Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

‘กมธ.ทหาร’ หารือ รมว.กลาโหม ชูโครงการ ‘พลทหารปลอดภัย’ เปิดช่องทางติดต่อร้องทุกข์ให้พลทหารใหม่ คาดเริ่มต้นเดือนเม.ย. นี้ ตั้งเป้าต้องไม่มีทหารเกณฑ์บาดเจ็บ-เสียชีวิตในค่ายอีก 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำ กมธ.การทหาร อาทิ ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข นายเชตวัน เตือประโคน นายเอกราช อุดมอำนวย นายชยพล สท้อนดี เข้าหารือกับ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม  ที่อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในวันนี้ (2 ก.พ. 67)

ภาพจาก พรรคก้าวไกล

โดยประเด็นสำคัญ คือโครงการพลทหารปลอดภัย ที่ กมธ.การทหาร ริเริ่มขึ้น เพื่อหามาตรการป้องกันและระงับยับยั้ งไม่ให้เกิดการทำร้ายทหารเกณฑ์ในค่ายทหาร โดยเฉพาะการกระทำที่เข้าลักษณะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การหารือวันนี้มีหลายเรื่องพูดคุยกันเพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ซึ่งกันและกันระหว่างกระทรวงกลาโหมและ กมธ.การทหาร เช่น การติดตามตรวจสอบกรณีเรือดำน้ำ การเก็บกู้เรือรบหลวงสุโขทัย กรณีที่ดินทหารทับซ้อนที่ทำกินของประชาชน แต่ละกรณีจะจัดการอย่างไรเพื่อให้ปัญหาของประชาชนคลี่คลาย ทำให้กองทัพมีความโปร่งใส ประชาชนรู้สึกไว้วางใจมากขึ้น
แต่เรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องการหารือ คือการขอความร่วมมือจาก รมว.กลาโหม เกี่ยวกับโครงการ ‘พลทหารปลอดภัย’ ที่ กมธ. จะเปิดตัวเป็นช่องทางร้องเรียนกรณีมีเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อสวัสดิภาพของพลทหารที่อยู่ในค่ายทหาร ช่องทางนี้จะติดต่อโดยตรงด่วนที่สุดไปยังหน่วยงานหรือบุคคลที่ รมว.กลาโหม มอบหมาย เพื่อสกัดกั้นการกระทำที่ไม่ถูกต้องหรือการลงโทษที่ผิดระเบียบ

อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ซ้อมทรมานที่เข้าข่ายการกระทำความผิด เราจะมีกระบวนการที่ชัดเจนในการรวบรวมหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่งถึงหน่วยงานเช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ อย่างถึงที่สุด และในการขอข้อมูลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ผ่านมา กมธ.การทหาร มักทำหนังสือไปถึงหน่วยงานเพียงครั้งเดียว เมื่อไม่ได้รับคำตอบก็เงียบหาย แต่ กมธ.การทหาร ในยุคที่ตนเป็นประธาน มีมติชัดเจนว่าจะทำหนังสือติดตามถึง 3 ครั้ง โดยทุกครั้งจะสำเนาถึง รมว.กลาโหม ด้วย

(ภาพจาก พรรคก้าวไกล)

ด้าน ร.ท. ธนเดช ประธาน กมธ.การทหาร คนที่ 2 ในฐานะผู้ดูแลโครงการพลทหารปลอดภัย กล่าวว่า โครงการนี้ กมธ. ต้องการทำงานร่วมกับกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ เพื่อแก้ไขปัญหาทหารเกณฑ์ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในค่ายทหาร ด้วยการเปิดเป็นช่องทางร้องเรียน มีหมายเลขโทรศัพท์และ LINE OA ให้พลทหารหรือพ่อแม่ผู้ปกครองที่พบความไม่ยุติธรรม หรือถูกลงโทษที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือรู้สึกไม่ปลอดภัยจากการเป็นพลทหาร สามารถร้องเรียนเข้ามา กมธ.การทหาร จะมีระบบหลังบ้านเชื่อมไปยังผู้ประสานงานของแต่ละเหล่าทัพ ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนจะแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที คาดว่าเริ่มโครงการได้ในช่วงทหารเกณฑ์ผลัดใหม่ ต้นเดือนเมษายนนี้

โดยระหว่างนี้ก่อนถึงช่วงเกณฑ์ทหาร กมธ.การทหาร จะเดินสายจัดอบรมสัมมนาสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ให้แก่นายทหารระดับบังคับบัญชา เช่น ตำแหน่ง ผบ.ร้อย ขึ้นไป เพื่อให้การเกณฑ์ทหารผลัดใหม่ที่จะมาถึง ดำเนินไปอย่างเคารพสิทธิมนุษยชน คำนึงถึงสวัสดิภาพของพลทหาร

“เมื่อวันนี้ยังไม่สามารถยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้ สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ คือทำช่องทางที่พี่น้องประชาชนสามารถไว้วางใจ ให้เราเป็นคนติดต่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โดยเป้าหมายของโครงการพลทหารปลอดภัย คือต้องไม่มีพลทหารหรือทหารเกณฑ์ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในค่ายทหารอีก” ร.ท. ธนเดช กล่าว

(ภาพจาก พรรคก้าวไกล)

