวถึงการปราศรัยของคุณเศรษฐา ทวีสิน หรือ พี่นิด ที่ผมรู้จักมานานหลายปี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 2 ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ปราศรัย ที่จังหวัดนครพนม

1. พี่นิด เปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่เข้ามาสู่การเมือง ผมไม่อยากเชื่อว่า เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่กี่วัน พี่นิดจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรี จริงๆ จะเป็นไปได้ขนาดไหน

2. ในฐานะน้อง แต่เป็นนักการเมืองรุ่นพี่ ขอแนะนำให้ทุกคนทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่ด่าคนไปทั่ว ไม่พูดเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ต้องศึกษาให้ดีก่อนจะพูด

3. พรรคภูมิใจไทย ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เราจึงออกกฎหมายมาควบคุมการใช้กัญชาทางที่ผิด ส่งเสริมการใช้กัญชาทางการแพทย์ สุขภาพ และ เศรษฐกิจ พี่นิดทราบไหมครับว่า พรรคเพื่อไทย ลงมติถอดกัญชา ออกจากประมวลกฎหมายยาเสพติด และ ลงมติรับหลักการร่างกฎหมายกัญชา กัญชง นี่คือ ความจริงที่ พี่นิด ควรรู้ ก่อนจะขึ้นเวทีปราศรัย และต้องรู้ด้วยว่า การที่พรรคเพื่อไทย และ พรรคการเมืองอื่นๆ ไม่สนับสนุนการออกกฎหมายกัญชา กัญชง จึงทำให้เด็กมีโอกาสเข้าถึงกัญชา ได้ เพราะไม่มีกฎหมายควบคุม

4. พรรคภูมิใจไทย เสนอชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ติดป้ายไปทั่วประเทศ ไม่เคยพูดว่า เลือก ภูมิใจไทย ได้ ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี การที่ พี่นิด ปราศรัยบนเวที ว่าเลือกภูมิใจไทย ได้ ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการให้ข้อมูลเท็จกับประชาชน ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

5. ผมยืนยันว่า เลือกภูมิใจไทย เบอร์ 7 เป็นอันดับ 1 อนุทิน จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะ พรรคภูมิใจไทย เสนอ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนเดียว แต่เลือกเพื่อไทย ไม่รู้ว่า เศรษฐา ทวีสิน จะได้เป็นหรือไม่ เพราะคะแนนนิยม ยังน้อยกว่า แพทองธาร ชินวัตร อีกมาก

6. พี่นิด เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่กี่วัน ทำให้พรรคเพื่อไทย มีทางเดินแคบลงทุกวัน สร้างเงื่อนไข ไม่จับมือพรรคนั้น พรรคนี้ ดูถูก ดูแคลนนักการเมืองทั่วไป ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ ทั้งๆ ที่พี่นิด เป็นคนหน้าใหม่ที่สุด ในเวทีการเมือง และ เป็นคนไม่มีประสบการณ์ในการเมือง

7. ในฐานะรุ่นพี่ทางการเมือง ขอบอกว่า นักธุรกิจบางคนไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง เพราะ เอาวิธีคิดแบบธุรกิจ มาใช้ในการทำงานการเมือง แต่ การเมือง ไม่ใช่ธุรกิจ นักการเมือง โดยเฉพาะคนจะเป็นผู้นำประเทศ ต้องสร้างความรักสามัคคีของคนในชาติ ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง หรือ สร้างกำแพง ใส่กัน

“หลังวันที่ 14 พฤษภา พี่นิด จะได้เรียนรู้การเมือง อีกแบบ ผมให้กำลังใจ ครับ” ลงท้ายในจดหมายดังกล่าว

[อนุทิน เผยรู้จักเศรษฐาตั้งแต่เด็ก เป็นรุ่นพี่ แต่ในทางการเมือง “ผมเป็นหัวหน้าพรรค”] 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ  AIM HOUR พูดถึงนายเศรษฐา ว่า “ผมกับคุณเศรษฐา เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เขาเป็นรุ่นพี่แล้วต่างคนก็ต่างนับถือ… เอาเป็นว่าในทางธุรกิจเราไม่มีอะไรต่างกัน แต่ในทางการเมืองผมเป็นหัวหน้าพรรค”

คลิปสัมภาษณ์ อนุทิน ที่ได้พูดถึงเศรษฐา ตั้งแต่นาทีที่ 15.15 น. 

คลิปสัมภาษณ์ อนุทิน ชาญวีรกูล ฉบับเต็มเป็นภาษาอังกฤษ : 

ล่าสุด อนุทินให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลกรณีการปราศรัยของเศรษฐา คลิกที่นี่เพื่ออ่านข่าว 

ขณะที่ เศรษฐา ก็เคลื่อนไหวสวนกลับ คลิกที่นี่เพื่ออ่านข่าว