Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

‘พิชิต ชื่นบาน’ กลับลำ ยื่นหนังสือลาออก จากตำแหน่ง ‘รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี’ มีผลทันที

“…เมื่อมีการยื่นคำร้องเกี่ยวกับข้าพเจ้า ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าได้ตรวจสอบและเชื่อมั่นโดยสุจริตแล้วว่า ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายทุกประการก็ตาม แต่เรื่องนี้ได้มีการพาดพิงไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี หัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดินต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ที่มีความจำเป็นต้องเดินหน้าด้วยความต่อเนื่อง ข้าพเจ้าจึงไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ในลักษณะยึดถือประโยชน์ส่วนตนยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนรวม”

“ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ให้ถือเป็นเจตนาของข้าพเจ้าที่มีต่อนายกรัฐมนตรี “ข้าพเจ้า ขอลาออกจากการดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” เพื่อให้นายกรัฐมนตรี เดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ โดยให้มีผลนับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป” นายพิชิต ระบุไว้ตอนหนึ่งในหนังสือลาออก

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา 40 สว. (สมาชิกวุฒิสภา) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของนายพิชิต ชื่นบาน หลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ (5) ประเด็นที่ว่าด้วยขาดความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ซึ่งในวันพฤหัสบดี ที่ 23 พ.ค. ที่จะถึงนี้จะมีการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม นายพิชิต ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่ทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่าการลาออก ไม่มีใครกดดัน

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 21 พ.ค. 67 ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโรมสาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกของนายพิชิตว่า การบริหารราชการแผ่นดิน มีทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องการเมืองก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ในฐานะนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ฝ่ายบริหารต้องน้อมรับคำติชมและกระบวนการของฝ่ายตุลาการหรือฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะตรวจสอบซึ่งถือเป็นธรรมดา ส่วนเรื่องของนายพิชิต เข้าใจว่า ท่านเพิ่งจะยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ในข้อเท็จจริงคุณพิชิต เห็นแก่ประโยชน์บ้านเมืองเป็นหลัก อยากให้นายกฯ และคณะรัฐมนตรีเดินไปข้างหน้าได้ ขณะที่ปัญหา ในบ้านเมืองก็หนักหนาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจซึ่งเมื่อวานนี้ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพิ่งจะแถลงตัวเลข GDP ซึ่งตัวเลขอยู่ที่ 1.5 ถือว่าต่ำติดดิน เข้าใจว่า ถ้ามีการพูดคุยกันกับทางเลขาธิการสภาพัฒน์ ไม่ว่าจะเป็นภาคบริการซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ได้ทำมาตลอด ในเรื่องของการท่องเที่ยว หลายๆเรื่องเราต้องเดินหน้าต่อไปเข้าใจว่านายพิชิตอยากให้รัฐบาลเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใยต้องขอขอบคุณในสปิริตที่แสดงออกมา”

ผู้สื่อข่าวถามว่า การลาออกของนายพิชิต เท่ากับเป็นการเปิดทางให้กับนายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ โดยไม่ต้องมีความกังวลอะไรใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่าเป็นการเสียสละ และไม่อยากไปกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้พิจารณาอย่างอิสระจริงๆ ในกรณีนี้มีคำถามมาเยอะ และมีข้อข้องใจเยอะ ฉะนั้นตัวท่านเองไม่อยากที่จะเป็นภาระของรัฐบาลจึงได้แสดงสปิริตออกมา จึงต้องขอขอบคุณ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต้องได้รับคำตอบจากกระบวนการยุติธรรม คำร้องของ สว. ต่อกรณีนายพิชิตนั้น อยู่ที่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะจำหน่ายคดีหรือไม่ แต่กรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังเป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยต่อจากการกระทำที่สำเร็จแล้ว เพราะการเสนอแต่งตั้งนายพิชิตเป็นรัฐมนตรี ถือเป็นการกระทำที่สำเร็จแล้ว จึงต้องย้อนกลับมาดูต้นเหตุว่า กรณีนายพิชิตขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 หรือไม่ ที่เกี่ยวข้องกับความซื่อสัตย์สุจริตและเรื่องจริยธรรม ตนเชื่อว่าการลาออกของนายพิชิตจะยังไม่จบ เพราะตัวนายกรัฐมนตรี ยังคงต้องรับผิดชอบตามรัฐธรรมนูญ

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ความซื่อสัตย์สุจริตและจริยธรรมเป็นเรื่องที่ประชาชนยังให้ความสนใจและต้องการคำตอบในมาตรฐานความซื่อสัตย์สุจริต จริยธรรมของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และความรุ่งเรืองของบ้านเมืองยังต้องพึ่งหลักสุจริต ถ้านายกรัฐมนตรีจะให้จบเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีก็ต้องลาออก ซึ่งจะทำให้คดีอาจเดินไปได้ยาก เพราะความเป็นรัฐมนตรีได้สิ้นสุด และไม่มีประเด็นให้ต้องวินิจฉัย เหตุเพราะประเด็นในการพิจารณาคดีคือความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงหรือไม่ เมื่อลาออกก่อนก็ถือว่าสิ้นสุดแล้วจะจำหน่ายคดี อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องรอดูคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะรับคำร้องไว้หรือไม่ และจะจำหน่ายคดีกรณีนายพิชิต รายเดียวหรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิชิต’ ท้าดวลเดี่ยว ’40 สว.’ ถกกฎหมาย เชื่อมีวงจนอุบาทว์ล้มรัฐบาล ‘เศรษฐา’

40 สว. ยื่น ศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน ‘เศรษฐา’ พ้นนายกฯ ปมแต่งตั้ง ‘พิชิต’ เป็นรัฐมนตรี

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า