Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ชัยธวัช’ ถามกระทู้ คำถามประชามติ รธน. ใหม่ ชี้ล็อกไม่ให้แก้หมวด 1-2 อาจนำไปสู่ปัญหากีดกันฝ่ายเห็นต่าง จี้ถามจับกุมคุมขังประชาชนคดีการเมืองยังเดินหน้าต่อ แม้เปลี่ยนรัฐบาล ‘ชั้น 14 รพ.ตำรวจ’ สะท้อนสองมาตรฐานหรือไม่ ด้าน ‘ภูมิธรรม’ แจง คกก.ศึกษาฯ ถามความเห็นทุกฝ่ายแล้ว ยืนยันไม่เอา แก้หมวด 1-2 ย้ำไม่เห็นด้วยกรณีคุกคามนักกิจกรรม แต่ขออย่าเพิ่งท้าทายกฎหมาย กรณีชั้น 14 เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายใหม่

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (11 ม.ค. 67) มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตั้งกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มาตอบ แทน

นายชัยธวัช ได้ถามถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยให้มากขึ้น กรณีคณะกรรมการศึกษาประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ จะเสนอไปยังรัฐบาล ในการทำประชามติครั้งแรก ใน 3 ครั้ง คำถามประชามติ ครั้งแรกจะถาม 1 คำถาม โดยจะถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์” ว่า รัฐบาลจะทบทวนคำถามหรือไม่

โดยสรุป นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล เรามีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการตั้ง สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และที่ผ่านมาก็ไม่ได้เคยมีข้อเสนอใดๆ ที่จะให้มีการแก้ไข หมวด 1 หรือหมวด 2 แต่คำถามที่คณะกรรมการฯ กำลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณานั้น มันมีปัญหาที่จะต้องท้วงติงและวิพากษ์วิจารณ์จริงๆ เห็นว่า คำถามที่จะเสนอนั้น ขัดต่อหลักการสำคัญที่ว่าประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ที่จะต้องมีการยกเว้นจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ได้ แต่ห้ามทำใหม่ทั้งฉบับ

“คำถามคือตกลงในสังคมไทย ผู้ที่จะสามารถเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทั้งฉบับ จะมีเพียงแค่คณะรัฐประหารที่จะมาฉีกรัฐธรรมนูญอย่างตามใจชอบอย่างนั้นหรือ ตกลงประชาชนไม่มีสิทธิใช่ไหมครับ” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า เราคาดหวังว่ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ จะเป็นกระบวนการสำคัญให้สังคมไทย แสวงว่าฉันทามติใหม่ร่วมกันได้ และไม่เชื่อว่าจะมีความคิดเห็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไปอยู่ในรัฐธรรมนูญเพียงฝ่ายเดียว เพราะสุดต้องเป็นสิ่งที่เรายอมรับที่จะอยู่ร่วมกันได้ แต่การตั้งคำถามแบบนี้ จะส่งผลให้ประชาชนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน บางส่วนรู้สึกว่าพวกเขาถูกกีดกันจากการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ตั้งแต่วันแรก และว่า คำถามประชามติแบบนี้ มีปัญหา เพราะเป็นคำถามที่กังวลมากเกินจำเป็น โดยไม่จำเป็นของรัฐบาล ที่อาจจะไปสร้างปัญหาใหม่โดยไม่จำเป็นขึ้นมาด้วย

ด้าน นายภูมิธรรม รองนายกฯ ตอบโดยสรุปว่า เราเห็นว่าประเด็นนี้เป็นปัญหา ท่านเห็นว่าไม่ควรสนใจเรื่องนี้กลัวจะเป็นปัญหา แต่ท่านต้องดูความเป็นจริง ความเป็นจริงมันบอกเรามาทุกครั้ง ก่อนตั้งรัฐบาลนี้ก็เห็นทุกพรรคการเมือง เขาก็บอกไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 จึงเป็นเหตุที่เขาไม่สามารถร่วมมือกับพรรคท่านได้ เพราะเราเห็นจากการกระทำ ตรงนี้เป็นปัญหาจริงๆ ตนคิดว่าประเด็นที่จะให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นและสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ถ้าเราไม่กังวลอยู่กับเรื่องนี้ และยอมรับว่ามีคนอีกส่วนใหญ่ของประเทศเขาเป็นห่วงและกังวลใจเรื่องนี้ ถ้าเราปล่อยข้ามเรื่องนี้ไป ตนคิดว่าทางออกของสังคมจะไปได้ง่ายขึ้น พรรคเพื่อไทยคิดอย่างนี้มาตลอด

“การไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เนี่ย มันทำให้หลีกหนีจากปัญหาที่มันจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นความขัดแย้งใหม่ เห็นเหมือนกับท่านเลยครับว่า แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ผมก็เชิญชวนท่านมาแสวงจุดร่วมกัน ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ตกค้างมากอยู่ ถ้าท่านยอมละเว้นปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป แล้วมาทำให้ทุกอย่างเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เท่าที่ผมถาม เท่าที่ออกไปสำรวจ เท่าที่ออกไปทำเสียงส่วนใหญ่ทั้งหมดครับ กลุ่มวิชาชีพต่างๆ เขาไม่เอา หมวด 1 หมวด 2 ไม่ให้มาแตะ เพราะฉะน้้นส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด เป็นความเห็นที่แตกต่างจากท่าน จากพรรคการเมืองของท่านนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะชวนจริงๆ ผมต้องชวนท่านครับ ชวนมาอยู่ร่วมกันมาแสวงหาจุดร่วมกัน อย่าไปแตะเลยครับเรื่องนี้ เป็นความไม่สบายใจของคนส่วนใหญ่ของประเทศ แล้วมาคิดกันว่าจะทำให้รัฐธรรมนูญ เป็นประชาธิปไตยได้มากยังไง ทำยังไงจะให้อำนาจของประชาชนได้สามารถทำอะไรได้มาก”

“อย่าไปหมกหมุ่นอยู่กับประเด็นเดียว ผมคิดว่ารัฐธรรมนูญนี้จะเป็นประชาธิปไตยได้ ผมคุยกับทุกคนมาเขาบอกเขายินดีให้เป็นประชาธิปไตยทั้งหมด อยากแก้อะไรที่สามารถแก้ เขาจะมาร่วมแก้ด้วยเพราะเขาเห็นปัญหาแล้ว ทำไมต้องแตะหมวด 1 หมวด 2 ละครับ ทำไมประเด็นปัญหานี้ท่านถึงกังวลใจมาก จนต้องหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทุกครั้ง คนที่ทำให้เป็นประเด็นไม่ใช่ส่วนใหญ่นะครับ เป็นประเด็นของพรรคท่านที่กังวลใจเรื่องนี้มากเกินไป ผมว่าถ้าท่านละเว้นเรื่องนี้ได้ปัญหาจะได้รับการแก้ไข แล้วเราจะสามารถสถาปนารัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นได้” นายภูมิธรรม กล่าว

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ระบุด้วยว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลจะทบทวนหรือไม่ วันนี้เรื่องยังไม่ถึงรัฐบาล ยังอยู่ที่คณะทำงาน เราจะเอาตามเสียงส่วนใหญ่ แต่เราเคารพเสียงที่แตกต่าง เราจะบันทึกให้ ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักนายกรัฐมนตรี สรุป เราพยายามจะให้เสร็จภายในเดือนมกราคมนี้

จากนั้น นายชัยธวัช ได้ถามคำถามที่ 2 เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลในการฟื้นฟูหลักนิติรัฐที่เข้มแข็ง โดยระบุว่าสถานการณ์เกี่ยวกับการดำเนินคดีทางการเมืองตั้งแต่ก่อนและหลังการมีรัฐบาลชุดใหม่ แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ในปี 2566 มีประชาชนถูกคุกคามทางการเมืองไม่น้อยกว่า 203 กรณี เป็นกรณีที่เกิดขึ้นหลังมีนายกรัฐมนตรีใหม่แล้ว 70 กรณี