ผู้สื่อข่าวถาม รมว.กลาโหมว่า วันนี้ได้หารือกันถึงเรื่องการปลอมใบ สด. 43 หรือไม่ กรณีเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ออกมาแถลงถึงหลักเกณฑ์การได้มาของใบ สด. 43 ซึ่งไม่ตรงกับใบ สด. 43 ของ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 พรรคก้าวไกล

นายสุทิน ตอบว่า ไม่ได้คุยกัน แต่เป็นนโยบายอยู่แล้วที่ต้องกำชับไปยังสัสดีทุกอำเภอ อย่างไรก็ตาม ก่อนจับใบดำ-ใบแดง ในการเกณฑ์ทหารใหม่ที่กำลังจะมาถึง จะมีการสื่อสารถึงขั้นตอนที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง

“ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล คุณจิรัฏฐ์ก็เป็นเรื่องของคุณจิรัฏฐ์ไป ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล แล้วเรื่องการของการตรวจสอบของกองทัพก็เป็นองค์กรของกองทัพก็ทำหน้าที่ไป ทุกคนแหละฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลได้” นายสุทิน กล่าว

ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ได้หารือในกรรมาธิการว่าเรื่องใบ สด.43  มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาหลายเรื่อง มีเหตุการณ์ที่สัสดีบางคน เอาเอกสารทางราชการซึ่งเป็นเอกสารจริง ลายเซ็นจริงมาหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน ตนคิดว่าเรื่องนี้ถามคนที่เดินดินกินข้าวแกงนี้ก็มีเสียงร่ำลือมาโดยตลอด ก็ยินดีที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ และเรื่องนี้ก็ได้ทำหนังสือถึง ผบ.นรด. แล้วว่า ให้ส่งเล่มใบ สด. 43 เดียวกันนั้นทั้งหมดมาให้กรรมาธิการตรวจสอบ และประสานกองพิสูจน์หลักฐานแล้วว่า เนื้อกระดาษตรงกันหรือไม่ ลายเซ็นของนายทหาร พันเอก พันโทจริงหรือไม่ ประชาชนที่ถูกหลอกปีหนึ่งกี่คน คิดเป็นมูลค่าเสียหายของประเทศชาติเท่าไหร่ เราจะทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และวันนี้ก็ยินดีอย่างมาก ที่ทาง รมว.กลาโหม บอกกำชับเรื่องนี้

“เบื้องต้นต้องขอความร่วมมือจากกระทรวงกลาโหมว่า นายทหารที่เซ็นนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ เป็นลายเซ็นจริงไหมถ้าเทียบกับฉบับอื่นๆ ก็ตรวจสอบได้ง่ายใช่ไหมครับ ถ้าเป็นลายเซ็นจริง มีตัวตนจริง คนปลอมก็ไม่ใช่ประชาชนแล้ว ยกเว้นเสียแต่ว่ามีหลักฐานที่พบว่า คุณจิรัฏฐ์หรือประชาชนคนอื่นๆ เป็นผู้จ้างวานหรือเป็นผู้สนับสนุน แต่ถ้าเกิดไม่มีหลักฐานก็หมายความว่าคนที่ทำปลอมก็เป็นนายทหารคนนั้นเสียเอง แต่เราไม่เหมารวมเพราะปัญหานี้เป็นปัญหาของบุคคลบางคนที่ทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น” นายวิโรจน์ กล่าว

“ก็ประเด็นว่าขั้นตอนที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ถ้าถามลูกชาวบ้านจะรู้ได้ยังไงว่าขั้นตอนที่ถูกต้องคืออะไร ก็ต้องกลับไปที่คุณจิรัฏฐ์ ณ วัยนั้นด้วยนะครับ และจริงๆ แล้ว คนที่โดนแบบคุณจิรัฏฐ์ ไม่น่าจะมีคุณจิรัฏฐ์คนเดียว ก็จะรื้อให้หมดครับว่ามูลค่าความเสียหายจากการหารือจากสด. 43 เป็นปีละเท่าไหร่ และมีการส่งต่อผลประโยชน์ไปยังนายทหารระดับสูงกี่ชั้นกี่ขั้น จะพยายามสืบให้ทราบให้ได้” นายวิโรจน์ กล่าวย้ำ

‘พิจารณ์-พล.ท.พงศกร’ นั่ง คณะกรรมการปัญหาเรือดำน้ำ

นายสุทิน ยังกล่าวถึง คณะกรรมการศึกษาเรื่องเรือดำน้ำ ที่ตนลงนามแต่งตั้งว่า คณะกรรมการจะประชุมนัดแรกในวันที่ 6 ก.พ. นี้ โดยจะไม่มี สส. เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า กรรมาธิการเข้าใจดีว่าเราไม่ว่าเข้าไปเกี่ยวในคณะกรรมการที่ราชการตั้งขึ้นได้ ได้มีที่ปรึกษาคนหนึ่งอาสา คือ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการชุดนี้ แต่ไม่ได้ไปในฐานะตัวแทนกรรมาธิการ การตัดสินใดๆ ทั้งมวลอยู่ที่วิจารณญาณและดุลยพินิจของนายพิจารณ์เอง ซึ่งตนเชื่อว่านายพิจารณ์ติดตามเรื่องนี้ มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ น่าจะช่วยคลี่คลายเรื่องนี้ได้

นายสุทิน กล่าวเสริมว่า ได้ยินว่าทาง กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ให้ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย ก็ถือว่ามีความหลากหลาย ยืนยัน คณะกรรมการมีอำนาจสมบูรณ์ โหวตได้เสนอแนะได้ทุกอย่าง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า