สรุปเลือกตั้งซ่อมส.ส.หลักสี่ – จตุจักร บางส่วน ‘เพื่อไทย’ ชนะขาดลอย ‘ก้าวไกล-กล้า’ เบียดสูสี 

‘สุรชาติ’ ชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หลักสี่ – จตุจักร คะแนนไม่เป็นทางการ 29,416 คะแนน ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ‘กรุณพล’ มาเป็นลำดับสอง ส่วน ‘อรรถวิชช์’ พรรคกล้าตามมาเป็นลำดับสาม

วันที่ 30 ม.ค. 2564 ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 20.15 น. นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้ชนะการเลือกตั้ง แถลงว่า ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ให้โอกาส ขอบคุณจากใจ ทุกคะแนนที่ได้ ไม่สามารถเอาอะไรมาทดแทน ขอบคุณทุกคนในพรรคเพื่อไทยที่ให้โอกาส ขอบคุณผู้สมัครทุกพรรคการที่ได้เสนอตัวเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนท่ามกลางผู้สมัครที่มีคุณภาพทุกพรรคการเมืองเป็นเกียรติอย่างมาก หาเสียงกันอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) จะขึ้นรถแห่เพื่อขอบคุณประชาชน

“ขอบคุณประชาชน ที่ผ่านมาในชีวิตมีพี่ป้าน้าอาหลายคน เป็นกำลังใจ แม้ในวันทีผมพ่ายแพ้ ผิดหวัง ขอบคุณทีมงาน ทุกคนคะแนนที่ได้มาแลกมาด้วยความตั้งใจมุ่งมั่น พบประชาชนทุกวัน ไม่ย่อท้อ ท้ายนี้ อยากบอกทุกคนว่าจะขอมุ่งมั่น ทำทุกวันให้มีคุณค่าให้สมกับประชาชนให้ความไว้วางใจ ขอเรียนว่าจะเป็นผู้แทนราษฎรของทุกคน ทั้งที่เลือกหรือไม่เลือก รับใช้เท่าเทียมทั่วถึง ทั้งในและนอกสภา” นายสุรชาติ กล่าว

ด้านนายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค กล่าวว่า ผลคะแนนไม่เป็นทางการบ่งชี้ ทิศทางการเมืองหลายเรื่อง เรื่องแรก ขอบคุณประชาชน มอบความไว้วางใจกับฝ่ายประชาธิปไตย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ มีพรรคการเมืองลงถึง 8 พรรค เหมือนมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด สุดท้ายฝ่ายประชาธิปไตยได้รับคะนนเสียงรวมกันมากกว่าร้อยละ 60 ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง

‘กรุณพล’ พร้อมลงเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า

ส่วนที่วอร์รูมพรรคก้าวไกล นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร กล่าวแสดงความยินดีกับนายสุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทย ที่ชนะการเลือกตั้งเพราะเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากๆ จากที่เห็นในช่วงที่ได้เจอกันช่วงระหว่างหาเสียง พร้อมระบุดีใจกับคนเขตหลักสี่- จตุจักรมากๆ ที่ได้ผู้แทนอย่างนายสุรชาติ

นายกรุณพล กล่าวว่า นอกจากนี้ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชนที่เลือก จากนี้จะออกไปขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ ที่สำคัญของคุณทีมพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาเราได้ซึมซันความเป็นครอบครัว ความเป็นพรรคก้าวไกลที่ทุกคนมาช่วยทำให้พื้นที่นี้มีแสงสว่างอีกครั้ง หลังจากเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ต้องบอกเลยว่าตลอดเวลาที่ได้รับระหว่างหาเสียง ดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองไทยและพร้อมลงเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า หลังจากนี้จะทำงานลงพื้นที่ต่อเนื่อง

“หลังจากเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ต้องบอกเลยว่าตลอดเวลาที่ได้รับระหว่างหาเสียง จากประสบการณ์ที่ได้รับ 45 วันนี้ ผมดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองไทย และเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าจะได้เห็นเพชร กรุณพล เป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร อย่างแน่นอน จากนี้ผมจะยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง จะเดินทางไปรับฟังปัญหาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาอาจจะมีเวลาน้อยที่ได้ไปในพื้นที่ จากนี้เวลาสภาผู้แทนราษฎรเหลืออีก 1 ปี ตั้งใจว่าจะทำงานหนัก ประชาชนจะได้เห็นหน้าของผมมากขึ้นและบางทีอาจจะมากกว่าคนในครอบครัวของผมด้วยซ้ำ” นายกรุณพล กล่าว

พรรคกล้า ประกาศเป็นมวยยืนทำงานการเมืองแนวใหม่

ที่พรรคกล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตหลักสี่ จตุจักร แถลงภายหลังทราบผลการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อมอย่างไม่เป็นทางการ

นายกรณ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขอกราบขอบพระคุณจากใจทุกคะแนนที่มอบให้นายอรรถวิชช์ และพรรคกล้า และขอบคุณทีมงาน สมาชิก และผู้สนับสนุนพรรคกล้าทุกคน แน่นอนเราไม่ชนะเราย่อมรู้สึกผิดหวัง เพราะทุกครั้งที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเราคาดหวังจะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฏร แต่จากการเลือกตั้งครั้งนี้เราได้เรียนรู้แล้วว่า พรรคกล้ามาถูกทางที่นำเสนอการเมืองคุณภาพ สัญญาณที่ชัดเจนที่สุด คือ ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการผู้มีอำนาจที่ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

ด้าน นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคะแนนที่ให้ และมีข่าวดีแจ้งให้ทราบว่าฐานเสียงเดิมในเขตจตุจักร เรามาเป็นที่หนึ่ง ส่วนนายสุรชาติเป็นแชมป์เก่าในหลักสี่อยู่แล้ว และที่แน่นอน คือพรรคกล้าเป็นพรรคที่มีคะแนนเทียบเท่าพรรคก้าวไกล ที่มี ส.ส.อยู่ในสภา 50 คนแล้ว วันนี้เราเห็นชัดเจนการเมืองใหม่เกิดขึ้นแล้วในกรุงเทพมหานคร การทำการเมืองแบบใหม่ที่ทำให้เราขึ้นมาเป็นอันดับสอง หรืออันดับสามก็ตาม ทั้งนี้ การเลือกตั้งเที่ยวหน้าการเมืองคุณภาพจะเป็นเทรนการเมืองใหม่ที่ทุกพรรคต้องเดินตาม

เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ถือว่าพรรคกล้าแจ้งเกิดหรือไม่ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เห็นได้ชัดการเมืองแนวใหม่เกิดขึ้นแล้ว บอกตามตรงทีแรกลุ้นว่าจะออกมาทรงไหน จะเข้าที่สี่หรือที่ห้าเลยหรือไม่ แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ เพราะขณะนี้พรรคกล้ายืนเป็นมวยหลักในกรุงเทพฯ แล้ว

พปชร. ยอมรับความพ่ายแพ้ ถอดบทเรียนนำไปปรับปรุง

ขณะที่ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.หลักสี่ และนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานภาค กทม. แถลงขอบคุณทุกคะแนนที่ไว้ใจเลือกพรรคพลังประชารัฐ ขอยอมรับผลของการตัดสินใจของประชาชน และหลังจากนี้จะต้องกลับมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ทำดีที่สุดแล้ว ทำทุกมิติตามแบบแผนและสิ่งที่ควรจะทำ และขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ถึงสาเหตุว่าทำไมผลการลงคะแนนออกมาแบบนี้ ซึ่งหลังจากนี้ตนและนางสรัลรัศมิ์ก็จะกลับไปพักผ่อน และยืนยันว่าไม่มีอะไรที่จะเสียใจ เพราะทำดีที่สุดแล้ว และภายหลังจากที่คะแนนผลการเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้โทรมาบอกว่าไม่เป็นไร เดี่ยวค่อยว่ากันใหม่