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ขณะที่สถานการณ์เกี่ยวกับการดำเนินคดีทางการเมืองไม่มีความเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกถึงกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐานกลับรุนแรงมากขึ้น จากกรณีที่มีบุคคลที่ได้รับสิทธิในการรักษาตัวนอกเรือนจำบนชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเมื่อเทียบเคียงกับกรณีนักโทษอื่นๆ ปรากฏว่ายากมากที่จะได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสม ต้องเป็นกรณีที่เจ็บป่วยร้ายแรงเท่านั้นถึงจะได้รับสิทธิ

“สุดท้าย สิ่งที่เกิดขึ้นตอกย้ำให้เกิดการตั้งคำถามถึงความเสมอภาคเท่าเทียมในกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลอาจบอกว่าถูกตามระเบียบ แต่ตอนนี้มีผู้ต้องขังได้รับสิทธิรักษาเกิน 120 วันอยู่เพียง 3 คนเท่านั้น” ชัยธวัชกล่าว

นายภูมิธรรมได้ชี้แจงว่า ในส่วนของคดีที่ประชาชนหรือนักศึกษาถูกใช้อำนาจไม่ถูกต้อง รัฐบาลก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการคุกคาม ควบคุมตัว หรือทำให้เกิดความหวาดกลัว แต่ขณะที่ยังมีกฎหมายอยู่ทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากมีกฎหมายที่ไม่ชอบธรรมก็ต้องเข้าสู่กระบวนการแก้ไขให้เรียบร้อย ถ้ามีกฎหมายอยู่แล้วไม่ปฏิบัติก็จะเกิดปัญหาตามมากับเจ้าหน้าที่

ตนจึงขอเชิญชวนว่า อะไรที่เป็นกฎหมายอยู่ก็อย่าเพิ่งไปท้าทายหรือทำอะไรที่ผิด แต่ถ้าเป็นประเด็นทางการเมืองก็ยังมีวิธีหารือหรือจับมือคุยกัน หาช่องทางแก้ไขร่วมกันได้ในหลายๆ กรณี ใช้กระบวนการเสวนาสร้างความเข้าใจกันด้วยสันติ ถ้าเป็นปัญหาในระดับกฎหมายก็แก้กฎหมาย ถ้าเป็นปัญหาทางปฏิบัติก็มาดูหาทางออกกัน ถ้ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายจากฝ่ายไหนก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้การจัดการที่ผิดถูกต้องที่สุด กรณีที่มีหลักฐานก็ขอให้นำมา กรณีที่ไม่มีหลักฐานก็ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก

ส่วนกรณีชั้น 14 นายภูมิธรรมชี้แจงว่า ท่านไม่ได้ทำความเข้าใจในรายละเอียดของกฎหมายที่ออกมาให้ชัดเจน กฎหมายนี้ออกมาเพื่อให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่ได้เกิดในสมัยรัฐบาลเพื่อไทย เกิดมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว ที่เล็งเห็นว่าผู้ต้องขังในเรือนจำล้นจริงๆ จึงพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้เป็นไปตามหลักสากล ให้มีกฎหมายขยายให้บุคคลที่เจ็บป่วยหรือใกล้พ้นวาระและปฏิบัติตัวดีสามารถใช้ชีวิตข้างนอกเรือนจำได้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้สร้างกฎหมายขึ้นมาเพื่อดูแลใคร และมีกระบวนการยุติธรรมบังคับอยู่แล้ว อย่าเอาเรื่องที่เป็นกระบวนการปกติมาโยนใส่รัฐบาลให้เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำไม่เสมอภาคกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย พยายามประท้วงประธานในที่ประชุม ให้รักษาเวลา ระหว่างการตั้งกระทู้ถามสดของนายชัยธวัช โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงและให้นายชัยธวัช ถามให้จบได้แม้เวลาจะเลยไปบ้างแต่ก็เล็กน้อย ซึ่งทางนายไชยวัฒนา ยังคงประท้วงอีกหลายครั้ง จนกระทั่ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงผู้ประท้วง เกิดการตอบโต้กันไปมาช่วงหนึ่ง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า