ด้านนางสรัลรัศมิ์ ที่ได้กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือก และดีใจที่ได้ทำทุกสิ่งเพื่อประชาชน พร้อมขอแสดงความดีใจกับผู้ชนะ และขอให้ทุ่มเทดูแลประชาชน ฝากดูแลประขาชนในเขตหลักสี่ด้วย

ด้านนายจักรพันธ์ กล่าวว่า ในนามของ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ขอขอบคุณคะแนนเสียงของประชาชนทักคะแนน ถึงแม้ว่าคะแนนจะไม่มากพอให้นางสรัลรัศมิ์สามาีถเข้าไปทำหน้าที่ในสภาได้ ส่วนตัวจากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนมีความผูกพันธ์ สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และเชื่อว่านายสิระและนางสรัลรัศมิ์จะยังคงช่วยเหลือประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับทางผู้สมัคร แต่ด้วยประวัติในการเลือกตั้งของคน กทม. เหตุผลหลักคิดในการเลือกแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงคิดว่าต้องนำผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไปถอดบทเรียน แต่ก็ยังเชื่อว่าคน กทม. ยังให้การสนับสนุน

‘ไทยภักดี’ เดินหน้าทำงานการเมืองต่อ

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค ไทยภักดี แถลงภายหลังผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 9 พรรคเพื่อไทย มาเป็นอันดับ1 ว่าเราต้องยอมรับว่าพรรคไทยภักดีเริ่มต้นจากศูนย์ เรามีเวลาประมาณ 20 กว่าวันในการหาเสียง

และหากเปรียบเทียบเงื่อนไข เราเสียเปรียบทุกประตู เพราะเป็นพรรคใหม่ และผู้สมัครจากพรรคเราก็ใหม่ แต่เนื่องจากเรามีความตั้งใจ ซึ่งคะแนนที่ออกมาในขณะนี้ถือว่ายังไม่จบ ก็ถือว่ายอมรับได้ และมีบทเรียนเยอะพอสมควรที่จะนำไปใช้ปรับปรุงในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ขอขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจเราไม่ท้อ ไม่ถอยจะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เพียงแต่ครั้งนี้ประชาชนยังไม่เชื่อว่าพรรคไทยภักดีจะเป็นผู้ที่จะแก้ปัญหาให้บ้านเมืองได้ วันหนึ่งถ้าประชาชนเข้าใจและรู้จักเรามากขึ้นประชาชนจะไว้วางใจให้เราเข้าไปดูแลปัญหาของประชาชน

ด้านนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนให้ความไว้วางใจลงคะแนน ซึ่งในวันนี้เราอยู่ในขั้นที่มาจากศูนย์ สิ่งที่เกิดขึ้นก็จะนำไปเป็นกำลังใจไม่ย่อท้อ เดินต่อแน่นอน พร้อมกันนี้ขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่มาช่วยกันตลอด 20 กว่าวันที่ผ่านมาทุกคนมาช่วยด้วยหัวใจ

สรุปผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กรุงเทพมหานคร เขตหลักสี่-เขตจตุจักร (แขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม แขวงจันทรเกษม) วันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.65 เวลา 21.00 น.

นายสุรชาติ เทียนทอง หมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนสูงสุดที่ 29,416 คะแนน
นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หมายเลข 6 พรรคก้าวไกลได้ 20,361 คะแนน
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี หมายเลข 2 พรรคกล้า ได้ 20,047 คะแนน
นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ ได้ 7,906 คะแนน
นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ หมายเลข 1 พรรคไทยภักดี ได้ 5,987 คะแนน
นายเจริญ ชัยสิทธิ์ หมายเลข 8 พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้ 334 คะแนน
นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม หมายเลข 5 พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ 244 คะแนน
นางสาวกุลรัตน์ กลิ่นดี หมายเลข 4 พรรคยุทธศาสตร์ชาติ ได้ 190 คะแนน